เรียกได้ว่าในเดือนพฤษภาคมนี้มีหนังรอมคอมอีสานให้ดูกันถึง 2 เรื่องด้วยกัน อย่างในต้นเดือนวันแรงงานที่ผ่านมาก็ได้ดู ออนซอนเด ถัดมาไม่กี่สัปดาห์ก็ได้ดู หน่าฮ่าน ที่กำกับโดย ตั๊ก ฉันทนา ทิพย์ประชาชาติ ผู้กำกับสาวรุ่นใหม่มาแรง ที่ดึงเอานักแสดงหน้าใหม่ยกเซ็ตมาถ่ายทอดความเป็นวัยรุ่นอีสานมักม่วนมาลงจอเงินครั้งแรก นำโดย ก๊อส สุดารัตน์ โพธิ์อำพล, แม็คกี้ นฤเบศร์ ฤทธิศร และ แค็ปเปอร์ บุญฤทธิ์ เวียงนนท์
หน่าฮ่าน ว่าด้วยเรื่องราวของ ยุพิน เด็กสาวพอกะเทินกับพรรคพวกอย่าง เติ้ลไม้, แคลเซียม, เป๊กกี้ และ หอยกี้ ที่ตระเวนเต้นหน่าฮ่านแถวบ้านมากกว่าเวลาทั้งหมดที่ใช้ในห้องเรียน แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็พบรักกับหนุ่มหล่อ สิงโต ที่แผงขายสร้อยคอหน้าวัด แล้วก็โดนตัดสัมพันธ์ไปแบบไม่ทันตั้งตัว
แผลใจยังไม่ทันหายดี สวรรค์ หมอแคนประจำวงโรงเรียน หน้าหล่อแถมเอวดี ผลการเรียนเด่น ก็เข้ามาสานต่อหัวใจยุพินในทันที ขณะที่ความรักของทั้งคู่กำลังไปได้สวยนั้น ยุพินแอบหนีสวรรค์ไปเต้นหน่าฮ่านไกลถึงต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก และที่นั่นเองที่ทำให้เธอได้เจอกับสิงโตอีกครั้งหนึ่ง แน่นอนว่ายุพินยังลืมเขาไม่ได้เลย
ต้องบอกกันตามตรงว่าในฐานะที่เป็นคนอีสานและได้ดูหนังอีสานมาหลายต่อหลายเรื่อง หลายครั้งที่ต้องพบกับความผิดหวังที่หนังทำออกมาไม่สนุก จนแอบเข็ดไปบ้างแล้วเหมือนกัน แต่ด้วยอาชีพและความชื่นชอบในการดูหนัง ทำให้ในใจลึกๆ ยังคงแอบหวังว่าจะยังคงมีหนังที่ถ่ายทอดความเป็นอีสานที่มีคุณภาพออกสู่สายตาสาธารณชน แน่นอนว่าอยากให้เทียบเท่าหรือมากกว่า ไทบ้านเดอะซีรีส์ เสียด้วยซ้ำ และเมื่อมาเจอหนัง หน่าฮ่าน ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริงๆ
นอกจากโปรดักชั่นงานสร้างที่มีคุณภาพเหมาะสมในยุคปัจจุบันแล้ว แน่นอนว่า หน่าฮ่าน ยังมีการผูกเรื่องราวและความสัมพันธ์ของตัวละครได้ดี นั่นรวมไปถึงการถ่ายทอดความอีสานผ่านกิจกรรรมที่คล้ายกับจะกลายเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งอย่างการเต้นหน่าฮ่านของคนที่ไม่ได้มีเพียงแค่วัยรุ่น (แค่มากกว่าทุกวัยแค่นั้นเอง) ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ สะท้อนความมักม่วนเฮฮาได้เป็นอย่างดีและเต็มไปด้วยสีสันที่หลากหลาย
หากมองยังอย่างผิวเผินและยังไม่ได้ตีตั๋วเข้าไปชม ดูเหมือนว่าหนังจะเป็นการถ่ายทอดความเป็นวัยรุ่นบ้านๆ แบบที่เป็นข่าวเห็นกันทั่วไปในด้านที่ดูไม่ดีนัก หรืออาจจะเปรียบเป็นเรื่องราวของฮอร์โมนวัยว้าวุ่น แต่ลึกๆ แล้วหนังกลับสะท้อนให้เห็นความเป็นตัวตนของคนอีสานได้ดีกว่านั้น ซึ่งหากมองย้อนลงไปในอดีตอีกจะเห็นได้ว่าความสนุกจากหมอลำนี่แหละที่ช่วยบรรเทาความเหนื่อยยากจากการทำอาชีพทำไร่ไถนา ซึ่งทำให้คิดถึงความทรงจำในวัยเยาว์ในบ้านเกิด เมื่อตอนตามพ่อแม่ไปดูหมอลำแล้วเห็นคนหลายๆ แนว ทั้งขี้เมาหาเรื่องตีกันหน้าเวที กลุ่มคนนั่งดูแบบสงบๆ และแน่นอนว่าขาดคนเต้นหน่าฮ่านไม่ได้เลย
และต้องขอชื่นชมและปรบมือให้กับเหล่านักแสดงหน้าใหม่ทุกคนที่ถ่ายทอดบทบาทของตัวละครออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติและสดใหม่ โดยเฉพาะน้องนางเอกใหม่ ก๊อส สุดารัตน์ และสองพระเอก แม็คกี้ นฤเบศร์ และ แค็ปเปอร์ บุญฤทธิ์ ที่นอกจากจะหน้าตาสวยหล่อสมวัย แถมยังมีเสน่ห์ในการแสดงมาก หากอนาคตมีผลงานให้ติดตามต่อเชื่อว่ามีหลายๆ คนไม่พลาดสมัครเป็นเอฟซีแน่
อย่างไรก็ตามมีแอบขัดใจตรงความสัมพันธ์ของตัวละครนิดหน่อย ซึ่งรู้สึกว่ามันขาดตอนไปในบางช่วง ไม่แน่ใจว่าอาจจะถูกตัดออกไปหรือไม่อย่างไร รวมไปถึงฉากที่มีเวทีหมอลำยังมีออกมาให้ตัวละครเต้นได้ไม่จุใจนัก แต่ก็พอเข้าใจว่าหากมีเยอะกว่านี้คงไม่ลงตัวและยืดเยื้อไปกว่านี้
หากให้ระดับความประทับใจของ หน่าฮ่าน ก็คงบอกว่าเทียบเท่าหนังอีสานอีกเรื่องอย่าง ไทบ้านเดอะซีรีส์ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ออกบ้านๆ ขนาดนั้น แต่มันก็มีความเป็นตัวของตัวเอง หนังโฟกัสเฉพาะเรื่องราวของตัวละครเพียงไม่กี่คนให้คนดูจำได้ง่าย และไม่เพียงแค่นำเสนอแต่ความสนุกสนานเท่านั้น แต่ยังสะท้อนมุมมองการใช้ชีวิตที่แตกต่างของแต่ละตัวละครได้อย่างงดงาม สิ่งสำคัญที่สุดคือทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างที่จะเกิดขึ้นย่อมอยู่ที่การตัดสินใจของตัวเองเท่านั้น ทำให้คิดได้ว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วนั้นดีเสมอ”
ป.ล. เพลงประกอบหนังชวนให้ไปเต้นหน่าฮ่านจริงๆ
หน่าฮ่าน 8.5/10 คะแนน เข้าฉายในไทย 9 พฤษภาคม 2019