เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพราชันชุดขาว เรอัล มาดริด (สเปน) เปิดสนาม เอสตาดิโอ ซานติอาโก้ เบอร์นาบิว, กรุงมาดริด ประเทศสเปน ต้อนรับการมาเยือนของทัพตรานายอำเภอ เชอร์ริฟ ติราสโพล (มอลโดวา) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กรุ๊ป ดี นัดที่ 2 เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ 28 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดยสามประสานอย่าง คาร์ลอส คาเซมิโร่ กองกลางห้องเครื่อง เอแด็น อาซาร์ ปีกจรวดทางเรียบ และ คาริม เบนเซม่า ดาวยิงตัวความหวังสูงสุดของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เชอร์ริฟ ติราสโพล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ยูริ เวอร์นีดุบ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เอ็ดมุนด์ อัดโด้ กองกลางห้องเครื่อง แฟร้งค์ กาสตันเญด้า เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ ยาซูร์เบค ยัคชิบาเยฟ กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 7
เปิดฉากมา เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่ได้ทักทายก่อน เป็นจังหวะ นาโช่ เฟร์นานเดซ ตัดบอลได้แล้วไหลเร็วมาที่หน้ากรอบเขตโทษให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ได้ลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดติดบล็อกของ ดานิโล่ อาร์โบเลด้า ที่ตามมาลงมาช่วยก้องกันเอาไว้ได้ทัน
นาที 10
ช่วงต้นเกม เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่เป็นฝ่ายครองบอลบุกอยู่ฝั่งเดียวตามคาด ทว่าทีมเยือน เชอร์ริฟ ติราสโพล ยังช่วยกันตั้งรับเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้ทัพราชันชุดขาวถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกัน ได้โหมบุกแต่เจาะไม่เข้า ยังแทบไม่มีจังหวะอันตรายใด ๆ ให้ได้ลุ้นเพิ่มเลย
นาที 18
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษเกือบติดเส้น เยื้อง ๆ ไปทางซ้าย แล้วเป็น คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ข้ามกำแพง บอลพุ่งแรงโค้งสวย ทำท่าจะมุมเสียบใต้คานอยู่แล้ว ทว่าเป็น จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาพุ่งไปปัดออกหลังได้ทันหวุดหวิด
นาที 24
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ เอแด็น อาซาร์ แทงบอลทะลุช่องให้ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ได้หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าหวดด้วยขวาเน้น ๆ แต่บอลไม่ตรงกรอบ หลุดเสาออกหลังไปเองอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ
นาที 25 GOAL!!!
ทำไปทำมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพนายอำเภอ เชอร์ริฟ ติราสโพล สร้างเซอร์ไพรส์ ยิงประตูขึ้นนำเป็นก่อน 1-0 !!! เป็นจังหวะตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว คริสเตียโน่ ดา ซิลวา เติมเกมสูง ลากพาบอลขึ้นมาเองจนเกือบสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสโด่ง ลอยลึกไปที่หน้าเสาไกลให้ ยาซูร์เบค ยัคชิบาเยฟ ได้สอดมาโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลพุ่งแรงสวนตัว ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก
นาที 31
หลังจากเสียประตู เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด โหมบุกหวังตีเสมออย่างหนัก จังหวะนี้ คาริม เบนเซมา ลากขึ้นมาเปิดเข้าไปในเขตโทษโดน คริสเตียโน่ ดา ซิลวา สกัดเคลียร์ออกมาที่หน้าเขตโทษ บอลชุลมุนขลุกขลิกมาเข้าทาง มิเกล กูเตียร์เรซ ที่ดันสูงขึ้นมา ได้แต่งเข้าเขตโทษหนึ่งที ก่อนจะลองซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลเหินข้ามคานไปนิดเดียวแบบได้เสียว
นาที 32
ทีมเยือน เชอร์ริฟ เกือบได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ขยันเพลสซิ่งกดดันจนทำให้เจ้าบ้านเสียบอลหน้ากรอบเขตโทษตัวเอง ก่อนจะเป็น ยาซูร์เบค ยัคชิบาเยฟ ได้เลี้ยงลุยเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวแต่งหาช่องแล้วจบเร็วด้วยซ้าย บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผ่านหน้าปากประตู เฉียดเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 35
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ คาร์ลอส คาเซมิโร่ แทงบอลตามช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ วินิซิอุส จูเนียร์ ที่กางมุ้งรอโล่ง ๆ ได้เอี้ยวตัววางเท้าบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวย ถากเสาไกลขวามือ ลอยออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
นาที 36
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ คาริม เบนเซม่า จ่ายยัดไปที่กรอบเขตโทษฝั่งขวาให้ เอแด็น อาซาร์ ติดเครื่องลากจี้เข้าหากองหลัง ก่อนจะโยกไปซัดเร็วด้วยขวายัดมุมแคบที่เสาแรกติดเซฟของ จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนคุมเสาอยู่ ปัดลอยมาที่กลางประตูเข้าทาง นาโช่ เฟร์นานเดซ ได้สอดมาโหม่งซ้ำโล่ง ๆ หลุดเสาไกลออกไปแบบไม่น่าเชื่อ
นาที 37
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด โหมบุกใส่อย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ เอแด็น อาซาร์ ลากจี้ขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวไหลบอลตัดเข้ากลางมาที่หัวกระโหลกให้ คาริม เบนเซม่า ได้แต่งเข้าเหลี่ยมหนึ่งที ก่อนจะบรรจงปั่นด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่โค้งช้าไปหน่อย ลอยหลุดเสาขวามือออกไปอีกเหมือนเดิม
นาที 43
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ลุ้นส่งท้ายอีกครั้ง เป็นจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ ลากจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะหักย้อนกลับมาที่หัวกระโหลกให้ คาร์ลอส คาเซมิโร่ ได้ลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ บอลพุ่งแรงน่ากลัวแถมติดส่าย ทว่า จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาปัดออกมาได้ทันเฉียดฉิว
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายปูพรม ขึงเกมรุกบุกใส่ทีมเยือน เชอร์ริฟ ติราสโพล อยู่แทบจะฝั่งเดียว แต่ทว่า กลายเป็นทางฝั่งทัพตรานายอำเภอ ที่บุกมาแอบยิงขึ้นนำทัพราชันชุดขาวไปได้ก่อน สกอร์ตอนนี้ มาดริด 0 เชอร์ริฟฟ์ 1 !!!
นาที 56
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ที่โหมบุกเข้าใส่ทีมเยือนอย่างหนักทันที จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ เดินเกมขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย เจ้าตัวไหลมาที่หน้ากรอบเขตโทษตรงกลางต่อให้ เอแด็น อาซาร์ ได้วางเท้ากดด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อ บอลพุ่งแรงติดส่ายแต่ไม่ค่อยหนีมือเท่าไหร่ จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดทิ้งออกหลังไปได้ทัน ยอมเสียเป็นเตะมุม
นาที 61 VAR!!!
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ลูกจุดโทษ เมื่อ วินิซิอุส จูเนียร์ โชว์ความพลิ้ว ลากฝ่าดงกองหลังทีมเยือนทะลุเข้าไปในเขตโทษ ก่อนเจ้าตัวจะโดนแนวรับเชอร์ริฟฟ์แซะจากด้านหลังล้มลงไป ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมแล้ววิ่งไปเช็ค VAR สุดท้ายกลับลงมาไม่ให้เป็นจุดโทษ ซึ่งภาพช้าดูเหมือน นักเตะความเร็วสูงรายนี้ ท่าทางจะขาอ่อนง่ายไปหน่อย
นาที 65 GOAL!!!
หลังจากบดอยู่นาน เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด มาได้ประตูตามตีเสมอจนได้เป็น 1-1 !!! เป็นจังหวะ วินิซิอุส จูเนียร์ เจ้าเก่า ลากบอลจี้เข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะโดน เอ็ดมุนด์ อัดโด้ เข้าพรวดขวางเจ้าตัวล้มลงไป คราวนี้ ผู้ตัดสินไม่รอช้า วิ่งมาเป่าชี้ให้เป็นลูกจุดโทษของเจ้าถิ่น แถมเช็ค VAR อีกครั้งแล้วยืนยันคำเดิม สุดท้ายเป็น คาริม เบนเซม่า รับหน้าที่สังหาร ซัดไปโดน จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ปัดไว้ได้นิดนึง แต่ก็เท่านั้น บอลแรงปลิ้นเข้าประตูไปอยู่ดี ไม่พลาด
นาที 68
หลังจากได้ประตูตีเสมอ เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ยังคงบุกใส่อย่างต่อเนื่องทันที จังหวะนี้ บอลชุลมุนในกรอบเขตโทษของทีมเยือน แล้วเป็น เอดูอาร์โด้ กามาวินก้า โหม่งชงมาที่หน้าเสาขวามือเข้าทาง วินิซิอุส จูเนียร์ ได้ซัดเน้น ๆ มุมแคบยัดไปที่เสาแรก แต่เป็น จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี เซฟเอาไว้ได้ทัน
นาที 73
ทีมเยือน เชอร์ริฟ ติราสโพล เกือบได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง เป็นจังหวะ คริสเตียโน่ ดา ซิลวา ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะครอสมาที่หน้าเสาแรกถวายพานให้ บรูโน่ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ซัดจ่อ ๆ เข้าประตูไป ทว่า โลร็องต์ วิสเซอร์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ขอไปเช็ค VAR สักครู่ สุดท้ายท้ายริบประตูคืนเพราะเจ้าตัวอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าไปนิดเดียว เฮเก้อกันไปสำหรับทีมเยือน
นาที 75
เกมเข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ คาริม เบนเซม่า ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะแทงบอลตามช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวาอย่างสวยให้ ลูก้า โมดริช ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้ก้มหน้าหวดด้ววขวาเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรกติดเซฟของ จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ใช้หน้าตัวเองป้องกันบอลเอาไว้ได้เต็ม ๆ แพทย์สนามต้องลงมาดูอาการเลยทีเดียว
นาที 77
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ต่อเนื่องจากลูกเตะมุม เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ เก็บแถวสองได้แล้วแทงทะลุช่องให้ เอแดร์ มิลิเตา ได้หลุดไปวางเท้าซัดด้วยขวาบอลเน้น ๆ โล่ง ๆ ในเขตโทษฝั่งขวา ทว่า จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังคงยอดเยี่ยม ผวาพุ่งปัดออกมาได้อีกครั้งหนึ่ง
นาที 82
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ วินิซิอุส จูเนียร์ พาบอลพลิ้วหลุดขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะเปิดเข้าไปที่กลางประตูให้ โรดรีโก้ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้วิ่งสอดมาซัดคนเดียวเน้น ๆ ไม่จับ ส่งบอลพุ่งเฉียดคาน หลุดกรอบไปเอง ลอยออกหลังนิดเดียว อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 87
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ โรดรีโก้ กระชากหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจะครอสบอลโค้งไปที่กลางประตูให้ ลูก้า โยวิช ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ได้พุ่งเข้าชาร์จคนเดียวโล่ง ๆ ระยะไม่ถึง 6 หลา ทว่าโดนไม่ดี บอลปลิ้นเข้ามือของ จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 89 GOAL!!!
ทำไปทำมา เป็นทีมเยือน ทัพนายอำเภอ เชอร์ริฟ ติราสโพล ที่ได้ประตูพลิกขึ้นมานำอีกครั้งเป็น 2-1 !!! เป็นจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร อดาม่า ตราโอเร่ ดอดมารับลูกทุ่มทางขวา เจ้าตัวพาบอลขึ้นมาเองถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะตักบอลย้อนมาที่หน้ากรอบเขตโทษตั้งให้ เซบาสเตียน ธิลล์ ได้ตั้งป้อมวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ เต็มข้อ บอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 90+5
เจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ได้ลุ้นตีเสมอเฮือกสุดท้าย เป็นจังหวะ เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ได้บอลที่หน้ากรอบเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวแต่งหาช่องก่อนจะวางเท้าบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ บอลพุ่งแรงโค้งสวยทำท่าจะมุดใต้คานเข้าประตูอยู่แล้ว ทว่าเป็น จอร์จอส อธานาเซียดิส ผู้รักษาประตูทีมเยือน เจ้าเก่า ผวาปัดออกหลังได้ทันหวุดหวิด
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน เชอร์ริฟ ติราสโพล สร้างเซอร์ไพรส์ บุกมาเฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น เรอัล มาดริด ไปได้แบบสุดช็อค 2-1 !!! ชนะสองนัดรวด เก็บ 6 คะแนนเต็ม เขยิบขึ้นมารั้งจ่าฝูงของกลุ่ม โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนอินเตอร์ มิลาน ในคืนวันอังคารที่ 19 ตุลาคม 2564 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเรอัล มาดริด รั้งรองจ่าฝูงของตาราง นัดต่อไปต้องออกไปเยือนชัคตาร์ โดเนตส์ค ในวันเวลาเดียวกัน