the 5th Wave แวมไพร์ทไวไลท์ ที่เปลี่ยนจากแวมไพร์เป็นเอเลี่ยน
ไม่ได้ถือว่าเป็นการสปอยอะไรจากการจั่วหัวแบบนี้ เพราะในตัวอย่างหนังก็เห็นพล๊อตเรื่องมาแว๊ปๆแล้วสำหรับเรื่องนี้ ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าตัวหนังจริง ก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คาดไปซักเท่าไหร่
เนื้อเรื่องว่าด้วยการที่โลกถูกมนุษย์ต่างดาวบุก โดยมีการทำลายล้างเป็นระลอก จำนวน 4 ครั้ง ครั้งแรกคือ ทำให้ไฟดับ ครั้งที่สอง ภัยพิบัติ ครั้งที่สาม คือเชื้อโรค ครั้งที่สี่ คือการเข้ายึดร่างมนุษย์ และสุดท้ายครั้งที่ 5 คือสิ้นที่ทุกคนที่อยากรู้ต้องเข้าไปดู ซึ่งตัวหนังสามารถตอบโจทย์ของชื่อเรื่องได้ดีพอสมควร หาเหตุผลให้ได้ว่า ระลอกที่ 5 คือภัยแบบไหนที่จะทำลายล้างมนุษย์ แต่น่าเสียดายที่ตัวหนังโดยรวม เน้นไปในทางด้านโรแมนติกที่หวานเลี่ยน ระหว่างตัวละครหลักมากกว่าจะไปโฟกัสการกอบกู้โลกจากหายนะครั้งนี้
ในด้านนักแสดงต้องขอบอกว่า โคลอี้ สาวน้อยที่หลายๆคนจะจดจำเธอได้จาก ตัวละคร จิ๋วจี๊ดจาก Kick Ass 1-2 ซึ่งมาในเรื่องนี้น้องโคลอี้ได้โตเป็นสาวขึ้นเยอะ ดูมีเสน่ห์ และส่วนตัวคิดว่าเธอคือส่วนที่ดีที่สุดของหนังที่ดึงคนดูให้ลุ้นเอาใจช่วยเธอตลอดทั้งเรื่อง (ถึงแม้บางช่วงจะหวานจนเลี่ยนก็ตาม) ส่วนตัวละครอื่นๆก็เล่นได้ดีพอสมควรไม่ได้ดีเด่นอะไร เพราะบทมันไม่ได้ช่วยส่งให้ใช้ทักษะการแสดงเยอะเท่าไหร่
สรุป The 5th Wave เป็นหนังที่ส่วนตัวคิดว่า ทำได้ดีพอสมควร แต่เนื่องจากการโปรโมทไปในทางแอคชั่นกระหน่ำตามตัวอย่าง ซึ่งมันจะทำให้คนที่คิดว่าอยากจะดูฉากแอคชั่นจากหนังเรื่องนี้ ผิดหวังได้ เพราะตัวเรื่องมีความเป็นโรแมนติกดราม่า 80% แอคชั่นมีราวๆ 20% ของทั้งเรื่องเท่านั้น แต่น้องโคลอี้ที่รับบทนำ มั่นใจว่าถ้าใครได้ดูต้องหลงรักน้องโคลอี้แน่นอน 7/10