สำหรับใครที่นึกถึงซีรีส์ทริลเลอร์แอ็กชันที่ขับเคี่ยวกันด้วยพลอตสุดซับซ้อน ซ่อนเงื่อนเหมือนซีรีส์อย่าง ’24’ หรือ ‘Homeland’ สัปดาห์นี้มี ‘The Night Agent’ ลิมิเต็ดซีรีส์แนวทริลเลอร์ที่ผสมผสานระหว่างการตามหาผู้ก่อการร้ายมาผสมกับเรื่องการเมืองในทำเนียบขาวได้ชวนระทึกจนติดอันดับรายการทีวียอดนิยมของ Netflix
หลังโทรศัพท์ห้องใต้ดินทำเนียบขาวดังขึ้น ปีเตอร์ ซัทเธอร์แลนด์ (รับบทโดย แกเบรียล แบซโซ, Gabriel Basso) เจ้าหน้าที่กะกลางคืนผู้รับสายจำต้องดูแลความปลอดภัยของ โรส ลาร์คิน (รับบทโดย ลูเซียน บูคาแนน, Luciane Buchanan) พยานที่รู้เห็นการตายของญาติที่เป็นไนต์เอเจนต์ เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบที่กุมความลับเหตุระเบิดบนรถไฟใต้ดินที่เคยทำให้ปีเตอร์เสียชื่อเสียงที่อาจกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งหากพวกเขาไม่ได้คำตอบว่าใครอยู่เบื้องหลังแผนวินาศกรรมครั้งใหม่นี้
สิ่งหนึ่งที่การันตีได้ว่าผู้สร้างซีรีส์เรื่องนี้รู้งานและมีฝีมืออย่างดีคือชื่อชั้นของ ชอว์น ไรอัน (Shawn Ryan) ที่อยู่เบื้องหลังซีรีส์แอ็กชันชื่อดังทั้ง ‘The Shield’ ‘The Chicago Code’ และ ‘S.W.A.T.’ ซึ่งคราวนี้ไรอันใช้นิยายของ แมตธิว เควิร์ก (Matthew Quirk) เป็นต้นธารในการเขียนบทร่วมกับทีม ซึ่งต้องยอมรับเลยว่าการปูและคายข้อมูลของบทซีรีส์แต่ละตอนทำได้ดีมาก ตั้งแต่ตอนแรกที่มันบอกเงื่อนไขของเรื่องมาแล้ว
ส่วนตอนต่อมาก็ค่อย ๆ แผ่ขยายเรื่องราวแวดล้อมให้ค่อย ๆ ตีล้อมและโยงจุดจนเหตุการณ์ยิบย่อยทั้งการฆาตกรรมหน่วยไนต์เอเจนต์ การอารักขาลูกสาวรองประธานาธิบดี การกอบกู้ชื่อเสียงของตัวเองและพ่อของปีเตอร์และความฉ้อฉลของหน่วยงานในทำเนียบขาวล้วนได้รับการบอกเล่าในปริมาณที่พอดีและมากพอให้คนดูติดตามได้ในแต่ละตอน
รวมถึงการวางจุดหักมุมของเรื่องราวไว้ตอนที่ 5 ของซีรีส์ก็ช่วยรีเฟรซให้ซีรีส์ครึ่งหลังสามารถใส่ฉากสุดระทึกและปมพลิกผันได้สนุกมือโดยยังเชื่อมโยงกับซีรีส์ในครึ่งแรกที่เต็มไปด้วยข้อมูลได้เป็นอย่างดี แถมยังทำให้ตัวละครในส่วนเสริมค่อย ๆ มีบทบาทมากขึ้นและสามารถสื่อสารปมยิบย่อยในนิยายออกมาได้ครอบคลุมและคมคาย
ทีนี้สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือต่อให้เรื่องราวถูกวางมาดีแค่ไหน แต่มันก็ยังหนีไม่พ้นที่บางช่วงซีรีส์จะแอบเล่นง่ายหรือแถไปบ้าง โดยเฉพาะจุดหักมุมที่ซีรีส์เลือกใช้วิธีให้พระเอกรู้เลยจากการเผชิญหน้ากับผู้ร้ายตัวจริงด้วยประโยคเดียวหรือการเข้าไปหาข้อมูลของโรสที่บางทีก็ดูโชคดีเกินไปหน่อย หรือการที่เกิดทีมของพระเอกในช่วงหลังก็ดูจะกลายเป็นบทจับยัดไปหน่อย แต่ยังดีที่การเล่าเรื่องที่ลื่นไหลดูสนุกก็พอจะทำให้ผู้ชมยกประโยชน์ให้ทีมผู้สร้างได้บ้าง
ด้านนักแสดงต้องบอกว่าซีรีส์เองก็กล้าหาญที่จะใช้นักแสดงที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากแต่มีฝีมือการแสดงที่ไม่ธรรมดาเลย โดยเฉพาะ แกเบรียล แบซโซ กับ ลูเซียน บูคาแนน ที่เสน่ห์ของทั้งคู่ล้นจอและร้อนแรงมากโดยเฉพาะช่วงหลัง ๆ ที่ซีรีส์เริ่มเติมบทโรแมนติกให้ทั้งคู่และอารมณ์ขันจากเรื่องราวส่วนนี้ก็ทำให้ซีรีส์ไม่หนักอึ้งจนเกินไปอีกด้วย แต่ที่น่าจะถือเป็นจุดขายได้เลยคือการมารับบท ไดแอน ฟาร์ ผู้บัญชาการปีเตอร์ของ ฮอง เชา (Hong Chau) ผู้เข้าชิงออสการ์ปีล่าสุดจาก ‘The Whale’ ที่เธอตีบทแตกกระจุยและเป็นการแสดงที่น่าจดจำอีกบทของเธอได้เลย