แฟนบอลที่ถูกแสดงพฤติกรรมหยาบคายและเหยียดผิว จะโดนแบนห้ามเข้าสนามจากทุกสโมสรในพรีเมียร์ลีก ภายใต้กฏใหม่ที่จะเริ่มต้นใช้ในฤดูกาลหน้า
มาตรการใหม่ที่เข้มยิ่งขึ้น, จะมีผลต่อทั้งผู้ที่ทำผิดในชีวิตจริงและบนอินเตอร์เน็ต, เกิดขึ้นให้หลังสิ่งที่นักเตะทีมชาติอังกฤษพบเจอจากความพ่ายแพ้ต่ออิตาลีในนัดชิงชนะเลิศยูโร
วันนี้ (พุธ) ยังมีผู้ร่วมลงชื่อทะลุ 1 ล้านคนเรียกร้องให้ใครก็ตามที่เหยียดผิวนักเตะ โดนแบนจากการเข้าสนามฟุตบอลตลอดชีพ
เดลี่ เมล รายงานว่าทั้ง 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกต่างตกลงที่จะให้มีการแบนห้ามเข้าสนามทั้งลีกกันเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อรับมือกับการด่าทอบนโลกออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นในปีหลังๆ
พรีเมียร์ลีกพยายามใช้ไม้แข็งกับการด่าทอหยาบคายและเหยียดผิว โดยที่ ริชาร์ด มาสเตอร์ส ซีอีโอของพวกเขาบอกว่าเป็นเป้าหมายหลัก
ลีกริเริ่มการรณรงค์ต่อต้านเหยียดผิวมาตั้งแต่ปี 2019 และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รายงานว่าฤดูกาลก่อนนักเตะของพวกเขาตกเป็นเป้าหมายของการด่าทอเพิ่มขึ้นถึง 350 เปอร์เซนต์
การเฝ้าจับตาดูของพรีเมียร์ลีกยังแสดงให้เห็นว่า 80 เปอร์เซนต์ของการด่าทอที่นักเตะในอังกฤษพบเจอนั้นมาจากต่างแดน
ถึงแม้จะเป็นเรื่องซับซ้อนสำหรับหน่วยงานต่างๆในการลงโทษผู้กระทำผิด, ไม่ว่าจะเป็นการแบนห้ามเข้าสนามหรือเอาเรื่องทางด้านกฏหมาย, แต่ก็ยังเป็นไปได้ในบางเคส
เมื่อไม่นานมานี้เพิ่งมีคดีที่วัยรุ่นในสิงคโปร์ กลายเป็นแฟนบอลคนแรกนอกสหราชอาณาจักรที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการส่งข้อความด่าทอหยาบคายใส่นักเตะ หลังเขาตามด่า นีล โมเปย์ กองหน้า ไบรจ์ตัน
ทีมกฏหมายของพรีเมียร์ลีกทำการรวบรวมหลักฐานและร่วมมือกับหน่วยงานของสิงคโปร์ ทำให้วัยรุ่นคนดังกล่าวโดนลงโทษภาคทัณฑ์ 9 เดือน