โอลิเวอร์ คาห์น ตำนานนายด่าน และอดีตซีอีโอ บาเยิร์น มิวนิค ยอมรับผ่านวันที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิต จากเหตุการณ์โดนปลดพ้นตำแหน่ง แถมถูกบางคนที่สโมสรสั่งห้ามไม่ให้เข้าร่วมฉลองแชมป์กับทีม
อดีตมือกาวทีมชาติเยอรมนี เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารที่ “เสือใต้” สโมสรเก่ามาตั้งแต่ปี 2019 จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ภายหลังทีมป้องกันแชมป์ บุนเดสลีก้า สำเร็จ โดนปลดจากตำแหน่งไปพร้อมกับ ฮาซาน ซาลิฮามิดซิช ผู้อำนวยการฟุตบอล
เฮอร์เบิร์ต ไฮเนอร์ ประธานใหญ่ บาเยิร์น ระบุเหตุผลสั้นๆ ผ่านแถลงว่าเป็นเรื่อง พัฒนาการของทีมโดยรวม
เกมนัดสุดท้ายซึ่ง โธมัส ทูเคิ่ล คุมทีมบุกเฉือน โคโลญจน์ 2-1 พร้อมทำลูกได้เสียแซง ดอร์ทมุนด์ นั้น ซาลิฮามิดชิช เข้าให้กำลังใจทีมที่สนาม ไรน์ เอเนอร์จี้ สเตเดี้ยน เหมือนเช่นเคยต่างจาก คาห์น ผู้ไม่ปรากฎตัว
“ผมภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ด้านกีฬาให้ บาเยิร์น มาเป็นเวลาเกือบ 6 ปี และผมขอขอบคุณทุกคนที่สโมสร” ซาลิฮามิดซิช สัมภาษณ์หลังจบเกม
“มันเป็นการเดินทางที่ยอดเยี่ยม และผมเองต้องการที่จะไปต่อ แต่ผมก็เคารพการตัดสินใจจากบอร์ดบริหาร เพราะ บาเยิร์น ต้องมาก่อน”
อย่างไรก็ตาม คาห์น ผู้ถูกแทนตำแหน่งโดย คริสเตียน ดรีเซ่น รองประธานคนเก่า มีปฏิกิริยาที่แตกต่างออกไป ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ Sky Germany
“นี่คือวันที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตผม มีบางคนพรากการฉลองแชมป์ร่วมกับลูกทีมของผมไป”
“ผมถูกสั่งห้ามไม่ให้เดินทางไปชมเกมที่ โคโลญจน์ และร่วมฉลองแชมป์กับสโมสร”
ไม่เพียงเท่านั้น ตำนานนายทวารผู้มีสถิติลงเล่นให้ บาเยิร์น ทั้งหมด 632 นัด ยังใช้ทวิตเตอร์โพสต์ระบายความรู้สึกเพิ่มเติม
“ผมต้องการจะร่วมฉลองกับพวกคุณ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถทำได้ เพราะผมถูกสั่งห้ามไว้”
“เราทำเรื่องที่น่าเหลือเชื่อได้ และต้องกล่าวคำชมพร้อมคำยินดีครั้งใหญ่ไปถึงพวกคุณที่สโมสร”
“ผมบอกมาตลอดว่าเราจะทำได้ และผมภาคภูมิใจอย่างมากกับความสำเร็จนี้”
“ผมตั้งตารอคอยฤดูกาลหน้า และผลงานของเราจะไม่ใช่แค่ป้องกันแชมป์ บุนเดสลีก้า 12 สมัยติด, ส่วนตอนนี้มาฉลองกันเถอะ!”