แอบสังหรณ์อยู่เล็กๆ ว่า The Last Witch Hunter น่าจะออกมาได้ประมาณ Hansel & Gretel: Witch Hunters ครั้นพอได้ดูแล้วก็พบว่าตัวเองสังหรณ์ได้ไม่ผิดเลยแฮะ (555)
ในเรื่องนี้พี่ Vin Diesel ก็มารับบทเป็นมือปราบแม่มดที่โดนจอมราชินีแห่งแม่มดสาปให้มีชีวิตเป็นอมตะ ประมาณว่าอยากให้พี่แกเจอแต่ความทุกข์จากความอมตะนั้นน่ะนะครับ ส่วนแกนหลักของเรื่องก็คือการสู้กับแม่มดนั่นแหละ แต่มันจะมีอะไรซับซ้อนเล็กน้อยให้เราติดตาม (ซึ่งผมว่ามันก็ไม่ได้เกินคาดเดาสักเท่าไร)
ว่าแบบตรงๆ คือผมชอบ Van Helsing, Underworld หรือ Blade มากกว่าครับ โดยแพทเทิร์นแล้วเรื่องนี้มาประมาณนั้นเลย ว่าด้วยตัวเอกที่มีพลัง ร่วมมือกับคนอีก 2 – 3 คนเพื่อสยบหรือปราบปีศาจอะไรสักอย่าง โดยระหว่างทางก็จะมีแอ็กชันแล้วก็การผจญภัยแทรกลงมาให้มีอะไรชวนติดตาม ก่อนที่ปมจะขมวดลงพร้อมเปิดทางสำหรับภาคต่อ เรียกว่าลงสูตรเป๊ะไปเลยครับ
หนังก็ดูได้เรื่อยๆ ครับ แต่ไม่ได้โดดเด่นหรือน่าจดจำอะไร ถ้าให้เทียบเคียงผมว่าเรื่องนี้ก็ประมาณ Hansel & Gretel หรือ Abraham Lincoln: Vampire Hunter นั่นเอง ซึ่งก็คือไม่ได้มันส์อะไรเต็มที่ มีดีบ้างในบางฉาก แต่โดยรวมๆ แล้วไม่ถึงกับต้องดูแต่อย่างใด
แรกเริ่มเดิมทีหนังเรื่องนี้มีการวางแผนจะสร้างตั้งแต่ช่วงปี 2012 แล้วครับ โดยพี่ Vin จะมาแสดงเรื่องนี้หลังจากหมดคิวถ่าย Fast 7 แต่แล้วเนื่องจากการจากไปอย่างกะทันหันของ Paul Walker ทำให้คิวถ่าย Fast 7 เลื่อน ผลเลยกระทบมาถึงเรื่องนี้
และส่งผลให้ทีมงานหลายๆ คนที่ถูกวางให้มาทำหนังเรื่องนี้ก็พลอยออกจากโปรเจคท์ไปด้วย อาทิเช่น Timur Bekmambetov ที่ถูกวางตัวให้มากำกับ แต่พอคิวถ่ายเลื่อนเขาก็ออกจากโปรเจคท์ไป
รวมถึงบทหนังที่ตอนแรก Cory Goodman (Priest) เป็นคนเขียน ก็ถูกเกลาใหม่โดย Dante Harper (คนนี้ไม่เคยทำงานเขียนบท แต่ช่วยคุมงานโปรดักชั่นให้วีดีโอเกมหลายเรื่อง) ก่อนที่ Matt Sazama และ Burk Sharpless (คู่หูมือเขียนบทจาก Dracula Untold) จะมาปรับบทอีกที
ดาราในเรื่องก็ถือว่ามีชื่อ แต่บทไม่ได้เด่นหรือชวนให้จดจำครับ ไม่ว่าจะตัวพี่ Vin เองที่บทนี้ยังไม่เด็ดเท่าดอมหรือริดดิก, Elijah Wood ก็ถือว่าเสมอตัว พอๆ กับ Michael Caine ที่ใช้ความเก๋าสร้างความน่าสนใจให้กับบทนี้ได้ (ดูๆ ไปก็ชวนให้นึกถึงบทอัลเฟรดอยู่เหมือนกัน) และ Rose Leslie ในบทตัวละครนำหญิงประจำเรื่อง (ขอเรียกแบบนี้เพราะไม่แน่ใจว่าจะเรียกเธอว่าเป็นนางเอกได้ไหมน่ะนะครับ) ก็ถือว่าโอเคครับ แต่ก็อย่างที่บอกว่าในเรื่องนี้ไม่มีใครเด่นแบบเต็มปากเต็มคำสักเท่าไร
ตอนแรกได้ข่าวว่าหนังจะทำภาคต่อ ตอนนี้ก็ชักไม่แน่ใจล่ะครับว่าจะมีต่อตามออกมาอีกจริงๆ ไหม เพราะรายได้ไม่เข้าเป้าเท่าที่ควร (ข่าวบอกว่าลงทุน $90 ล้าน แต่ตอนนี้รายได้ทั่วโลกเพิ่งจะ $60 ล้านเท่านั้นเอง)
เอาเป็นว่าอย่าคาดหวังครับ หรือหากจะรอดูแผ่นก็ได้ไม่ว่ากัน ^_^
สองดาวครับ
(6/10)