สานฝันวัยเด็กสำหรับ แดน เบิร์น กองหลัง ไบรจ์ตัน ที่ย้ายมาเสริมแนวรับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ทีมโปรดของเขาด้วยค่าตัวที่ 13 ล้านปอนด์ส่งท้ายตลาดซื้อขายเดือนมกราคม
ตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คเป็นหนึ่งในเป้าหมายหลักของการเสริมทัพ นิวคาสเซิ่ล ในตลาดซื้อขายรอบนี้ โดยพวกเขาเล็งนักเตะแบบ ดิเอโก้ คาร์ลอส รวมถึง สเวน บ็อตมัน ไว้แต่ก็พบกับความล้มเหลวในการเจรจา
เบิร์น เองเป็นนักเตะที่พวกเขาเหล่มาพักนึงแล้วและตัดสินใจเดินหน้าทาบทามหลังแห้วเป้าหมายหลัก แต่ก็พบกับความล้มเหลวเช่นกันหลังยื่นข้อเสนอไปสองรอบแรก
สุดท้าย “สาลิกาดง” อัพข้อเสนอขึ้นมาเป็น 13 ล้านปอนด์ทำให้ ไบรจ์ตัน ยอมปล่อยกองหลังวัย 29 ปีไปอยู่ในถิ่น เซนต์ เจมส์ พาร์ค และเขาก็เซ็นสัญญาเป็นเวลา 2 ปีครึ่งย้ายสู่สโมสรที่ตามเชียร์มาแต่เด็ก
“ผมตื่นเต้นเลยล่ะที่ได้มาอยู่กับทีมนี้ ผมไม่เคยคิดว่าผมจะได้มาเป็นนักเตะของ นิวคาสเซิ่ล และได้อยู่ในสนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค นี่เป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กเลย” เบิร์น บอกกับเว็บไซต์ของสโมสร
“ผมอดใจรอไม่ไหวที่จะได้สวมชุดแข่งลงสนามเพื่อดูว่าจะรู้สึกยังไง จากที่เด็กๆเคยนั่งบนอัฒจันทร์ฝั่งตะวันออกจนมาถึงจุดนี้, สุดจริงๆ ผมเนื้อเต้นกับการได้เริ่มต้นกับทีม”
เขาเคยเป็นเด็กในอคาเดมี่ของ นิวคาสเซิ่ล เองก่อนจะโดนปล่อยตัวออกจากทีม เขาผ่านการเล่นในทีมระดับล่างอย่างเช่น ไบลธ์ สปาร์ตันส์ และ ดาร์ลิงตัน ก่อนจะได้ประเดิมฟุตบอลระดับอาชีพกับ ดาร์ลิงตัน ในปี 2009
ฟอร์มน่าประทับใจทำให้เขาได้เซ็นสัญญากับสโมสรอย่าง ฟูแล่ม ในปี 2011 ซึ่งตอนนั้นพวกเขาอยู่บนพรีเมียร์ลีก
เขาผ่านการโดนปล่อยยืมตัวไปเล่นกับ เยโอวิล ทาวน์ และ เบอร์มิงแฮม ซิตี้ ก่อนหมดสัญญาตามด้วยการย้ายซบ วีแกน
เขาทำผลงานน่าประทับใจจนถูกเลือกเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ วีแกน จากนั้นก็ย้ายซบ ไบรจ์ตัน แล้วก้าวขึ้นมาได้รับโอกาสลงสนามต่อเนื่องตั้งแต่ฤดูกาล 2019-20