เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กองหลังลิเวอร์พูล ยอมรับว่าพวกเขายังต้องปรับปรุงเกมรุกหลังจากบุกไปแพ้เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา
พรีเมียร์ลีกที่สนามคิง เพาเวอร์ “หงส์แดง” ครองบอล 64 เปอร์เซนต์ และมีโอกาสยิงมากกว่าถึง 21 ต่อ 6 ครั้ง โดยเฉพาะจุดโทษในช่วงครึ่งแรกของ โม ซาลาห์ ที่ซัดติดเซฟแคสเปอร์ ชไมเคิล แถมโหม่งซ้ำชนคาน
ก่อนที่ครึ่งหลังนาที 59 อเดโมล่า ลุคแมน จะซัดให้ทีม “จิ้งจอก” เอาชนะไปหวุดหวิด
เป็นนัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ที่ลิเวอร์พูลทำประตูไม่ได้ พวกเขาเป็นทีมเดียวที่ยิงทุกนัดจนถึงเกมเมื่อคืนนี้ ซึ่งนั่นหมายความว่าทีมอาร์เซนอลในฤดูกาล 2001/02 ยังเป็นทีมเดียวในพรีเมียร์ลีกที่ยิงได้ทุกนัดในหนึ่งซีซั่น
ฟาน ไดจ์ค กล่าวหลังเกมว่า “ผมคิดว่พวกเขา(เลสเตอร์)สมควรชนะ แต่มันก็เป็นเพราะเราเองด้วย”
“ผมว่าเราทำได้แย่ในพื้นที่สุดท้าย ในความเห็นผมพวกเขาป้องกันลูกครอสได้ดีมาก โดยรวมแล้วมันไม่ใช่ฟอร์มการเล่นที่ดี แน่นอนว่าพวกเขาสร้างโอกาสได้ไม่เยอะแต่ก็อันตรายในจังหวะสวนกลับ”
“เพราะงั้นต้องยกเครดิตให้พวกเขาและเราก็ต้องกลับมาดูที่ตัวเอง ทุกคนต้องส่องกระจกและปรับปรุง ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราจะทำ นั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของฟุตบอลเช่นเดียวกัน”
พูดถึงจังหวะเสียประตู “แน่นอนว่าคุณไม่อยากเสียประตู ผมว่าจังหวะแรกเขามีพื้นที่มากไปหน่อยและเราปล่อยให้เขาใช้ความแข็งแกร่งที่เขามี เขาเลี้ยงบอลได้ดีและโชคไม่ดีที่มันเป็นประตู”
“แต่ยังไงเราก็มีเวลาที่จะตอบสนอง เราสร้างโอกาสได้และควรทำได้ดีกว่านี้ แต่โดยรวมแล้วผมคิดว่าเลสเตอร์ต้องยินดีกับฟอร์มการเล่นของพวกเขาและคุณต้องยกเครดิตให้พวกเขา”
เกี่ยวกับการลุ้นแชมป์ที่ตอนนี้ลิเวอร์พูลตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 6 คะแนน หลังผ่านไปครึ่งทาง “เราจะพูดอะไรได้? ตอนนี้มันเดือนธันวาคม ฤดูกาลยังอีกไกล อะไรก็เกิดขึนได้ เราก็เห็นกันแล้วกับสถานการณ์ของโควิดและก็การบาดเจ็บของแต่ละทีม อะไรต่างๆมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้”
“มันไม่มีประโยชน์ที่เราจะไปมองพวกเขา(แมน ซิตี้)หรือเชลซีหรือทีมอื่นๆในช่วงเวลานี้ของฤดูกาล และเราจะไม่ทำแบบนั้น”
“เราควรมองที่ผลงานของเราในวันนี้ เราต้องปรับปรุงและนำมันไปใช้ในเกมต่อไป วันนี้เราทุกคนอยากทำให้ดีกว่านี้ นั่นคือข้อเท็จจริง แต่โชคไม่ดีที่เราไม่ดีพอและพวกเขาสมควรชนะ” เขากล่าว