มาเน่ซัดลูกที่ 100!! ช่วยหงส์แดง ปูพรมไล่ถล่ม “คริสตัล พาเลซ” ไป 3-0

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล เปิดสนาม แอนฟิลด์, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนทัพปราสาทเรือนแก้ว คริสตัล พาเลซ ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ห้า เมื่อค่ำคืนวันเสาร์ที่ 18 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กองกลางห้องเครื่องกัปตันทีม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกกึ่งกองหน้าตัวจี๊ด และ ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าตัวโป้งปิดบัญชี

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ปาทริก วิเอร่า มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ กองกลางห้องเครื่อง วิลฟรีด ซาฮา กองหน้ากึ่งปีกจอมพลิ้ว และ คริสติย็อง เบนเตเก้ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม

นาที 2

เริ่มเกมมาแค่แปปเดียว เป็นฝั่งทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ที่เกือบจะได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะ คอนนอร์ กัลลาเกอร์ หนุนกระดกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษที่กลางประตู แล้วเป็น วิลฟรีด ซาฮา สปีดมาถึงบอลได้ก่อนใคร ทว่าเจ้าตัวดันจับบอลไม่ดี กลายเป็นเปลี่ยนทางบอลให้กระดอนลอยข้ามหัว อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทำท่าจะเข้าประตูอยู่แล้ว ยังดีที่นายทวารบราซิเลี่ยน ปฏิกิริยายังสุดยอด หมุนตัวตามกลับมา พุ่งปัดทิ้งไปชนเสา กระเด้งออกหลังไปได้ทันหวุดหวิด

นาที 9

เจ้าถิ่น หงส์แดง ลิเวอร์พูล ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ ซาดิโอ มาเน่ พลิ้วแหวกผู้เล่นพาเลซขึ้นมาทางฝั่งซ้าย เจ้าตังไหลต่อให้ คอสตาส ซิมิคาส ที่เติมสูงขึ้นมา ได้ตั้งป้อมบรรจงเปิดบอลเลียดเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ดีโอโก้ โชต้า ได้แตะหนี โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ โดนใต้ลูก บอลไต่หลังเท้า ลอยหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 16

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาอีกครั้ง จังหวะนี้ คอสตาส ซิมิคาส ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวไหลบอลต่อให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้บรรจงหยอดบอลโด่ง ลอยลึกไปที่หน้าเสาไกลขวามือให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่วิ่งสอดขึ้นมาโล่ง ๆ ได้วางเท้าแปเน้น ๆ ระยะไม่กี่หลา ทว่าเป็น บิเซนเต้ กัวอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุม คุมเสาอยู่พอดี ผวาปัดเซฟช่วยทีมเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

นาที 20

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ตอบโต้ขึ้นมาได้ลุ้นบ้างเหมือนกัน เป็นจังหวะได้เตะมุมทางฝั่งขวา คอนนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดบอลโด่งเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น คริสติย็อง เบนเตเก้ ถอยมาโขกเน้น ๆ ส่งบอลลอยโด่ง ย้อยไปตกหลังคาน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 26

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ บุกมาอีกระลอก จังหวะนี้ จอร์แดน อายิว แทงบอลทะลุช่องสวนกลับเร็วขึ้นมาให้ คริสติย็อง เบนเตเก้ เจ้าตัวอาศัยความแข็งแกร่ง กระชากบอลเบียดเอาชนะ บราฮิม่า โกนาเต้ ได้หลุดเข้าไปซัดเร็วด้วยขวาในกรอบเขตโทษ ทว่าจังหวะสุดท้าย กองหลังตัวใหม่ของหงส์แดงรายนี้ ยังตามมาแหย่ขาบล็อกบอลเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว เสียเป็นเตะมุม

นาที 30

เกมดำเนินมาครึ่งชั่วโมง เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มีโอกาสได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวจ่ายบอลย้อนมาที่หน้าเขตให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ข้ามหลอกปล่อยบอลไหลต่อมาให้ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ได้วิ่งมาสับไกด้วยขวาเน้น ๆ พุ่งไปติดบล็อกของแนวรับทีมเยือน สุดท้ายช่วยกันเคลียร์ทิ้งออกมาได้ทัน

นาที 32

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล วันนี้เน้นขึ้นบอลทางซ้าย จังหวะนี้ คอสตาส ซิมิคาส กระชากหนี โจเอล วอร์ด ขึ้นมาได้สวย ก่อนจะครอสบอลโด่ง โค้งลึกไปที่เสาไกลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้วิ่งโฉบมาง้างเท้ายิงด้วยซ้ายเน้น ๆ ทว่าโดนไม่เต็ม บอลปลิ้นถากเสา กระดอนหลุดกรอบออกไปเอง แบบน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 34

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ขึงเกมรุก บุกใส่ทีมเยือนอย่างหนัก จังหวะนี้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดบอลโด่งจากทางกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น ชีกู คูยาเต้ โหม่งสกัดไม่ดี บอลลอยโด่งไปเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ ได้กระโดดฟาดด้วยขวาเน้น ๆ อย่างสวย ทว่าบอลพุ่งไปติดบล็อกของ โจเอล วอร์ด หลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม

นาที 38

เจ้าถิ่น  ลิเวอร์พูล น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ตั้งป้อมบรรจงครอสบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปในเขตโทษให้ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ได้สอดมากระโดดพุ่งโหม่งเน้น ๆ ไปติดเซฟของ บิเซนเต้ กัวอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน บอลกระดอนออกมาเข้าทาง ดีโอโก้ โชต้า ที่อยู่โล่ง ๆ คนเดียว ได้วิ่งปรี่มาซ้ำด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลหลุดกรอบ เหินข้ามคานออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 43 GOAL!!!

หลังจากบดอยู่นาน เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เป็น 1-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย คอสตาส ซิมิคาส เปิดบอลโค้งไปที่หน้าประตูให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วิ่งโฉบมาโหม่งเหน่ง ๆ เต็มหัว ไปติดเซฟของ บิเซนเต้ กัวอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดออกมาเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ ได้ตามซ้ำตวัดยิงจ่อ ๆ เข้าประตไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือ เจ้าตัวสร้างประวัติศาสตร์กลายเป็นนักเตะ พรีเมียร์ลีกคนแรก ที่ยิงคู่แข่งทีมเดิม 9 นัดติด แถมยังทำสถิติ ยิงครบ 100 ลูก ให้กับหงส์แดงในทุกรายการอีกด้วย

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล ที่เป็นฝ่ายครองบอล ปูพรมขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ อยู่แทบจะฝั่งเดียว ขาดเพียงแค่ความเฉียบคมในพื้นที่สุดท้ายเท่านั้น ที่ยังทำได้ไม่ดีพอ สกอร์ตอนนี้ ออกนำไปแค่ลูกเดียว ลิเวอร์พูล 1 พาเลซ 0 !!!

นาที 55 

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นเจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ได้บุกใส่ทีมเยือนทันที จังหวะนี้ ดีโอโก้ โชต้า จ่ายบอลมาที่หน้ากรอบเขตโทษให้ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ได้ขอลองวางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพ่งแรงตรงกรอบ ทว่า โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น ยังตามมาบล็อก ขวางทางบอล ช่วยทีมเอาไว้ได้ทัน

นาที 58

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย ระยะประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น ฟาบินโญ่ รับอาสา วิ่งมาบรรจงซัดด้วยขวาพุ่งไปติดกำแพง บอลกระดอนมาเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้ซ้ำอีกครั้ง สุดท้ายก็ยังติดบล็อกของแนวรัยทีมเยือน กระเด้งออกมา ไม่ได้ลุ้นอะไร

นาที 61

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ได้ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง เป็นจังหวะได้ฟรีคิกระยะอันตราย บริเวณหัวกระโหลกพอดี แล้วเป็น จอร์แดน อายิว รับอาสา วิ่งมาวางเท้ายิงเต็ม ๆ พุ่งไปติดกำแพงกระเด้งออกมา เจ้าตัวโวยวายฟ้องว่าเป็นลูกแฮนด์บอลของ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ทว่า ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไร ให้เล่นกันต่อไป

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 65 

เจ้าถิ่น ลิโซ่ ได้ฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วเป็น คอสตาส ซิมิคาส บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่กลางประตูให้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ได้เทคตัวโหม่งเหน่ง ๆ คนเดียว แต่กดไม่ลง สุดท้ายบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 68

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เกือบได้ประตูที่สอง เป็นจังหวะ นาบี เกอิต้า ซัดไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงน่ากลัวไปติดเซฟ บิเซนเต้ กัวอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดออกมาเข้าทางปืนของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้วิ่งมาตามซ้ำเน้น ๆ ยัดมุมแคบ ทว่า กัวอิต้า ยังยืนตำแหน่งได้ดี เซฟดาบสองเอาไว้ได้ทันอีกครั้งหนึ่ง

นาที 72

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ โจเอล วอร์ด บรรจงวางบอลยาวข้ามแนวรับเข้าไปในเขตโทษถวายพานอย่างสวยให้ ออดซอนน์ เอดูอาร์ด ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้พยายามเกี่ยวบอลลงโล่ง ๆ ที่กลางประตู ทว่าเจ้าตัวดันจับบอลลั่น สุดท้ายบอลทะลักไปถึง อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 78 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย คอสตาส ซิมิคาส เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่หน้าประตู แล้วเป็น เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ โหม่งโดนไม่ดี บอลแฉลบหลังเจ้าตัว ลอยเลยไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยืนกางมุ้งอยู่ที่หน้าเสาสอง ได้วอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ตูมเดียวเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 81

ทีมเยือน คริสตัล พาเลซ เกือบได้ประตูตีไข่แตก เป็นจังหวะ ออดซอนน์ เอดูอาร์ด กระชากบอล เบียดเอาชนะ อิบราฮิม่า โกนาเต้ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษได้สวย ทว่าจังหวะสุดท้าย เจ้าตัวซัดไปติดบล็อกของ โกนาเต้ เจ้าเก่า ที่ยังมีลูกฮึด ตามลงมาแหย่ขาบล็อกบอล สกัดทิ้งช่วยทีมเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

ไฮไลท์ฟุตบอล

นาที 89 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพหงส์แดง ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 3-0 !!! เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าประตู แล้วเป็น บิเซนเต้ กัวอิต้า ผู้รักษาประตูทีมเยือน ออกมาชกบอลไม่ดี กลายเป็นไปเข้าทางตั้งให้ นาบี เกอิต้า ได้วิ่งมายิงสวนด้วยซ้ายเต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่ายไป อย่างสวยงาม ไม่เหลือซาก

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน คริสตัล พาเลซ ไปได้ด้วยสกอร์ 3-0 !!! เขยิบขึ้นมารั้งจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนเบรนท์ฟอร์ด ในวันเสาร์ที่ 25 กันยายน 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านคริสตัล พาเลซ อยู่อันดับที่ 14 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านเจอกับไบร์ทตัน ในคืนวันจันทร์ที่ 27 กันยายน ถัดมาสองวัน