นี่คือผลงานภาพยนตร์ยาวเปิดตัวของค่ายบันเทิงที่เฟื่องฟูที่สุดในยุคปัจจุบันอย่าง Be On Cloud กลายเป็น “ม่านซวง” หนังย้อนยุคที่เต็มไปด้วยเนื้อหาที่น่าสนใจ ด้วยการเปิดเผยข้อมูลโปรโมทน้อยมากแต่เต็มไปด้วยเหตุผลและผลที่ตามมาเพราะนี่คือหนังไทยที่น่าจะสร้างปรากฏการณ์และยกระดับมาตรฐานให้กับวงการหนังบ้านเราไม่น้อย และยิ่งใหญ่กว่าพลังอ่อนหากคนไทยไปพิสูจน์ด้วยตา
แมนสรวง เป็นเรื่องราวในช่วงปีพุทธศักราช 2393 ช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ยุคเฟื่องฟูในการทำมาค้าขายกับกลุ่มคนจีนอพยพและชาวต่างชาติ แต่ชีวิตของ เขม ไพร่ผู้รักการรำละครต้องพลิกผันไปตลอดกาล เมื่อเขาต้องเข้าไปพัวพันกับความผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ นำมาสู่การทำภารกิจลับที่ไม่ต่างกับมีชีวิตเป็นเดิมพัน นั่นคือก็ต้องเข้าไปแฝงตัวอยู่ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง เป็นสถานที่ที่ผู้ทรงอิทธิพลมักจะใช้นัดหมายต่อรองเจรจาผลประโยชน์กัน เขาได้แทรกซึมเข้าไปสู่ความลับและความจริงที่อันตราย
“ถ้าตั้งใจทำแบบสุด ๆ ก็ทำออกมาได้สินะ” เป็นวลีที่นึกถึงตลอดเวลาขณะหมกมุ่นอยู่กับมนต์สรวง นี่คือการผลิตภาพยนตร์ไทยที่แทบไม่เคยเกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์ไทยเลยเพราะทุกรายละเอียดในภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกใส่ไว้อย่างลงตัว ได้อย่างพิถีพิถันและค่อนข้างพิถีพิถันจนทำให้องค์ประกอบต่างๆ ของหนังเรื่องนี้ ถูกกลั่นกรองออกมาด้วยรสชาติและจังหวะที่คาดไม่ถึง เป็นหนังที่มีเอกลักษณ์ที่ค่อนข้างอินดี้ แต่ก็มีความรู้สึกเชิงพาณิชย์ด้วย
แมนสรวง เป็นภาพยนตร์ที่เกิดจากการร่วมสร้างสรรค์ของผู้กำกับ 3 คน ที่ล้วนแต่มีความสามารถโดดเด่น ได้แก่ “ฉัตรชัย เกตุนัส” ผู้กำกับที่โดดเด่นในการสร้างสรรค์อันละเอียดอ่อน “ผศ.ดร.ปาน พาสสาทุปเทียน และชายหนุ่มไฟแรง เจ้าของค่าย “พล กฤษดา” ซึ่งคนหลังก็ร่วมทีมเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย
ถึงแม้จะเป็นหนังที่ใช้ผู้กำกับเยอะมากก็ตาม แต่รูปลักษณ์โดยรวมของแม้นสรวงกลับมีความเป็นหนึ่งเดียวกันและเป็นเนื้อเดียวกันได้อย่างน่าประทับใจ การกำกับก็ออกมาค่อนข้างเรียบร้อย และความใส่ใจในรายละเอียดในการจัดการการผลิตเป็นสิ่งที่หาได้ยากในภาพยนตร์ไทย จึงถือเป็นภาพยนตร์ไทยที่มีความโดดเด่นในด้านการผลิตอย่างแท้จริง
โดยส่วนใหญ่แล้วหนังไทยมักจะมีปัญหาเรื่องบทมากที่สุดเสมอ แต่ในกรณีของ ม่านซวง ก็ประสบความสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์ ถือเป็นบทหนังไทยที่หนักแน่นและแข็งแกร่งอีกเรื่องหนึ่งในวงการ เรียกได้ว่าแผ่ขยายและเสริมเนื้อเรื่องธรรมดาให้ดูไม่ธรรมดาเลยทีเดียว การผลิตบทเต็มไปด้วยมิติและรสนิยมที่ดี ส่วนดราม่าก็มา ส่วนการสอบสวนสามารถไปสิ้นสุดได้ ขอมอบเครดิตให้กับทีมงานเขียนและพัฒนาสำหรับเรื่องราวนี้
ตามที่กล่าวไว้ในทุกย่อหน้าว่า ม่านซวง เป็นภาพยนตร์ที่มีความโดดเด่นในด้านการจัดองค์ประกอบการผลิต บอกเลยว่านี่คือสิ่งที่ไม่ค่อยเห็นในภาพยนตร์ไทยมาก่อน โครงสร้างมีรายละเอียดมาก โดยเฉพาะการออกแบบงานศิลปะ การรวบรวมรายละเอียดต่างๆ ในยุคนั้นค่อนข้างดี ใส่ใจมาก พิถีพิถันกับคราบตะไคร้บนผนังที่ถ่ายทอดความเก่าแก่และมนต์เสน่ห์
แม้ว่าคนดูจะรู้ว่าหนังเกือบทั้งหมดเป็นฉากที่จัดฉากไว้ก็ตาม แต่การผลิตที่พวกเขานำเสนอนั้นเพิ่มอารมณ์ให้กับภาพยนตร์ งานออกแบบเสื้อผ้าและการแต่งหน้าในเรื่องนี้ก็ทำได้ดีมากเช่นกัน อาจกล่าวได้ว่าเกือบทุกโมเลกุลจะถูกเก็บให้เล็กลง มันเป็นส่วนเพิ่มเติมเล็กๆ น้อยๆ ที่รวมกันกลายเป็นส่วนสำคัญ และช่วยขับเคลื่อนหนังเรื่องนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ
มาในส่วนของนักแสดงกันบ้าง แม้ว่าหนังจะใช้ทีมนักแสดงที่เป็นเด็กและนักแสดงฝีมือดีที่อาจไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนัก แต่ต้องขอชมว่าม่านสรวงคือหนึ่งในหนังไทยที่คัดเลือกนักแสดงได้ลงตัว ทั้งนักแสดงนำและนักแสดงสมทบ ทั้งคู่พ่นไฟ และส่งมอบการผสมผสานที่ลงตัวในภาพยนตร์
แต่ที่เปล่งประกายที่สุดเลย ก็ต้องยกความดีงามให้กับ “อาโป ณัฐวิญญ์” ซึ่งถือเป็นการแสดงสแตนด์อัพและยืนในโรงหนังเรื่องนี้ อาโป กลายเป็นนักแสดงที่สามารถแบกรับทั้งเรื่องได้อย่างง่ายดาย เป็นตัวรับ และเป็นผู้ให้บริการให้กับนักแสดงคนอื่นๆ ได้อย่างลงตัว ช่วยสนับสนุนการแสดงโดยรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ดำเนินไปด้วยดีตามแนวชายฝั่ง และการแสดงของเขาก็ทำออกมาได้ดีจนได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงนักแสดงนำชายทันที
ในขณะที่ “มาย ภาคภูมิ” ก็ถือได้ว่าถ่ายทอดการแสดงออกได้เช่นกัน แม้จะยังมีช่องว่างและจังหวะที่โชว์ศักยภาพได้เต็มที่ แต่ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจทีเดียว แต่พวกเขาพยายามถ่ายทอดบทของตัวเองอย่างเต็มที่ ที่อาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบแต่ก็ถือว่ายังดีตามมาตรฐาน
ส่วนนักแสดงสมทบคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น “ฟ้า ตันตนะ”, “คานธี วสุวิชกิจ”, “ประดิษฐ ปราสาททอง” หรือ “อรอนงค์ ปัญญาวงศ์” ก็ถือเป็นทีมเสริม ความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นสำหรับผู้ชาย ในองค์ประกอบนี้มีทีมคัดเลือกนักแสดงที่ค่อนข้างดีและมีลีลาการแสดงเพิ่มมากขึ้น ทำให้ภาพรวมของหนังยกขึ้นได้ดีมาก
จึงสามารถกล่าวได้ว่า ม่านสรวง ถือเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องล่าสุดที่เพิ่งยกระดับมาตรฐานภาพยนตร์ไทยขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง High ไม่เหมือนหนังไทยเรื่องอื่นในเวลานี้ นี่คือหนังไทยที่คาดไม่ถึงที่จะมีโอกาสได้ดูและเกิดขึ้นจริงในการผลิตที่มีรายละเอียดและสวยงาม บวกกับผลงานการกำกับที่ลงตัวกับนักแสดงที่ลงตัว
และนี่เป็นเพียงหนังไทยบางเรื่องเท่านั้น ด้วยบทที่แข็งแกร่งและมีน้ำหนักที่ดี เป็นหนังที่กล้าก้าวออกจากวังวนเดิมและโซนปลอดภัยของหนังไทยเพราะไม่ได้มีแค่หนังผีและหนังตลกเท่านั้น หากคุณกล้าที่จะสร้างสรรค์ จงทำให้ดีที่สุด ฉันคิดว่าหนังไทยไปได้ไกล และดูเหมือนว่าหมานซวงได้ปูทางไปสู่เรื่องนี้แล้ว มันเกินกว่าพลังอ่อนโยน...
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: แมนสรวง
- ประเภท: ดราม่า / สืบสวนสอบสวน
- ผู้กำกับ: กฤษดา วิทยาขจรเดช, ชาติชาย เกษนัส, ผศ.ดร.พันพัสสา ธูปเทียน
- นำแสดงโดย: ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์, ภาคภูมิ ร่มไทรทอง, อัศวภัทร พลพิบูลย์, ธนายุทธ ฐากูรอรรถยา
- ความยาว: 120 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 24 สิงหาคม 2023