มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน อดีตกองกลาง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่าเขาสูญเสียความเป็นตัวเอง หลังต้องเล่นภายใต้การทำทีมของ หลุยส์ ฟาน ฮาล
แข้งเลือดน้ำหอมทำผลงานได้โดดเด่นกับ เซาแธมป์ตัน ก่อนถูกดึงมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อปี 2015 ในยุคของ ฟาน ฮาล
ทว่า ชไนเดอร์ลิน ก็ไม่อาจโชว์ผลงานได้อย่างสมัยอยู่กับ “นักบุญแดนใต้” ได้ ก่อนจะต้องย้ายออกจากทีม จนบัดนี้ไปลงเอยกับ เวสเทิร์น ซิดนี่ย์ ในออสเตรเลีย
กองกลางวัย 33 ยอมรับว่า ช่วงเวลากับ “ปีศาจแดง” ส่งผลกระทบต่อเส้นทางอาชีพของเขาอย่างมาก
“ผมรู้ว่าหากได้เล่นเต็มศักยภาพและมีอิสระ ตอนนี้ผมก็คงไม่มาอยู่ที่ออสเตรเลีย” เขากล่าวกับ Daily Mail
“บางทีผมอาจจะยังอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตอนผมเซ็นสัญญา ผมอยากจะเป็นตำนานที่นั่น นั่นคือเหตุผลที่ผมโกรธตัวเองและมันจะรู้สึกแย่ไปตลอดชีวิต”
“เพื่อนของผมถามว่า ‘นายจะพูดแบบนี้ไปทำไมกัน?’ แต่ผมรู้จักตัวเองและรู้ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ผมรู้ว่าช่วงเวลากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งผลต่อเส้นทางอาชีพของผมอย่างยาวนาน ผมผิดหวังที่ไม่อาจมอบสิ่งที่ตัวเองต้องการให้ได้”
นอกจากนี้ ชไนเดอร์ลิน ยังเปิดเผยว่า การร่วมงานกับกุนซือชาวดัตช์ทำให้เขาสูญเสียตัวตนไป
“ผมได้รับผลกระทบจากสิ่งที่ หลุยส์ ฟาน ฮาล เรียกร้องจากผมด้วย ผมสูญเสียตัวตนในฐานะนักเตะ” เขากล่าวเสริม
“ผมไม่เป็นตัวเองยามอยู่ในสนาม มันไม่ใช่แค่ความผิดของผู้จัดการทีม แต่มันเป็นความผิดของผมด้วยเหมือนกัน บทบาทของผมไม่เหมือนกับตอนที่อยู่ เซาแธมป์ตัน ผมรู้สึกว่าการเล่นของตัวเองถูกจำกัด ผมรู้สึกว่าพวกเขาอยากเปลี่ยนบางอย่างในตัวผม”
“ผมไม่ได้คิดถึงตัวเอง ผมคิดถึงการทำให้โค้ชพอใจ เมื่อคุณไปถึงจุดนั้น การส่งบอลทุกครั้งและทุกสิ่งที่คุณทำมันก็ไม่ใช่การเล่นอย่างอิสระ บางสิ่งฉุดรั้งไม่ให้ผมเป็นตัวของตัวเอง ผมอยากเล่นให้ดีมากๆ และนั่นคือเรื่องที่ผมผิดหวังมากที่สุดเรื่องหนึ่ง”