เกมการแข่งขัน ระหว่าง ขุนพลตราหมากรุก ทีมชาติ โครเอเชีย กับ ขุนพลกระทิงดุ ทีมชาติ สเปน ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยเล่นกันที่สนาม พาร์เค่น สเตเดี้ยม, กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ก ในค่ำคืนวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ทีมชาติ โครเอเชีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ซลัตโก้ ดาลิช มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย มาเตโอ โควาซิช กองกลางห้องเครื่องจากเชลซี ลูก้า โมดริช เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกมจากเรอัล มาดริด และ บรูโน่ เพ็ตโควิช กองหน้าตัวจบสกอร์จากดินาโม ซาเกร็บ
ขณะที่ทางฝั่ง ทีมชาติ สเปน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เอ็นริเก้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ปราการหลังตัวเก่งจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มิดฟิลด์เชิงสูงจากบาร์เซโลน่า และ อัลบาโร่ โมราต้า ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีมจากยูเวนตุส
นาที 8
ทีมชาติ สเปน ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะได้ฟรีคิกบริเวณกราบขวา โกเก้ วางบอลโด่งเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ เข้าหัว เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ได้ขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ แต่บอลเบาและไปตรงตัวของ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย รับไว้ได้สบาย
นาที 12
สเปน บุกขึ้นมาตรงกลาง เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ แทงบอลทะลุช่องให้ อัลบาโร่ โมราต้า หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ยิงไม่ได้เพราะโดนขวาง จึงตอกส้นคืนหลังสั้น ๆ ตั้งให้ ปาโบล ซาราเบีย ที่วิ่งตามหลังขึ้นมา ได้ตะบันด้วยซ้ายเต็มข้อ ยัดมุมแคบไปเสาแรกทันที แต่บอลพุ่งไปเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย ออกหลังไปแบบได้ลุ้นทีเดียว
นาที 15
ทีมชาติ สเปน น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะที่ ต่อบอลกันขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษด้านซ้าย เปดรี้ เงยหน้ามอง แล้วแทงบอลทะลุช่องตัดหลังแนวรับไปยังพื้นที่ว่างบริเวณจุดโทษให้ โกเก้ ได้วิ่งสอดขึ้นไปถึงบอลได้หลุดเดี่ยว ก่อนจะแปด้วยขวาเน้น ๆ ไม่จับ แต่บอลไม่มุมพอ ไปติดขาของ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย ที่วิ่งออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวเซฟได้ทันหวุดหวิด
นาที 18
สเปน บุกอย่างต่อเนื่อง เฟร์ราน ตอร์เรส ขึ้นเกมมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนครอสบอลโค้ง ลึกไปที่เสาไกลให้ อัลบาโร่ โมราต้า ได้โขกเหน่ง ๆ คนเดียว แต่ดันโหม่งไปติดแขนของ โดมากอย วีด้า กระเด้งออกมาอย่างน่าเสียดาย เจ้าตัวพยายามโวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร
นาที 19 GOAL!!!
ทำไปทำมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ โครเอเชีย ที่ได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะ ความผิดพลาดของ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน ที่พยายามจะใช้เท้าจับบอลลูกที่ เปดรี้ ส่งคืนหลังมาให้ แต่ดันกะจังหวะไม่ดี บอลปลิ้นเข้าประตูตัวเองไป ไหลไปนอนอยู่ในก้นตาข่ายแบบงง ๆ ถือว่าทัพตราหมากรุก ได้โชคช่วยสุด ๆ
นาที 24
ทีมชาติ โครเอเชีย บุกขึ้นมาทางกราบขวา ลูก้า โมดริช จ่ายยัดมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ นิโกล่า วลาซิช พลิกบอลได้สวย แล้วอาศัยความแข็งแกร่งบวกความเร็ว ลากบอลเบียดหนี เอริค การ์เซีย หลุดเข้าทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา แต่จังหวะสุดท้าย เจ้าตัวกดด้วยขวาเต็ม ๆ บอลพุ่งแรง ไปเข้าหน้าต่างข้างตาข่าย ออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 25
ทีมชาติ โครเอเชีย ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาตรงกลาง บรูโน่ เพ็ตโควิช เลี้ยงจี้ขึ้นมาเอง ก่อนจะไหลบอลไปที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ มัตเตโอ โควาซิช ได้บอลแล้วกระชากตัดเข้าในมาถึงหัวกระโหลก ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
นาที 36
ทีมชาติ สเปน ได้เตะมุมทางฝั่งขวา โกเก้ หยอดโด่งเข้าไปตรงกลาง แล้วโดนแนวรับโครเอเชีย โหม่งสกัดลอยออกมาหน้าเขตโทษเข้าทาง โฆเซ่ กาย่า ได้วิ่งมาวางเท้าซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงกระดอนพื้นไปเข้าทาง เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า เจ้าตัวพยายามจะเปลี่ยนทางบอล แต่ก็ทำได้แค่ทำบอลหลุดเสาซ้ายมือออกไป แบบได้หวาดเสียวทีเดียว
นาที 37 GOAL!!!
สเปน ได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ ขลุกขลิกหน้าประตู ผู้เล่นทีมชาติสเปน ได้มีโอกาสซัดติด ๆ กันหลายหน แต่ติดบล็อกอยวรับโครเอเชีย จังหวะสำคัญ บอลมาเข้าทาง โฆเซ่ กาย่า ในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ได้กดด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปติดเซฟของ โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย กระดอนออกมาบริเวณจุดโทษเข้าทาง ปาโบล ซาราเบีย วิ่งมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดสวนตัว ลิวาโควิช นายทวารโครเอเชีย เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 42
ทีมชาติ สเปน ขึงเกมรุกบุกใส่โครเอเชีย อย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้บอลบริเวณมุมกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะครอสโด่งเข้าไปในเขตโทษ โดนแนวรับโครเอเชีย สกัดออกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทาง โกเก้ วิ่งซอยเท้า ปรี่มาซัดด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นติดไซด์ก้อย เฉียดเสาขวามือออกไปนิดเดียว
นาที 45
สเปน บุกหนักขึ้นมาทางขวา ปาโบล ซาราเบีย พาบอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนปาดเลียดยัดเข้ากลางให้ อัลบาโร่ โมราต้า ได้เกี่ยวบอล แล้วพลิกเข้าเหลี่ยมเท้าซ้าย ก่อนจะตวัดยิงเร็วหักข้อทันที แต่บอลก็ยังลอยโด่ง เหินข้ามคาน ออกหลังไป อย่างน่าผิดหวังเหมือนเดิม
หมดเวลาครึ่งแรก หลังจากทีมชาติ สเปน มาเสียประตูแบบง่าย ๆ ไปก่อน เกมหลังจากนั้น ก็กลายเป็นของทัพกระทิงดุ ที่เป็นฝ่ายพับสนามบุกใส่ทีมชาติ โครเอเชีย อยู่แทบจะฝั่งเดียว สุดท้ายตามตีเสมอได้ทัน สกอร์ตอนนี้อยู่ที่ 1-1 !!!
นาที 56 GOAL!!!
ทัพกระทิงดุ ทีมชาติ สเปน มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มที่ เปดรี้ เลี้ยงจี้ขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะไหลออกไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้ตั้งป้อมบรรจงครอสบอลโด่งไปที่กลางประตูให้ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้ส ที่วิ่งโฉบตัดหน้า ยอสโก้ กวาร์ดิออล มาโขกจ่อ ๆ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 66
โครเอเชีย ตอบโต้ขึ้นมาได้จบบ้าง จังหวะนี้ ต่อบอลทำชิ่งกันอยู่บริเวณกรอบเขตโทษด้านซ้าย นิโกล่า วลาซิช รับบอลมาจาก ลูก้า โมดริช แล้วเลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดบอลสั้น ๆ มาที่เสาแรกให้ อันเต้ เรบิช ที่รออยู่ ได้จับ แล้วรีบซัดเร็วด้วยขวาไปแฉลบแนวรับนิดนึง แต่บอลเบาแถมตรงตัว อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน ล้มตัวรับไว้ได้แบบไม่ยากเย็น
นาที 67
ทีมชาติ โครเอเชีย น่าได้ประตูตีเสมอแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ นิโกล่า วลาซิช โชว์ความพลิ้ว เลี้ยงหนีผู้เล่นสเปน หลุดไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนที่เจ้าตัวจะตบกลับมาที่กลางประตูให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ที่วิ่งสอดเติมขึ้นมารอ ได้ซัดบอลลอดขาของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า กำลังจะเข้าประตูอยู่แล้ว แต่ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน ยังโชว์ซุปเปอร์เซฟ ล้มตัวปัดบอลได้ทันแบบเฉียดฉิว
นาที 76 GOAL!!!
ทีมชาติ สเปน ได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 3-1 !!! เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกในแดนตัวเองทางกราบซ้าย แล้วเป็น เปา ตอร์เรส ที่เปิดบอลยาวข้ามฟากทะแยงมุมขวางสนามไปยังหน้าเขตโทษด้านขวาให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ได้วิ่งหน้าตั้ง สปีดไปถึงบอลได้ก่อน ยอสโก้ กวาร์ดิโอล แล้วได้หลุดเดี่ยวเข้าไปเลือกมุมยิงในเขตโทษ ก่อนจะเอี้ยวตัวแปด้วยซ้ายนิ่ม ๆ เล่นทางลอดหว่างขา โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย เสียบตาข่ายเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
นาที 85 GOAL!!!
ทีมชาติ โครเอเชีย ได้ประตูตีตื้นไล่ขึ้นมาเป็น 3-2 !!! เป็นจังหวะได้ทุ่มทางขวาของกรอบเขตโทษ ลูก้า โมดริช ได้บอลพลิกได้สวย แล้วเลี้ยงไต่เส้นหลังจี้เข้าหาประตู ก่อนจะตบเข้าไปที่หน้าประตูให้เพื่อน แต่เกิดจังหวะชุลมุนขลุกขลิก อันเต้ บูดิเมียร์ ยิงไปติดบล็อกของ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า บอลกระฉอกมาเข้าทาง มิสลาฟ ออร์ซิช ตามซ้ำจ่อ ๆ เข้าประตูไป
นาที 90+1 GOAL!!!
ทีมชาติ โครเอเชีย ได้ประตูตีเสมอเป็น 3-3 !!! เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย มิสลาฟ ออร์ซิช ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลไซด์โค้งด้วยขวามาที่กลางประตู แล้วเป็น มาริโอ ปาซาลิช โฉบมากระโดดโหม่งสะบัดกดลงพื้นตัดหน้า เปา ตอร์เรส จ่อ ๆ สวนตัว อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 95
ตราหมากรุก โครเอเชีย น่าจะได้ประตูพลิกขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ มิสลาฟ ออร์ซิช โชว์ความพลิ้ว กระชากหลุดไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดยัดเข้าไปที่กลางประตู จอร์ดี้ อัลบา สกัดบอลไม่ดีกระดอนลอยไปถึง มาริโอ ปาลาซิช จับบอลยาวทะลักไปเข้าทาง อังเดรย์ ครามาริช ได้ซัดเหน่ง ๆ ที่หน้ากรอบหกหลา แต่บอลไปติเซฟของ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน ที่โชว์ซุปเปอร์เซฟ ทิ้งตัวปัดไว้ได้แบบไม่น่าเชื่อ
นาที 100 GOAL!!!
ทีมชาติ สเปน มาได้ประตูขึ้นนำเป็น 4-3 !!! เป็นจังหวะ ดานี่ โอลโม่ เลี้ยงจี้ขึ้นมาเองถึงมุมกรอบเขตโทษด้านขวา ไม่มีใครเข้า เจ้าตัวเลยมีเวลาเงยหน้ามอง แล้วตั้งป้อมบรรจงครอสบอลโด่งไปที่เสาไกลให้ อัลบาโร่ โมราต้า ได้จับบอลลงด้วยขวานิ่ม ๆ แล้วหวดด้วยซ้ายเต็มข้อ พุ่งแรงเป็นจรวด แสกหน้า โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย เข้าประตูไป เสยใต้คาน อย่างสุดสวย
นาที 103 GOAL!!!
ทีมชาติ สเปน มาได้ประตูหนีห่างเป็น 5-3 !!! เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว อัลบาโร่ โมราต้า แทงบอลให้ ดานี่ โอลโม่ หลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะบรรจงครอสบอลไปยังพื้นที่ว่างกลางประตูให้ มิเกล โอยาร์ซาบาล ที่วิ่งเติมขึ้นมา ได้หลุดเดี่ยว จับบอลด้วยซ้ายนิ่ม ๆ แล้วซัดด้วยซ้ายสวนตัว โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูโครเอเชีย เบียดเสาซ้ายมือ เข้าประตูไป อย่างเฉียบคม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ สเปน ที่ฮึดแซงเอาชนะทีมชาติ โครเอเชีย ไปได้อย่างสุดมันส์ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 5-3 !!! ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยจะไปพบกับทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ ในวันศุกร์ที่ 2 กรกฎาคม 2564 ที่จะถึงนี้