The Babysitter: Killer Queen ยังคงสนุก บ้าบอ และโบ๊ะบ๊ะเหมือนเดิม

The Babysitter: Killer Queen (เดอะ เบบี้ซิตเตอร์: ฆาตกรตัวแม่) [2020]

The Babysitter: Killer Queen (เดอะ เบบี้ซิตเตอร์: ฆาตกรตัวแม่) งานภาคต่อของ The Babysitter ภาพยนตร์แนว Black Comedy Thriller ที่ออกฉายไปเมื่อปี 2017

เขียนบทโดย Dan Lagana, Brad Morris, Jimmy Warden และ McG
กำกับโดย McG (ที่สร้างชื่อมาจากงานกำกับภาพยนตร์เรื่อง Charlie’s Angels, Charlie’s Angels: Full Throttle และ Terminator Salvation)
อำนวยการสร้างโดย McG, Mary Viola และ Zack Schiller

นำแสดงโดย
Judah Lewis (จากภาพยนตร์เรื่อง Point Break เวอร์ชั่นปี 2015) รับบทเป็น Cole Johnson
Emily Alyn Lind (จากภาพยนตร์เรื่อง Lights Out และ Doctor Sleep) รับบทเป็น Melanie Cyrus
Jenna Ortega (จากภาพยนตร์เรื่อง Iron Man 3 และ Insidious: Chapter 2) รับบทเป็น Phoebe Atwell
Samara Weaving (จากซีรีส์เรื่อง Ash vs Evil Dead, ภาพยนตร์เรื่อง Ready or Not และ Bill & Ted Face the Music) รับบทเป็น Bee
Robbie Amell (จากซีรีส์เรื่อง The Flash, The X-Files: The Event Series และภาพยนตร์เรื่อง Code 8) รับบทเป็น Max
Hana Mae Lee (จากภาพยนตร์เรื่อง Pitch Perfect ทั้ง 3 ภาค) รับบทเป็น Sonya
Bella Thorne (จากภาพยนตร์เรื่อง Amityville: The Awakening) รับบทเป็น Allison
Andrew Bachelor (จากภาพยนตร์เรื่อง Rim of the World และ Greenland) รับบทเป็น John

รับชมได้ทาง Netflix

เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อ
เรื่องราว 2 ปีต่อมาหลังจากจบเหตุการณ์ในภาคแรก เมื่อ โคล ต้องเผชิญกับผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างหนัก เมื่อทุกคนไม่เชื่อว่าเหตุการณ์ฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในภาคแรกเป็นเรื่องจริง เพราะไม่มีการพบศพใครเลยสักศพตามคำให้การของ โคล

ทุกคนเชื่อว่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่ โคล เล่ามานั้นเป็นเพียงภาพหลอนที่ โคล จินตนาการขึ้นมาเอง พ่อ-แม่ของเขาจึงพยายามส่งเข้าไปรับการบำบัดกับจิตแพทย์เพื่อให้เขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตตามปรกติสุขให้ได้

แต่มีเพียง เมลานี่ เพื่อนสาวข้างบ้านคนสนิทของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เชื่อว่าเหตุการณ์ที่ โคล เล่ามานั้นเป็นเรื่องจริง และเพื่อให้ โคล ผ่อนคลายขากการถูกกดดันจากสังคม เมลานี จึงได้ชวน โคล ไปเที่ยวออกแคมป์กับเพื่อนๆ นักศึกษาด้วยกัน

และที่นั่นเองที่แหตุการณ์อันสุดสยองได้กลับมาหา โคล อีกครั้ง

ความรู้สึกหลังดูจบ
หนังยังคงมีความบ้าบอ โบ๊ะบ๊ะ เลือดสาดอีกเช่นเคย เพียงแต่ว่าอาจจะไม่สดใหม่เท่ากับภาคแรก และนอกจากสมาชิกตัวละครจากภาคแรกจะกลับมากันครบทีมแล้ว ยังพ่วงด้วยละครใหม่ที่รับบทโดยน้อง เจนน่า ออเทก้า (ก่อนที่จะโด่งดังเป็นพลุแตกจากภาพยนตร์เรื่อง Scream V และซีรีส์เรื่อง Wednesday) เข้ามาเพื่อสร้างสีสรรใหม่ๆ ให้กับเรื่อง ซึ่งน้องก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลยฮะ น้องดูสวย, น่ารักและมีเสน่ห์มากๆ เลยฮะ

และแน่นอนที่ McG ยังคงรักษาความกวนตีนไว้เช่นเคยด้วยการเดินเรื่องในช่วง 28 นาทีแรกของหนังแบบเรื่อยๆ เหมือนที่ทำไว้ในภาคแรกเป๊ะๆ เลย และหลังจากนั้นความมันส์ก็บังเกิดเต็มสูบ ตัวละครทุกตัวยังคงรักษาคาแรคเตอร์ความกวนตีนไว้เช่นเคย ซึ่งนั่นก็รวมถึงตัวละคร แม็กซ์ ของ ร็อบบี้ เอมิลล์ ที่ยังคงถอดเสื้อโชว์กล้ามและหุ่นเฟิร์มๆ เหมือนภาคแรกอีกตามเคย รวมถึงการสานต่อมุกกวนๆ จากภาคแรกที่หยิบนำมาต่อยอดอีกในภาคนี้

สรุป >> ให้ไป 8 เต็ม 10 นะฮะ เพราะถึงแม้ว่าหนังจะยังคงแนวทางและความกวนตีนไว้เหมือนเดิม แต่สิ่งที่ขาดไปคือความสดใหม่ในการนำเสนอ