นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง เรอัล มาดริด กับ บาร์เซโลน่า ที่สนาม ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว ในศึก โกปา เดลเรย์ (สเปน) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เรอัล มาดริด จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยแกนหลักที่คุ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ติโบต์ คูร์กตัวส์,เอแดร์ มิลิเตา,โทนี่ โครส,คาริม เบนเซม่า,วินิซิอุส จูเนียร์ และ บัลเบร์เด้
ขณะที่ บาร์เซโลน่า จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 เช่นเดียวกัน นำโดยขาประจำของทีมอย่าง มาร์ค-อันเดร แตร์ สเตเก้น,โรนัลด์ อเราโฮ่,เฟรงกี้ เดอ ยอง,เฟร์ราน ตอร์เรส และ ราฟินญ่า เป็นต้น
นาทีที่ 1
เริ่มเกมได้แค่ครึ่งนาที เรอัล มาดริด ก็บุกขึ้นมาได้ลุ้นประตูก่อนเลย จากจังหวะที่ โทนี่ โครส เปิดบอลเปลี่ยนแกนจากซ้าย โยนไปขวาให้ โมดริช พาบอลหลุดเข้าไปจบสกอร์ในกรอบเขตโทษ แต่น่าเสียดายบอลสุดท้ายดันไม่ตรงกรอบ
นาทีที่ 9
มาดริด ขึ้นเกมมาได้ลุ้นประตูกันอีกแล้ว จากจังหวะที่ วินิซิอุส เลี้ยงแหวกผู้เล่นแนวรับของ บาร์เซโลน่า พาบอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตัดสินใจเลือกยิงเองไม่ส่งเพื่อน สุดท้ายไม่ได้ประตู เพราะ โรนัลด์ อเราโฮ่ วิ่งตามมาบล็อกช่วยทีมได้ทันเวลา
นาทีที่ 25 บาร์เซโลน่า ขึ้นนำ 1-0
แต่ทำไปทำมา เรอัล มาดริด ที่ครองเกมได้ในช่วงแรก กลับเป็นฝ่ายพลาดท่าเสียประตูให้ทีมเยือน ก่อนเลย จากจังหวะที่ คามาวินก้า โดนผู้เล่นของ บาร์เซโลน่า ไล่เพรสซิ่งหนักมากจนต้องส่งคืนหลัง แต่ขาดน้ำหนัก กลายเป็น เฟร์ราน ตอเรส ฉกเอาบอลไปครอง ก่อนจะรีบจ่ายตามช่องทีเดียวให้ เคสซี่ หลุดเข้าไปแปติดเซฟ คูร์กตัวส์ กระเด้งไปโดนขา มิลิเตา ปลิ้นเข้าประตูตัวเอง ส่งให้ บาร์เซโลน่า ขึ้นนำ 1-0 แบบมีโชคช่วยนิดๆ
หมดครึ่งเวลาแรก
เรอัล มาดริด – 0
บาร์เซโลน่า – 1
นาทีที่ 52
กลับมาต่อครึ่งหลัง มาดริด พยายามเร่งเครื่องเพื่อจะเอาประตูคืน และมีจังหวะนึงที่เกือบได้เหมือนกัน เป็นจังหวะที่ คามาวินก้า ครองบอลอยู่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนที่เจ้าตัวจะยึกยักไปมา จนมีช่องให้ลองส่องไกล เขาเลยไม่รอช้า ก้มหน้ากดด้วยซ้ายเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไปนิดเดียว
นาทีที่ 72
บาร์เซโลน่า ขึ้นเกมมาสวย และเกือบได้ประตูหนีห่างเป็น 2-0 ด้วย แต่น่าเสียดายที่จังหวะจบสุดท้าย เคสซี่ ดันยิงไปติดพวกเดียวกันเองซะก่อน ทำให้บอลที่ยิงออกนั้นปลิ้นไปเข้ามือ ติโบต์ คูร์กตัวส์ ทิ้งตัวรับเข้าซองสบายๆ
นาทีที่ 84
ช่วงท้ายเกม เรอัล มาดริด มีโอกาสได้ลุ้นตีเสมออีกแล้ว จากจังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ พาบอลหลุดไปทางซ้าย ก่อนจะสบโอกาสเลือกเปิดยัดเข้ากลางให้ เบนเซม่า ชิงจังหวะเทคตัวโหม่งโล่งๆคนเดียวหน้าประตู แต่บอลสุดท้ายก็ยังไม่ผ่านมือ แตร์ สเตเก้น อยู่ดี
หมดเวลาการแข่งขัน เป็น บาร์เซโลน่า ที่เล่นได้ชัวร์กว่า ส่งผลให้พวกเขาบุกมาชนะ เรอัล มาดริด ในบ้านไปได้ ด้วยผลสกอร์รวม 1-0