เยอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล เชื่อว่าการดวล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อริสำคัญนั้น ผลงานในอดีตไม่ได้มีความหมายแต่อย่างใด
“หงส์แดง” เตรียมลงสนามพบ “ปีศาจแดง” ในเกมแดงเดือด ที่แอนฟิลด์ คืนนี้ หลังเคยบุกชนะ 5-0 ระหว่างเกมที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ในช่วงต้นฤดูกาล
กระนั้น คล็อปป์ บอกว่าผลงานที่่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดนั้น จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเกมในค่ำคืนนี้
โค้ชชาวเยอรมนี กล่าวว่า “เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนผมเคยพูดแล้วว่า ทุกนัดที่เหลือในฤดูกาลนี้จะเป็นเกมชิงชนะเลิศ”
“ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่จำเป็นต้องพูดแบบนั้นในโปรแกรมค่ำคืนนี้ หากมันจะมีสักเกมในโปรแกรมของเราซึ่งจะเป็นนัดชิงดำ มันคือเกมระหว่างลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด”
“หากจะมีสักแมตช์ที่ไม่จำเป็นต้องปลุกระดมอะไร นั่นคือเกมนี้ แค่มีส่วนร่วมในเกมแบบนี้ถือเป็นสิทธิพิเศษแล้ว”
“ประวัติศาสตร์ของทั้งสองสโมสร และความเป็นอริที่มีระหว่างทั้งสองทีมมันพิเศษใส่ไข่มากๆ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องมาจากลิเวอร์พูล หรือแมนเชสเตอร์ ก็จะสามารถเล็งเห็นมันได้”
“ผมทราบเรื่องราวทั้งหมดดีตอนที่อาศัยและทำงานในเยอรมนี มันก็เหมือนกับหลายต่อหลายคนทั่วโลกที่รักฟุตบอล นี่คือกลาซิโอ้ แห่งอังกฤษ”
“หากผมไม่โชคดีพอที่มาเป็นผู้จัดการทีมของหนึ่งในสองทีมนี้ ผมก็คงอยากได้บัตรเข้ามาชมเกมระหว่างลิเวอร์พูลกับยูไนเต็ด ลงสนามเล่นกัน”
“มันไม่เกี่ยวเลยว่าจะเป็นการแข่งขันรายการไหน หรือทีมไหนกำลังฟอร์มดีเลิศ ความเข้มข้นและแพสชั่นของความเป็นอริกันนั้นมันจะมีความสำคัญเสมอ”
“ผมทราบดีว่าจะมีคนที่่มองย้อนไปยังผลการแข่งขันหนล่าสุดที่ทั้งสองทีมเจอกัน และจะมองว่าเกมในคืนนี้มีบทสรุปล่วงหน้ามาแล้ว”
“ผมช่วยคนเหล่านั้นไม่ได้ และผมดีใจที่ภายในทีมของเราไม่มีใครเลยที่คิดอะไรแบบนั้น”
“ผมยังรู้อีกนะว่า การได้พูดคุยกับใครบางคนที่มีส่วนร่วม แม้แต่ตอนที่ลิเวอร์พูล ครองยุค 80 นั้น ยูไนเต็ดก็เป็นคู่แข่งที่หินที่สุดเสมอมา อีกครั้งนะ นี่มันเพราะความเป็นศัตรู และผมคาดหวังว่าเกมในคืนนี้จะไม่ได้แตกต่างออกไป”
“ผลการแข่งขันที่ผ่านมาไม่ได้สำคัญอะไร มันไม่ได้สำคัญอะไรเลย ตำแหน่งบนตารางของลีกก็ไม่ได้สำคัญ สิ่งเดียวที่สำคัญจะเป็นวิธีการที่เราลงไปเล่นในสนาม”
“ผมชอบสิ่่งนี้ ผมชอบความจริงที่ว่าต้องทุ่มเทสุดตัวและความกล้าหาญในการเล่นฟุตบอลจะเป็นสิ่งที่ทำให้คุณมีโอกาสดีที่สุดในการประสบความสำเร็จในโปรแกรมแบบนี้”
“เราคือคนเดียวที่มีภาระหน้าที่ในการรับผิดชอบฟอร์มการเล่นของเราเอง และเราจะตอบรับหน้าที่ความรับผิดชอบนี้ในแบบเดียวกับที่เราได้ทำมาเสมอ”