เกมการแข่งขัน ระหว่าง ทัพกระทิงดุ ทีมชาติ สเปน กับทัพฟ้าขาว ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ในศึกฟุตบอล โอลิมปิก 2020 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่สาม นัดสุดของกลุ่ม ซี โดยเล่นกันที่สนาม ไซตามะ สเตเดี้ยม, เมืองไซตามะ ประเทศญี่ปุ่น (สนามกลาง) เมื่อวันพุธที่ 28 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ทีมชาติ สเปน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ หลุยส์ เด ลา ฟวนเต้ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย เปดรี้ เพลย์เมกเกอร์จอมพลิ้ว ดานี่ โอลโม่ ตัวทำเกมริมเส้น และ มิเกล โอยาร์ซาบัล ศูนย์หน้าตัวจบสกอร์ของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมชาติ อาร์เจนติน่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ แฟร์นานโด บาติสต้า มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย ฟาอุสโต้ เวร่า กองกลางห้องเครื่อง อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ อดอลโฟ่ กาอิช ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
นาที 4
เริ่มเกมมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ อาร์เจนติน่า ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ ฟาอุสโต้ เวร่า ขอลองส่องไกลด้วยขวาเต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ ระยะร่วม 35 หลา บอลพุ่งแรงแต่ไม่ตรงกรอบ สุดท้ายหลุดออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาที 11
ทีมชาติ สเปน ได้ทักทายบ้าง เป็นจังหวะ ต่อบอลกันขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ดานี่ โอลโม่ ซัดด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ บอลพุ่งแรงกระดอนพื้นหนีมือ เฮเรมิอาส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่า เฉียดเสาแรกซ้ายมือ หลุดออกหลังไปนิดเดียว
นาที 13
ทีมชาติ สเปน เริ่มเครื่องร้อน บุกขึ้นมาเรื่อย ๆ จังหวะนี้ ดานี่ โอลโม่ เลี้ยงจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะซัดเร็วไปติดแขนของ ฟากุนโด้ เมดิน่า แต่ผู้ตัดสิน ยังใจแข็ง ไม่ได้ว่าอะไรบอลแฉลบเลยมาเข้าทาง มาร์โก อเซนซิโอ พยายามจะม้วนหาช่องยิง สุดท้ายซัดไปแฉลบบล็อคของกองหลังอาร์เจนติน่า หลุดออกหลังไป ได้เป็นเตะมุม ผู้เล่นสเปน เข้ามารุมผู้ตัดสิน โวยวายจะเอาลูกจุดโทษกันใหญ่
นาที 14
ทีมชาติ อาร์เจนติน่า ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ป้ายบอลออกไปทางขวาให้ เอเซเกียล บาร์โก้ ได้ติดเครื่อง ลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจยิงด้วยขวา ยัดมุมแคบไปที่เสาแรกทันที แต่บอลก็ยังไปติดเซฟของ อูไน ซิม่อน ผู้รักษาประตูสเปน ที่ยืนจังก้าคุมเสาไว้อยู่แล้ว ปัดทิ้งออกหลังไป ได้เป็นเตะมุมแทน
นาที 15
ทีมชาติ สเปน ได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น ดานี่ โอลโม่ รับอาสา วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวยกำลังจะเสียบเสาซ้ายมืออยู่แล้ว แต่ เฮเรมิอาส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่า ยังยืนตำแหน่งได้ดี พุ่งไปปัดกระฉอกออกมา ก่อนที่กองหลังจะตามมา ช่วยกันเคลียร์ทิ้งออกไป
นาที 26
ทีมชาติ สเปน น่าจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ดานี่ โอลโม่ ลากบอลเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วโดนสกัด บอลกระดอนไปเข้าทาง มาร์ก คูคูเรญ่า วิ่งมาซัดไปติดเซฟของ เฮเรมิอาส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่า ปัดออกเข้าทาง มิเกล โอยาร์ซาบัล ได้เกี่ยวบอลลง แล้วกำลังจะได้ยิงเน้น ๆ แต่ก็ยังโดนสกัดได้ทันในจังหวะสุดท้าย เปดรี้ ได้วิ่งมาซ้ำ บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย
นาที 35
ทีมชาติ สเปน บุกขึ้นมาได้ลุ้นอีกหน จังหวะนี้ เปา ตอร์เรส ดันสูงขึ้นมาเกือบกลางสนาม แล้วโยนยาวทิ้งขึ้นหน้าไปยังสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ มาร์ก คูคูเรญ่า ได้สปีดหน้าตั้งขึ้นไปเก็บบอล ก่อนจะตบกลับเข้ามาตรงกลางให้ มิเกล โอยาร์ซาบัล ได้วิ่งมาซัดด้วยขวาเน้น ๆ แต่บังคับทิศทางได้ไม่ดี บอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกล
นาที 41
ทีมชาติ สเปน ได้ฟรีคิกระยะได้ลุ้น บริเวณด้านซ้ายของกรอบเขตโทษ ดานี่ โอลโม่ รับหน้าที่ ทำท่าจะเปิด แต่เล่นลูกลักไก่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวย แต่มุดช้าไปหน่อย สุดท้ายเฉียดคานบน หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมชาติ สเปน ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดตามสไตล์ ปูพรมขึงเกมรุก บุกใส่อย่างต่อเนื่อง อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่จังหวะสุดท้ายยังทำไม่ได้เอง ส่วนทางด้านทีมชาติ อาร์เจนติน่า ยังตั้งรับได้เหนียวแน่น ยันสกอร์เอาไว้ได้ดี ทำให้ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ 0-0 !!!
นาที 50
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมชาติ สเปน ที่ได้ทักทายก่อน และพลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะความยอดเยี่ยมของ มิเกล โอยาร์ซาบัล ที่โชว์ความพลิ้ว ล็อคหนีตัวประกบ หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาได้อย่างสวย ก่อนที่เจ้าตัวจะจ่ายบอลเข้ากลางถวายพานทองฝังเพชรมาให้ ดานี่ โอลโม่ ได้ตั้งป้อมแปด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ น่าเสียดายอย่างที่สุด
นาที 55
ทีมชาติ สเปน บุกมาอีกครั้ง จังหวะนี้ มิเกล โอยาร์ซาบัล เจ้าเก่า ได้เหลี่ยมส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงตรงกรอบ แต่ก็ยังไม่หนีมือเท่าไหร่ เฮเรมิอาส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่า ผวาพุ่งไปปัดทิ้งออกมาได้ทันหวุดหวิด
นาที 66 GOAL!!!
ทีมชาติ สเปน ได้ประตูขึ้นนำจนได้ เป็นจังหวะเริ่มที่ มาร์โก อเซนซิโอ้ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะเปิดบอลโด่งข้ามฟาก ลึกไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ดานี่ โอลโม่ ที่ยืนรออยู่ ได้เบิ้ลบอลจังหวะเดียว มาที่หน้าเสาแรกตั้งให้ มิเกล เมริโน่ วิ่งสอดมาแปด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งเลียดกระดอนพื้นหนีมือ เฮเรมิอาส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่า เบียดเสาใกล้ซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 77
ทีมชาติ สเปน ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ดานี่ โอลโม่ เติมขึ้นมารับในกรอบเขตโทษด้านซ้าย ก่อนจะไหลย้อนกลับหลังมาที่หน้าเขตโทษตั้งให้ มาร์โก อเซนซิโอ ได้วิ่งเข้ามากดด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ บอลพุ่งแรงและตรงกรอบทำท่าจะเสียบเสาซ้ายมือ แต่สุดท้ายก็เป็น เฮเรมิอาส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่า โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดทิ้งไว้ได้ทันเฉียดฉิว
นาที 80
ทีมชาติ อาร์เจนติน่า บุกสวนกลับขึ้นมาบ้าง จังหวะนี้ สาดโด่งเข้าไปในเขตโทษ แล้วเป็น เปา ตอร์เรส หวดเคลียร์สกัดบอล พุ่งไปโดนแขนของ มิเกล เมริโน่ ที่วิ่งเข้ามาพอดี ผู้เล่นอาร์เจนติน่า โวยวายฟ้องจะเอาลูกจุดโทษกันใหญ่ แต่ผู้ตัดสินก็ยังนิ่ง ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนจะเช็ค VAR แล้วยืนยันคำตัดสินเดิม เพราะมองว่าแขนของ เมริโน่ แนบลำตัวอยู่นั่นเอง
นาที 87 GOAL!!!
ทีมชาติ อาร์เจนติน่า มาได้ประตูตีเสมอเป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ ได้เตะมุมทางฝั่งซ้าย ธิอาโก้ อัลมาด้า บรรจงเปิดบอลโด่ง พุ่งแรงโค้งสวยมาที่กลางประตู แล้วเป็น โตมาส เบลมอนเต้ ได้สอดมาโหม่งเหน่ง ๆ คนเดียวโล่ง ๆ บอลพุ่งแรงไปโดนขา เฮเรมิอาส เลเดสม่า ผู้รักษาประตูอาร์เจนติน่า นิดนึง แต่ด้วยความแรงและจวนตัว บอลปลิ้นเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมชาติ สเปน เสมอกับทีมชาติ อาร์เจนติน่า ไปได้ด้วยสกอร์ 1-1 !!! คว้าแชมป์กลุ่มซี ได้สำเร็จ โดยจะผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปพบกับทีมชาติ ไอวอรี่โคสต์ ในวันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้าน อาร์เจนติน่า แพ้ประตูได้เสียทีมชาติ อียิปต์ ร่วงลงมารั้งอันดับที่ 3 ของตาราง กระเด็นตกรอบไปเป็นที่เรียบร้อย