Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา บ้านเราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์โควิด-19 ที่กลับมาแผลงฤทธิ์น่ากลัวครั้งใหม่ ทำให้ภารกิจต่างๆ ข้างนอกบ้านต้องถูกระงับไปจะเป็นการดีที่สุด จึงได้มีโอกาสเลือกดูหนังที่จอเล็กบนแพลตฟอร์มต่างๆ และได้มีโอกาสดูหนังซูเปอร์ฮีโร่หญิงคนใหม่ที่เพิ่งจะเปิดตัวพรีเมียร์สดๆ ร้อนๆ นั่นก็คือ “Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า” กับพลังสุดสตรองที่ไม่ธรรมดา
Thunder Force เป็นเรื่องราวของโลกใบเดิมที่แตกต่างออกไป เพราะในอดีตเคยมีสะเก็ดดาวประหลาดพุ่งตกลงมาใส่ และกลายเป็นกัมมันตรังสีบางอย่างที่กระจายเข้าไปสู่พันธุกรรมของมนุษย์ แปรเปลี่ยนกลายเป็นพวกมิสเครียนท์ที่สปีชีส์ที่สร้างความวุ่นวายให้กับโลก แต่กลับตัดสายสัมพันธ์ของอดีตเพื่อนรักวัยเรียน ลิเดีย กับ เอมิลี่ ไปไม่ได้
กว่า 30 ปีต่อมา พวกเขาได้บังเอิญกลับมาพบเจอกันอีกครั้ง หลังจากที่ต่างคนต่างแยกย้ายไปมีชีวิตเป็นของพวกเธอเอง เอมิลี่ ได้กลายเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มุ่งมั่นจะพัฒนาสร้างเทคโนโลยีที่ออกมาต่อกรกับพวกมิสเครียนท์ให้ได้ แต่แผนที่เธอเตรียมไว้กลับออกฤทธิ์ใส่เพื่อนเก่าที่มาเยี่ยม ทำให้ ลิเดีย ได้แปรสภาพมีพลังเหนือมนุษย์ พวกเขาเธอจึงรวมตัวกันเพื่อหวังจะปกป้องเมืองของพวกเธอ
นี่คือผลงานสนองความต้องการของขาประจำ “เบน ฟัลโคน” ผู้กำกับคู่บุญและคู่ชีวิตของ “เมลิสซา แม็กคาร์ธี” ที่ยังคงขยันหาโปรเจคหนังใหม่ๆ มาให้ภรรยาของเขาได้แสดงอยู่เสมอ โดยเรื่องนับว่าเป็นเรื่องที่ 5 ที่เขากับภรรยาได้ทำงานด้วยกัน และยังรับหน้าที่เขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเองด้วย แน่นอนว่าเขายังคงใช้พรสวรรค์ด้านคอมเมเดี้ยนมาสร้างสรรค์ เพียงแต่หลายๆ มุมอาจจะยังไม่เวิร์กกับหนังสักเท่าไหร่
คงต้องบอกว่า Thunder Force เปิดเรื่องมาด้วยประเด็นที่ค่อนข้างน่าสนใจอยู่ กับการรุกรานของสปีชีส์ที่ไม่คุ้นเคยที่เข้ามาแทรกซึมบนโลก แต่ด้วยความที่เป็นเพียงหนังตลกเบ๊อะบ๊ะ จึงไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับจุดนี้มากเท่าไหร่ เพราะหนังก็ยังเน้นที่จะเซอร์วิสการขายมุกตลกและทาเลนท์การแสดงของ เมลิสซา แม็กคาร์ธี เพื่อให้แฟนเดนตายได้ขบขันได้อย่างเนืองๆ
เมลิสซา แม็กคาร์ธี เองถือว่ารับบทนี้ได้ดีตามมาตรฐานของเธอ โดยบทนี้แทบจะไม่มีอะไรที่แปลกใหม่จากหนังเรื่องก่อนๆ ของเธอสักเท่าไหร่ ยังคงเป็นสาวตุ้ยนุ้ยน่ารักที่ทำอะไรแผลงๆ แต่อย่างน้อยก็ลดหลั่งมุกเหยียดเสียดสีและบูลลี่เรื่องรูปร่างไปได้แทบจะขาวสะอาดเลยทีเดียว
ในขณะที่ “ออคตาเวีย สเปนเซอร์” มารับบทเป็นคู่หู ที่ก็ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่า นักแสดงสายรางวัลของเธอจะลองมาหยิบจับเล่นหนังตลกสายบู๊แบบนี้กับเขาบ้าง แน่นอนว่าเมื่อเจ้าแม่ของทั้ง 2 ขั้วมาเจอกัน คนหนึ่งคือแม่สายฮา อีกคนเป็นแม่สายรางวัล กลายเป็นความคอนทราสที่ผสมผสานกันเหมือนจะต่างขั้ว แต่ก็ยังพอลงตัวได้เพราะอินเนอร์ของนักแสดงล้วนๆ
ก็ต้องบอกชัดเจนแหละว่า บทหนังเรื่องนี้ยังคงค่อนข้างก๊องแก๊งอยู่พอสมควร เนื้อหาไม่ได้มีอะไรเลย นอกจากขายความตลกหน้าตายและมุกเจ็บตัวที่มาเรื่อยๆ อย่าได้ถามหามิติและที่มาที่ไปของตัวละครอื่นๆ หาไม่ได้หรอกจากในหนังเรื่องนี้ คือสร้างออกมาเพื่อดูเอาฮาอย่างเดียว (แต่จะฮาหรือไม่ก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลนะ)
Thunder Force ที่ส่วนผสมของหนังแอคชั่นตลกหลายๆ เรื่อง มีกลิ่นอายความเป็น “Hancock” อยู่นิดหน่อย ปะปนกับพวกหนังแอคชั่นของเดอะร็อก เมื่อนำมายำรวมกันออกมาเป็นสไตล์หนังแอคชั่นตลกหลอกคนดู ที่เมื่อก่อนมักจะนำออกมาฉายในช่วงฤดูร้อนกลางปี ที่นักวิจารณ์จะเกลียดมันมาก แต่กลับโกยเงินได้ดีในช่วงสัปดาห์แรก และหนังก็จะไม่ขาดทุนสักเท่าไหร่
โดยสรุปแล้ว นับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ Thunder Force ได้ทำออกมาเป็นหนังในรูปแบบออนไลน์ เพราะในยุคนี้หนังแนวๆ นี้ไม่ควรจะเข้าฉายโรงสักเท่าไหร่ เหมาะกับเปิดดูอยู่บ้านน่าจะเจ็บตัวในการลงทุนน้อยกว่า แต่ภาพรวมก็คือว่าหนังยังสร้างความบันเทิงได้ค่อนข้างดี แค่บทหนังยังไม่ดีพอและไม่แปลกใหม่เท่าไหร่
ขณะที่การโคจรมาเจอกันของเจ้าแม่ต่างขั้ว เมลิสซา แม็กคาร์ธี กับ ออคตาเวีย สเปนเซอร์ บอกตรงๆ ก็เหมือนจะเข้าขากันด้วยดี แต่กลับยังมองเห็นเส้นกั้นที่ต่างกันของทั้งคู่อย่างชัดเจนไปตลอดทั้งเรื่อง จึงทำให้ออกมาเหมือนต่างคนต่างเล่นไปในทิศทางตัวเอง แคสติ้งจึงออกมาดูยังขัดๆ และเคมีไม่ค่อยเข้ากันได้สักเท่าไหร่ยังไงก็ไม่รู้นะ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า
ประเภท: แอคชั่น / ตลก
ผู้กำกับ: เบน ฟัลโคน
นำแสดงโดย: เมลิสซา แม็กคาร์ธี, ออคตาเวีย สเปนเซอร์
ความยาว: 106 นาที
เข้าฉาย: 9 เมษายน 2021 (เน็ตฟลิกซ์)
Movie.TrueID METRIC: Thunder Force ขบวนการฮีโร่ฟาดฟ้า
ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
บทภาพยนตร์
⭐⭐✰✰✰✰✰✰✰✰ (2/10)