ในฐานะที่ผมเป็นติ่งพี่แบทมาตั้งแต่สมัยเพิ่งรู้จักวิธีใส่วีดีโอเข้าเครื่องเล่น ก็ขอจำกัดความเลยว่าหนังเรื่องนี้มันทำให้ผม “ขำจนต้องร้องขอชีวิต!!” เล่นมุกเกี่ยวกับแบทแมนได้สุดยอดเหลือจะเอ่ยเลยเชียว
ผมไม่ได้ขำจนท้องแข็งแบบนี้มานานแล้วครับ ขำสลับยิ้มตั้งแต่ต้นจนจบ ผมว่าโดยเฉลี่ยหนังน่าจะยิงมุกทุกๆ 10 วิเลยนะ มันขำไม่หยุดกับสารพัดมุกแซวทั้งพี่แบทและฮีโร่คนอื่นๆ (Marvel ก็ยังไม่เว้น) รวมถึงมุกปลีกย่อยอื่นๆ ที่จัดมาแบบเข้าเป้าทุกเม็ด
และที่ผมชื่นชมหนังก็คือ หนังไม่ได้เลอะเทอะนะครับ มันไม่ใช่หนังที่เอามุกมาชนมุกเพื่อความขำเพียงอย่างเดียว แต่มันมีแก่นเรื่อง มีประเด็นสาระดีๆ ที่มีความหมาย และยังกระเทาะเอาความเป็นแบทแมนมาเล่นเป็นเรื่องเป็นราวได้อย่างน่าปรบมือ
ในเรื่องหลักๆ แล้วก็คือการปะทะกันระหว่างพี่แบทกับโจ๊กเกอร์ แต่มันไม่ใช่การปะทะแบบเดิมๆ ครับ มันมีรายละเอียดที่ Sensitive มากกว่านั้น แล้วก็ตามด้วยการที่พี่แบทต้องรับมือกับบาร์บาร่า กอร์ดอน ลูกสาวผบ.กอร์ดอนที่ขึ้นมารับตำแหน่งแทนพ่อ โดยเธอพยายามจะจัดระเบียบพี่แบทของเราให้อยู่ในลู่ของกฎหมาย
ยังมีเรื่องของลูกเลี้ยง ดิ๊ก เกรย์สัน ที่พี่แบทไปรับมา (แบบเมาๆ) ซึ่งก็ทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องการเป็นพ่อ และทำให้เขาสะกิดถึงปมเรื่องครอบครัวที่อยู่ในใจเขามาตลอด… ทั้งหมดนี่หนังยำมารวมกับมุกขำๆ ได้แบบลงตัวสุดๆ ครับ ทุกอย่างเป็นเนื้อเดียวกันจริงๆ
เป้าที่โดนหนังแซวเยอะสุดคือพี่แบทยุค 60 ครับ ใครเกิดทันหรือเคยดูล่ะก็คงฮาถึงตาย (โดยเฉพาะมุกสเปรย์ไล่ฉลาม กับ “พี่แบทตอนแดนซ์” ที่ทำเอาแฟนๆ พี่แบทอึ้งกันจนเป็นตำนานมาแล้ว 5555) แต่ละมุกก็แซวได้อย่างน่ารักแบบกำลังดีครับ และดูไร้พิษภัยด้วยเพราะมุกห่ามๆ ไม่มีเลย (ตามสไตล์ Lego)
แล้วหนังไม่ได้มีดีแค่ความขำนะครับ ด้านความมันส์ก็เยอะอยู่ เนื้อเรื่องเล่าได้สนุกน่าติดตามมาก แผนของโจ๊กเกอร์ในเรื่องเป็นอะไรที่เจ๋งมากน่ะครับ ดูไปลุ้นไปมากกว่าที่คาด ฉากไล่ล่าหรือฉากสู้กันก็มันส์ได้ใจ และมีความตื่นเต้นผสมลงไปอีกเยอะด้วย
ด้านดราม่าก็ทำได้ดีเกินคาดเหมือนกันครับ จับเอาประเด็นความเหงา โดดเดี่ยว, การที่แบทแมนชอบทำอะไรคนเดียว และเรื่องครอบครัว เอามาเล่นได้ดี เรียกได้ว่าทำออกมาซึ้งและถึงกว่าหนังจริงๆ หลายๆ เรื่องซะอีก (ผมชอบรอยยิ้มมุมปากของพี่แบทตอนแกคิดถึงครอบครัวน่ะครับ เป็นรอยยิ้มที่มันใช่มากๆ อ้ะ)
ดนตรีดีงามมาก ตอนลุ้นก็เร้าใจซะ หรือพอจะดราม่าดนตรีก็อ่อนโยนซะ อันนี้ยกนิ้วให้ Lorne Balfe ครับ ทำดนตรีออกมาได้ดีจริงๆ ไหนจะสารพัด Soundtrack ที่ใส่ลงมาแบบพอเหมาะ เข้ากับอารมณ์หนังแบบสุดๆ (โดยเฉพาะเพลง One ที่ใส่กับฉากตัวละครตกอยู่ในห้วงโดดเดี่ยวได้ลงตัวเสมอ)
ผมไม่รู้เหมือนกันครับว่าที่ผมฮามากขนาดนี้เพราะเป็นติ่งพี่แบทหรือเปล่า เลยเก็ทมันหมดทุกมุกจนหยุดไม่ได้ ไหนจะสารพัดหนังที่เรื่องนี้แอบล้อ ดังนั้นในเบื้องต้นผมเชื่อว่าคอหนังน่าจะเพลินกันล่ะครับ มันแซวได้ฮาถึงใจมากๆ ในขณะที่ขาจรที่ไม่คุ้นกับพี่แบทหรือไม่ใช่คอหนังซูเปอร์ฮีโร่ หากอยากลองดูเพื่อคลายเครียดก็ลองได้ครับ เพราะมุกมันเยอะจนผมเชื่อว่ามันน่าจะกระตุกเส้นท่านสักอันหนึ่งแหละ
โดยสรุปก็คือ เรื่องนี้สนุกมากจนไม่อยากให้พลาดกันครับ เป็นการดูหนังที่มีความสุขมาก มันคลายเครียดได้แบบลืมโลกทีเดียว (สำหรับติ่งพี่แบทน่ะนะครับ)
ปล. ชอบหลายมุกมาก แต่ที่ฮาแบบกลั้นไม่อยู่คือตอนแซวดาเล็คแห่ง Doctor Who น่ะครับ “และหุ่นยนต์อังกฤษ… ไม่รู้จักอ่ะสิ” ผมหลุดก๊ากออกมาเลย เป็นการแซวและเหน็บที่ถึงตายมากๆ และผมยังชอบ “รวมพลังกันกอบกู้เมือง” น่ะครับ เป็นอะไรที่เป็นรูปธรรมมากๆ เลย
สามดาวครับ
(8/10)