We Can Be Heroes (2020) รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่ง

Untitled08905

ผมเลือกดู We Can Be Heroes เพราะอยากเปิดหนังที่เด็กดูได้แบบง่ายๆ ให้ลูกดูครับ แล้วผลลัพธ์ก็ถือว่าโอเคนะ ลูกผมดูแล้วก็สนุกอยู่ ส่วนผมเองก็ว่าไม่เลวเหมือนกัน แม้ว่าจะมีบางจุดให้ตะขิดตะขวงก็ตาม

แต่ก็ต้องบอกก่อนใน 2 สิ่งครับ สิ่งแรกคือผมเป็นคนโอเคกับหนังผจญภัยสำหรับเด็กแบบ Spy Kids อยู่แล้ว ดังนั้นแม้มันจะติงต๊องและเป็นหนังให้เด็กดู แต่พอปรับจูนได้ผมว่าหนังมันก็โอเคอยู่ แม้จะไม่ถึงกับชอบอะไรมากมาย

และอีกสิ่งหนึ่งคือผมดูหนังเรื่องนี้ก่อน แล้วถึงได้รู้ว่ามันเป็นภาคต่อของ The Adventures of Sharkboy and Lavagirl ผมเลยไปหาเรื่องนั้นดูทีหลัง ดังนั้นผมเลยดูหนังเรื่องนี้โดยไม่มีพื้นเรื่องเกี่ยวกับภาคแรกครับ (แต่เอาเข้าจริงหนังก็ไม่ได้จำเป็นต้องดูภาคแรกก่อนครับ ดูภาคไหนก่อนก็ได้นั่นแหละ)

พล็อตว่าด้วยโลกที่มีซูเปอร์ฮีโร่คอยปกป้องโลกอยู่ แต่อยู่มาวันหนึ่งมีภัยร้ายหน้าใหม่เข้ามาบุกโลก แล้วจับเหล่าฮีโร่ไปจนหมด ทำให้พวกลูกๆ ของฮีโร่เหล่านั้นต้องออกโรงสู้กับศัตรูและหาทางช่วยพ่อแม่ของพวกเขากลับมาให้ได้

Untitled08906

ก็เป็นหนังที่เหมาะแก่การดูแบบไม่คิดมากครับ เพราะถ้าคิดมากแล้วมันจะเห็นความไม่สมเหตุผลตรึมโบ้ไปหมด (อันที่จริงคือขนาดไม่คิดมากแล้ว บางอย่างก็ยังรู้สึกว่ามันแหม่งๆ เลย 555) หนังเลยไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบแนวนี้ครับ แต่ถ้ารับได้กับหนังแบบ Spy Kids หรือหนังแบบ Air Bud ภาคหลังๆ น่ะนะ ก็น่าจะรับได้กับเรื่องนี้ – แต่จะชอบหรือไม่ชอบคงต้องว่ากันอีกทีน่ะนะครับ

สิ่งที่ถือเป็นจุดอ่อนของหนังในความคิดผมคือเหล่าดาราเด็กในเรื่องที่บางทีก็เล่นได้โอเค แต่บางทีก็ดูไม่เนียน เลยทำให้ความรู้สึกผูกพันหรือความอินที่เรามีต่อเด็กๆ มันติดบ้างไม่ติดบ้าง ตัวเอกอย่างมิสซี่ (YaYa Gosselin) ถือว่าเล่นได้โอเคครับ และเธอก็จัดว่าแบกหนังอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็แน่นอนว่าแบกไม่ไหวหรอกครับเพราะดาราเด็กในหนังมันเยอะ มันก็เลยมีช่วงตอนที่ทำให้เรารู้สึกถึงความไม่กลมกล่อมเป็นระยะๆ – ผมเองก็ยอมรับครับว่าระหว่างดูก็พยายามหลับตาข้างหนึ่งเหมือนกัน

และถ้าจะมีอะไรให้คอหนังรุ่นกลางคนอย่างผมรู้สึกบางอย่างในใจ ก็คงเป็นการที่ได้เห็นพี่ Christian Slater มาแสดงในบทสมทบน่ะครับ ตระหนักถึงความเป็นอนิจจัง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ย้อนนึกไปถึงวันวานสมัยที่เขาเป็นดาวรุ่งทำท่าว่าจะไปได้ไกล ฉายแววใน Pump Up the Volume และ Untamed Heart จากนั้นเงาก็เริ่มแวววับจับตาตอนเล่น True Romance แล้วก็ไปอยู่แถวหน้าในหนังอย่าง Murder in the First, Bed of Roses และ Broken Arrow แต่พอถึง Hard Rain ก็เริ่มเข้าสู่ขาลง – อะไรๆ ก็ไม่แน่นอนจริงๆ ครับ

โดยรวมแล้วหนังก็จัดว่าโอเคเป็นบางช่วง ชวนง่วงเป็นบางตอน เหมาะที่จะดูกับเด็กๆ น่ะครับ อย่างน้อยก็มีแง่คิดเรื่องความสามัคคี การร่วมมือกันทำงาน หรือการเคารพในตัวตนของกันและกัน

ใกล้สองดาวพอได้ครับ

Star12

(5.5/10)

SHARE THIS: