เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนทัพยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ติอาโก้ อัลคันทาร่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม หลุยส์ ดิอาซ ปีกป้ายแดงตัวจี๊ด และ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ดาวซัลโวตัวเก่งของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย สจ๊วร์ต ดัลลัส กองกลางสารพัดประโยชน์ ราฟินญ่า เพลย์เมกเกอร์ตัวจี๊ด และ แดเนี่ยล เจมส์ รับบทศูนย์หน้าจำเป็นของทีม
นาที 3
เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ดันสูงขึ้นมาไหลมาที่หน้าเขตโทษให้กับ หลุยส์ ดิอาซ ได้ขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวานอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน ยังไม่พลาดง่าย ๆ พุ่งเซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 4
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาได้ลุ้นติด ๆ กัน จังหวะนี้ ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลตามช่องเข้าไปในเขตโทษให้ หลุยส์ ดิอาซ เจ้าเก่า วิ่งสอดหลุดเข้าไปวางเท้ากดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกของแนวรับยูงทองเต็ม ๆ สุดท้ายกระดอนออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม
นาที 14 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ดันสูงหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดบอลไปโดนมือของ สจ๊วร์ต ดัลลัส ช็อตนี้ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษแก่ทัพหงส์แดงทันที แล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ รับหน้าที่สังหาร ซัดเน้น ๆ เข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 22
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ครองบอลบุกได้อยู่ฝั่งเดียว จังหวะนี้ หลุยส์ ดิอาซ โชว์ความพลิ้ว ลากบอลผ่าน ลุค อายลิ่ง ทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะสบโอกาสก้มหน้ากดด้วยซ้ายมุมแคบยัดไปที่เสาแรก ทว่าเป็น อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน ที่ยืนจังก้าปิดมุมรออยู่แล้ว ผวาเซฟเอาไว้ได้ทัน ไม่มีปัญหา
นาที 28
ทีมเยือน ทัพยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด มีโอกาสตอบโต้ขึ้นมาบ้าง แถมเกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว แจ็ค แฮร์ริสัน พาบอลกระชากหลุดขึ้นมาได้สวยก่อนจะจ่ายเข้าเขตโทษให้กับ ราฟินญ่า ได้หลุดไปวางเท้าซัดเน้น ๆ เข้าประตูไป ไม่เหลือ ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินดันยกธงว่าเป็นลูกล้ำหน้าขึ้นมาซะอย่างงั้น เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ
นาที 29
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ หลุยส์ ดิอาซ ดึงจังหวะไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เติมสูงวิ่งสอดหุบขึ้นมา ได้เหลี่ยมกดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปถูก อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ยังไม่ยอมง่าย ๆ เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 30 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะความยอดเยี่ยมของ โฌแอล มาติป ที่สบโอกาสพาบอลลุยขึ้นมาเอง ก่อนจะทำชิ่ง 1-2 กับ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ แทงทะลุช่องคืนมาให้กองหลังทีมชาติแคเมอรูน ได้หลุดเข้าไปกดด้วยขวาเน้น ๆ สวนตัว อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 33 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้หลุดเดี่ยวก่อนจะโดน ลุค อายลิ่ง พุ่งมาทำฟาล์วกระแทกร่วงลงไปกอง ช็อตนี้ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ ขอเช็ค VAR เพื่อความชัวร์ สุดท้ายกลับลงมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษแก่ทัพหงส์แดงทันที แล้วก็เป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ เจ้าเก่า รับหน้าที่สังหาร ซัดเข้าประตูไป ไม่พลาด
นาที 41
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล หวิดได้บวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ บรรจงเปิดเข้าไปลุ้นถึง โฌแอล มาติป โหม่งเช็ดเลยไปเข้าทาง ฟาบินโญ่ ได้ยิงด้วยขวาโล่ง ๆ หน้ากรอบหกหลา ส่งบอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ น่าเสียดายของสุด ๆ จังหวะนี้
นาที 45+2
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นประตูส่งท้าย จากจังหวะที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ วางบอลยาวจังหวะเดียวจากแดนตัวเองอย่างสวยให้กับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะพยายามกระดกบอลให้ข้ามตัว อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน ส่งบอลกำลังกระเด้งทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น จูเนียร์ ฟีร์โป้ ตามมาช่วยเคลียร์บอลจากเส้นออกมาได้ทันเวลาหวุดหวิด อดแฮตทริกไปอย่างน่าเสียดายสำหรับศูนย์หน้าชาวอิยิปต์
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน ทัพยูงทอง อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้วถึงสามลูก สกอร์ตอนนี้ ลิเวอร์พูล 3 ลีดส์ ยูไนเต็ด 0 !!!
นาที 54
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่ได้ครองบอลบุกอยู่ฝั่งเดียวเหมือนเดิม จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ติอาโก้ อัลกันตาร่า แทงบอลทะลุช่องให้กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ได้หลุดไปถึงเกือบสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะโดนขวางเลือกไหลย้อนกลับมาที่หน้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ ขอลองส่องไกลด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงหลุดออกหลังไป ไม่ได้ลุ้นเท่าไหร่
นาที 60
เกมดำเนินมาครบหนึ่งชั่วโมงเต็ม เจ้าถิ่นลิเวอร์พูล คุมสถานการณ์เอาไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้บอลลากจี้ขึ้นมาทางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโยกตัดเข้าในหลบทาง จูเนียร์ ฟีร์โป้ ก่อนจะได้เหลี่ยมบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ตามสูตร ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวย ทว่าเป็น อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน อ่านเกมได้ดี ผวาพุ่งปัดแล้วตามมาตะครุบเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 62
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสทองที่จะได้บวกสกอร์เพิ่ม จากจังหวะ เคอร์ติส โจนส์ทำชิ่ง 1-2 กับ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ หลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวโดนขวางตัดสินใจดึงจังหวะป้ายคืนมาให้กับดาวยิงชาวอิยิปต์ ได้วิ่งมาวางเท้าซัดเน้น ๆ ส่งบอลผิดเหลี่ยม หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย ยังทำแฮตทริกไม่สำเร็จ
นาที 64
ทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด นาน ๆ จะได้ตอบโต้ขึ้นมาที จังหวะนี้ อดัม ฟอร์ชอว์ ขอลองตะบันไกลด้วยขวาหน้ากรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปตรงตัวของ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารเจ้าถิ่น ก้มรับเข้าซองเอาไว้ได้สบาย ๆ ไม่มีปัญหา
นาที 66
ทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ราฟินญ่า เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติบราซิล ลากตัดจากขวาเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะสบโอกาสวางเท้าอัดด้วยซ้ายนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าทิศทางยังไม่หนีตัวเท่าไหร่ อลีสซง เบ็คเกอร์ นายทวารเจ้าถิ่น เขยิบมารับเอาไว้ได้ทัน
นาที 70
ทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ยังไม่ยอมแพ้ ฮึดบุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ จูเนียร์ ฟีร์โป้ ดันสูงขึ้นมารับบอลที่สุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสเลียดเข้าไปที่กลางประตูให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส สอดมาวางเท้าซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลหลุดกรอบถากเสาไกล ลอยออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 75
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นอีกครั้ง จากจังหวะ เคอร์ติส โจนส์ ทำชิ่ง 1-2 กับ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน หลุดทะลุเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตัดสินวางเท้าซัดมุมแคบยัดไปที่เสาแรก ทว่าเป็น อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน ที่ยืนปิดมุมรออยู่แล้ว ดักเซฟเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 80 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ ต่อบอลทำชิ่งกันขึ้นมาได้สวยถึง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แทงบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้หลุดไปตบถวายพานเข้ากลางไปที่หน้าประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้โฉบมาวางเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเสยคาน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 90 GOAL!!!
ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูเพิ่มอีกเป็น 5-0 !!! จากจังหวะที่ เจมส์ มิลเนอร์ แทงบอลทะลุช่องให้ ดิว็อค โอริกี้ ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะจิ้มเน้น ๆ ไปติดเซฟของ อัลล็องส์ เมส์ลิเย่ร์ นายทวารทีมเยือน กระดอนมาเข้าทางปืนของ ซาดิโอ มาเน่ ได้ซ้ำดาบสองโล่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 90+3 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 6-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน บรรจงเปิดบอลโด่งโค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ วิ่งโฉบมาเหน่ง ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก
หมดเวลาการแข่งขัน เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ ไล่ยำใหญ่ใส่ทีมเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ไปแบบเละตุ้มเป๊ะด้วยสกอร์ 6-0 !!! รั้งรองจ่าฝูงของตาราง ไล่ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงอยู่แค่ 3 คะแนนเท่านั้น โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในคืนวันเสาร์ที่ 5 มีนาคม 2565 ส่วนทางด้านทัพยูงทอง แพ้ติดต่อกันเป็นนัดที่ 3 รั้งอันดับที่ 15 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในคืนวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้