The Divergent Series: Allegiant – อัลลีเจนท์ ปฏิวัติสองโลก

The Divergent Series : Allegiant ยกระดับปฏิวัติสองโลก

        ในบรรดาภาพยนตร์ที่ทำมาจากหนังสือ The Divergent Series ถือเป็นภาพยนตร์ที่มีการกดัดแปลงเนื้อหาจากหนังสือไปเยอะมากพอควร แต่ไม่ได้ช่วยทำให้ตัวหนังออกมาดูดีเพอร์เฟค หรือบทที่เพอร์เฟคกว่าตัวหนังาสือเลยแม้แต่น้อย โดยส่วนมากในซีรีย์นี้ จะเน้นไปที่การปูเรื่องและความโรแมนติกของพระนางซะมากกว่า ทำให้ในภาคที่ 1-2 เหมือนว่ายวนในอ่างใบเดิม ซึ่งเอาเข้าจริงภาคที่ แล้วดูขาดเสน่ห์และค่อนข้างที่จะน่าเบื่อไปเลยด้วยซ้ำ

        ซึ่งพอมาในภาคนี้ในด้านเนื้อเรื่องถือว่ามีการก้าวผ่านความจำเจ หลุดพ้นออกจากความเดิมๆในภาค 1-2 นั่นก็คือ การก้าวออกนอกกำแพงที่ปิดกันคนในเมืองกับโลกภายนอก แต่ก็ไม่วาย ความหวังที่จะออกไปนอกกำแพง ไปพบกับความหวังใหม่นั้น มันกลับกลายเป็นการเร่งเวลาให้เมืองชิคาโก้ ถูกทำลายลงซะอย่างงั้น 

        ตัวเรื่องช่วงแรกมีการเร่งความเร็วในการดำเนินเรื่องอย่างมากจนเห็นได้ชัด และทำออกมาดูดีใช้ได้ จนกระทั่งตัวละครก้าวข้ามกำแพงไป เนื้อเรื่องก็เหมือนถูกแช่แข็ง ว่ายน้ำวนอยู่ในอ่างเหมือนเดิน จนกระทั้งถึงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ที่กลับมาเร่งเครื่องอีกครั้ง ส่วนตัวค่อนข้างชอบภาคนี้มากกว่าภาค 1 และ 2นะ ตรงที่มีการนำเดินเรื่องนอกเหนือจากสองภาคแรก มีแอคชั่นประปรายอยู่ตลอดทั้งเรื่อง อีกทั้ง CG จัดเต็มมาก (ถึงแม้ว่ามันจะไม่เนียนในบางฉากก็ตาม)

        ในระบบ IMAX เรื่องนี้ถือว่าเป็นภาคที่ 3 ที่ได้ฉาย IMAX ด้วย แต่เนื่องด้วยความค่ำตมของงานด้านภาพสามมิติในภาคที่แล้วทำให้ในภาคนี้ ทางสตูดิโอตัดสินใจที่จะไม่มีการแปลงตัวหนังเป็นสามมิติแต่อย่างใด ซึ่งส่วนตัวว่าก็โอเคนะ ดีแล้วที่ไม่แปลง เพราะถ้าแปลงแล้วห่วยแบบ Insurgent ก็อย่าทำให้เสียเวลาเลย

        ที่โดดเด่นในภาคนี้แบบสุดๆเลยคือเพลงประกอบ ที่ได้ M38 มาช่วยสร้างสีสรรในเพลงประกอบ เรียกได้ว่า เป็นภาคที่เพลงประกอบภาพยนตร์เพอร์เฟค เร้าใจที่สุดในซีรีย์ Divergent เลยก็ว่าได้ ยิ่งใครที่ติดใจเพลงประกอบเจ๋งๆจาก Oblivion คุณจะชอบเพลงประกอบเรื่องนี้แน่นอน ยิ่งได้ฟังเสียงในระบบ IMAX ด้วยยิ่งทวีคูณความเจ๋งของสกอร์เพลงประกอบเข้าไปอีก

        โดยรวม The Divergent Series : Allegiant เป็นการก้าวข้ามความจำเจที่ทำออกมาได้น่าพอใจ และเกินความคาดหวัง แต่ถ้าตามว่ามันดีเทียบเท่า แฟรนไชร์ The Hunger Games หรือ Harry Potter หรือไม่ ต้องบอกเลยว่า เรื่องนี้ยังมีความอ่อนในด้านบทและการดำเนินเรื่องอยู่มาก แต่ถ้าใครชอบภาค 1-2 เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คุณจะหลงรักภาคนี้ขึ้นมาทันที 8/10