และนี่คือหนังระดับบ็อกซ์บัสเตอร์ฟอร์มใหญ่จากเกาหลีที่ส่งมามันส์ระห่ำเป็นเรื่องแรกของปี 2023 นี้ เพราะเป็นการประชันบทบาทกันของ 2 ซุปตาร์หนุ่มระดับแถวหน้าของวงการใน “The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก” ที่จับเอา “ฮวังจองมิน” กับ “ฮยอนบิน” มาร่วมภารกิจสุดระทึกใจที่หยิบยกเอาไว้มาสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในหน้าหนังสือพิมพ์มาขึ้นจอ
The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก อิงมาจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริง เมื่อกลุ่มตาลีบันหัวรุ่นแรงจับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเป็นตัวประกันในอัฟกานิสถาน รัฐบาลเกาหลีใต้ส่งแจโฮ ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักการทูตฝีมือดีที่สุดของประเทศไปรับมือสถานการณ์ เมื่อเขาไปถึงเขาขอความร่วมมือจากรัฐบาลอัฟกัน และใช้ทุกวิธีเพื่อให้ตัวประกันเป็นอิสระ
อย่างไรก็ตาม มันกลับไม่เป็นผล เมื่อแผนที่วางไว้พังไม่เป็นท่า ทำให้สถานการณ์บีบให้เขาต้องร่วมงานกับ แดซิก เจ้าหน้าที่พิเศษภาคสนามที่เชี่ยวชาญพื้นที่ตะวันออกกลาง เมื่อทั้งคู่ใกล้ถึงตัวตาลิบัน ตัวประกันคนแรกก็กลายเป็นศพ เมื่อไม่มีทางให้ถอย ทั้งคู่ต้องร่วมมือกันแข่งกับเวลาเพื่อให้ตัวประกันที่เหลือมีชีวิตรอดกลับบ้าน สร้างจากเหตุการณ์จริงของเหตุวิกฤตตัวประกันเกาหลีถูกคุมตัวในอัฟกานิสถานเมื่อปี 2007
เป็นอีกครั้งที่หนังเกาหลีได้หยิบเอาเหตุการณ์ประวัติศาสตร์มาขึ้นจอด้วยงานสร้างที่ทรงพลัง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า The Point Men มาพร้อมกับงานโปรดักชั่นระดับเทียบเคียงกับสากล มีกลิ่นอายแบบเดียวกับหนังฮอลลิวูดเลยทีเดียว ทำให้เชื่อได้แล้วว่าวงการหนังเกาหลีก้าวไปไกลมากจริง ๆ ทุกอย่างถูกเซ็ตขึ้นมาได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะโปรดักชั่นดีไซน์จุดต่าง ๆ ที่ต้องยกนิ้วให้
งานสร้างของผู้กำกับหญิง “ยิมซุนรเย” จาก The Whistleblower และ Little Forest ถือว่ากลับมาทำหนังแนวดุดันอีกครั้ง และเป็นการที่สเกลใหญ่ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน ทำให้เธอต้องงัดเอาประสบการณ์การทำงานกว่า 20 ปีออกมาใช้ ที่ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน อาจจะยังไม่ได้มีอะไรโดดเด่นและเปล่งประกายถีงที่สุด เพราะยังมีบางองค์ประกอบที่บั่นทอนตัวหนังไป
จุดที่มาบั่นทอนอารมณ์ของหนัง The Point Men เรื่องนี้ น่าจะเป็นบทหนังและจังหวะการเล่าเรื่อง ที่เป็นความดุดันแต่ยังไม่แจ่มจรัสได้อย่างเต็มที่ ต้องขอบคุณที่หนังมีสถานการณ์ของหนังเป็นไฮไลต์ที่ช่วยประคับประคองและสร้างความเร้าใจให้กับผู้ชมได้ตลอดทั้งเรื่องดี แต่การเล่าเรื่องกับบทหนังยังคงค่อนข้างไร้เสน่ห์และความคมคาย มีหลาย ๆ มุมที่น่าจะกัดกินใจผู้ชมได้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็ทำออกมาได้แค่..ฉากธรรมดา
ช่วงครึ่งแรกของหนังเต็มไปด้วยข้อมูลและสถานการณ์การเจรจาที่ยังไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นนัก แม้ว่าจะเป็นจุดปูเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ แต่หนังกลับยังไม่สร้างแรงดึงดูดใจได้ดีเท่าที่ควร การเล่าเรื่องยังทำให้รู้สึกเรียบเฉยอยู่ แต่กราฟเริ่มมาขึ้นได้ในช่วงครึ่งหลัง แต่ก็เป็นการพีคขึ้นแบบยังไม่สุดอย่างที่ควรจะเป็น ทำได้ดีแต่ยังไม่ถึงระดับที่ตราตรึงใจและประทับใจที่สุด
แน่นอนว่าการแสดงของ ฮวังจองมิน กับ ฮยอนบิน เป็นเหมือนเพชรเม็ดงามที่ช่วยประคองหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้เป็นอย่างดี การแสดงอันเป็นธรรมชาติและเป็นมืออาชีพของพวกเขา กลายเป็นส่วนประกอบที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ พวกเขาไหลลื่นและเข้าขากันเป็นอย่างดี แม้ว่าบทบาทในคาแรกเตอร์ที่พวกเขาได้รับนั้นแทบจะไม่ใช่บทที่แปลกใหม่อะไรเลยก็ตาม
ฮวังจองมิน รู้ดีว่าเขาจะถ่ายทอดบทนี้ออกมาอย่างไร ถึงบทนี้แทบจะเป็นบทบาทที่เขาเคยรับมาบ้างแล้วในหนังเรื่องอื่น ๆ แต่จังหวะการแสดงของเขาก็ยังคงเป็นฮวังจองมินที่เต็มไปด้วยธรรมชาติและการแสดงที่ทรงพลัง พยายามช่วยปลุกเร้าอารมณ์คนดูได้เรื่อย ๆ โดยเฉพาะจังหวะการแสดงดราม่าของเขา ขณะที่ ฮยอนบิน กับบทบาทที่แทบจะไม่มีอะไร แต่ความเท่ระดับตัวพ่อของเขา เป็นหนึ่งในส่วนเสริมที่ทำให้เราแทบละสายตาไม่ได้ และทำให้เราอยากจะเห็นเขาไปได้ไกลระดับฮอลลิวูด
ทั้งนี้ The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก อาจจะยังไม่ใช่หนังเกาหลีแนวระทึกขวัญจับตัวประกันที่สมบูรณ์แบบอะไร เพราะหนังยังีมจุดบกพร่องประปรายอยู่เต็มไปหมด บทหนังกับจังหวะการเล่าเรื่องที่ยังไม่กินใจได้เท่าที่ควร แต่ก็ยังทดแทนได้ด้วยการแสดงของนักแสดงกับงานโปรดักชั่นที่ต้องยืนยกนิ้วให้จริง ๆ ถึงพล็อตจะสูตรสำเร็จและอยู่ในเซฟโซนสักหน่อย โชคช่วยที่ฉากหลังของหนังเรื่องนี้ก็มีพลังในตัวเองอยู่แล้ว ในแง่ความบันเทิงก็ถือว่าหนังยังสนุกพอใช้ได้
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก
- ประเภท: แอคชั่น / ดราม่า / ระทึกขวัญ
- ผู้กำกับ: ยิมซุนรเย
- นำแสดงโดย: ฮวังจองมิน, ฮยอนบิน, คังกียอง
- ความยาว: 108 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 23 กุมภาพันธ์ 2023 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: The Point Men ล็อคเป้าตาย ค่าไถ่หยุดโลก
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
————————————-