เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น เอ็มโปลี เปิดสนาม สตาดิโอ คาร์โล คาสเตลลานี่ ต้อนรับการมาเยือนของทัพหมาป่า เอเอส โรม่า ในศึกฟุตบอล กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี นัดที่ 23 เมื่อค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น เอ็มโปลี ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ออเรลิโอ อันเดรียซโซลี่ มาเล่นในระบบ 4-3-2-1 นำทีมโดย ซามูเอเล่ ริชชี่ กองกลางห้องเครื่อง เนดิม บาจ์รามี่ มิดฟิลด์ตัวทำเกม และ อันเดรีย ปินามอนติ ศูนย์หน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เอเอส โรม่า ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ มาเล่นในระบบ 3-5-2 นำทีมโดย ไบรอัน คริสตานเต้ กองกลางห้องเครื่อง เฮนริค มคิทาร์ยาน เพลย์เมกเกอร์ตัวทำเกม และ แทมมี่ อับราฮัม ดาวยิงตัวความหวังของทีม
นาที 5
ช่วงต้นเกม เจ้าถิ่น เอ็มโปลี สู้ได้ไม่เป็นรอง ใช้เกมเพลสซิ่ง ช่วยกันป้องกันเกมรุกของทางฝั่งทีมเยือน เอเอส โรม่า เอาไว้ได้หมดทุกกระบวนท่า โอกาสหลุดเข้าไปจบสกอร์แบบจะแจ้งในพื้นที่สุดท้ายของทั้งคู่ ยังไม่มีให้แฟน ๆ ได้เห็น
นาที 6
เจ้าถิ่น เอ็มโปลี ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เลียม เฮนเดอร์สัน แทงบอลไปบริเวณริมกรอบฝั่งขวาให้กับ อันเดรีย ปินามอนติ สอดมาตวัดบอลเปิดเร็วไปที่หน้าเสาไกลให้ ฟิลิปโป้ บานดิเนลลี่ โฉบมาโขกเน้น ๆ ส่งบอลหลุดกรอบ ลอยออกหลังไปไกล ไม่ได้ลุ้น
นาที 8
เจ้าถิ่น เอ็มโปลี บุกขึ้นมาได้จบอีกครั้ง จังหวะนี้ ลูกทุ่มทางขวามาให้กับ อันเดรีย ปินามอนติ พลิกเข้ากลางแล้วไหลนิ่ม ๆ ไปที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ ฟิลิปโป้ บานดิเนลลี่ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะซัดด้วยซ้ายหักข้อเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นน่ากลัว ทว่าทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ รุย ปาตริซิโอ้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทิ้งตัวพุ่งไปรับเอาไว้ได้สบาย
นาที 10
ทีมเยือน ทัพหมาป่า เอเอส โรม่า ได้ทักทายบ้าง จากจังหวะ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์ ไนล์ส ฉกบอลได้ทางริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวล็อคเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะบรรจงหยอดโด่งเข้าเขตโทษแล้วโดนสกัดออกมาเข้าทาง เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้จับหนึ่งที แล้วตามไปฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่น สุดท้ายกระดอนถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปนิดเดียวแบบได้เสียว
นาที 20
เจ้าถิ่น เอ็มโปลี พลาดโอกาสทองที่ได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เลียม เฮนเดอร์สัน จ่ายสั้นเล่นลูกสูตร ทำชิ่งคืนมาให้เจ้าตัวได้เปิดเลียดพุ่งแรงเข้าไปที่กลางประตูโล่ง ๆ ให้กับ เนดิม บาจ์รามี่ ได้วิ่งโฉบมาวางเท้าซัดด้วยขวาโล่ง ๆ บริเวณหน้าจุดโทษ ส่งบอลพุ่งเฉียดสามเหลี่ยมเสาแรก ลอยหลุดออกหลังเองอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 22
ทีมเยือน เอเอส โรม่า เกือบได้ประตูขึ้นนำเหมือนกัน จากจังหวะ ริค คาร์สดอร์ป แทงบอลขนาดเส้นเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ เฮนริค มคิทาร์ยาน สอดไปตวัดเร็วเข้ากลางให้กับ นิโกโล่ ซานิโอโล่ ได้แต่งโล่ง ๆ หนึ่งที ก่อนจะแปด้วยซ้ายเน้น ๆ ไปถูก อาเดรียน อิสไมจ์ลี่ กระโดดไปขวางปืน บล็อกลูกยิงช่วยทีมเอาไว้ได้ทันหวุดหวิด จังหวะสุดท้ายแถวสองโยนเข้าไปที่กลางประตูให้ แทมมี่ อับราฮัม ได้เทคตัวโขกสะบัดเน้น ๆ ส่งบอลหลุดเสาไกลขวามือ กระดอนออกหลังไปอีก
นาที 24 GOAL!!!
ทีมเยือน ทัพหมาป่า เอเอส โรม่า มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์ ไนล์ส ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบซ้าย เจ้าตัวไหลมาที่หน้าหัวกระโหลกนิ่ม ๆ ให้ แซร์โจ้ โอลิเวียร่า ได้แต่งหนึ่งทีแล้วซัดเลียดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปที่กลางประตูตรงตัวของ แทมมี่ อับราฮัม ที่ยืนหันหลังให้ประตู ได้แต่งเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะพลิกตัวตามไปเล่น ซัดหักข้อเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งกระดอนพื้นสวนตัวผ่านมือของ กูเญลเม่ วิคาริโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 9 ในลีกของหัวหอกทีมชาติอังกฤษรายนี้อีกด้วย
นาที 32
ทีมเยือน โรม่า พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูหนีห่าง เป็นจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว นิโกโล่ ซานิโอโล่ กระชากพาบอลลุยขึ้นมาเองทางกราบขวา เจ้าตัวทะลุไปต่อเข้าเขตโทษ ก่อนจะดึงจังหวะตัดเข้ากลางแล้วไหลนิ่ม ๆ มาที่หน้าเสาไกลซ้ายมือโล่ง ๆ ให้ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์ ไนล์ส สอดมาเอี้ยวตัววางเท้าแปด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเบาแถมไปตรงตัวของ กูเญลเม่ วิคาริโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทิ้งตัวปัดทิ้ง เปลี่ยนทางเฉียดเสาซ้ายมือ กลิ้งหลุดออกหลังไปนิดเดียว อย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 33 GOAL!!!
ทีมเยือน เอเอส โรม่า มาได้ประตูหนีห่างออกไปเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย แซร์โจ้ โอลิเวียร่า บรรจวเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่เสาไกลให้ จานลูก้า มันชินี่ ได้เทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ ส่งบอลไปแฉลบบล็อกกระดอนมาเข้าทางปืนของ แทมมี่ อับราฮัม ได้ทิ้งตัวฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาจ่อ ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลไปถูก กูเญลเม่ วิคาริโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผวาเซฟออกมาโดน มันชินี่ ซ้ำอีกทีเข้าประตูไป ไม่เหลือ ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า บอลข้ามเส้นไปแล้วเต็มใบตั้งแต่ลูกยิงครั้งแรกของแทมมี่ ประตูนี้จึงให้เป็นเครดิตของหัวหอกทีมชาติอังกฤษไปโดยปริยาย
นาที 35 GOAL!!!
ทีมเยือน โรม่า มาได้ประตูเพิ่มเป็น 3-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว เฮนริค มคิทาร์ยาน ลากจี้มาแทงทะลุช่องออกมาทางริมกรอบฝั่งขวาให้ ริค คาร์สดอร์ป เปิดเลียดมาที่เสาแรกให้ แทมมี่ อับราฮัม ปล่อยหลอกมาถึง นิโกโล่ ซานิโอโล่ จับบอลลั่นเลยมาที่กลางประตูเข้าทางปืนของ แซร์โจ้ โอลิเวียร่า ได้ทิ้งตัวจิ้มด้วยขวาเน้น ๆ หนีมือของ กูเญลเม่ วิคาริโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาแรกขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 37 GOAL!!!
ทีมเยือน โรม่า มาได้ประตูเพิ่มเป็น 4-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วอีกแล้ว บอลแทงยาวจากแดนหลังมาที่ แทมมี่ อับราฮัม ทำชิ่งไขว้ส่งอย่างสวยให้กับ เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้กระชากหลุดเดี่ยวจากกลางสนาม ทะลุเข้าไปถึงในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปาดเลียดถวายพานไปที่เสาไกลขวามือให้ นิโกโล่ ซานิโอโล่ ได้สอดตามมาวางเท้าซัดด้วยซ้ายโล่ง ๆ ส่งบอลเข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างง่ายดาย
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ทัพหมาป๋า ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายพับสนาม ขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่นอยู่แทบจะฝั่งเดียว ได้ประตูตุนไปแล้วถึงสี่ลูก สกอร์ตอนนี้เป็น เอ็มโปลี 0 เอเอส โรม่า 4 !!!
นาที 49
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน เอเอส โรม่า ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ แทมมี่ อับราฮัม ตัดบอลได้บริเวณริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวลากลุยตัดเข้าในทันทีแต่โดนขวาง จังหวะสุดท้ายบอลโดนปั๊มกระฉอกมาที่หน้าเขตโทษเข้าทางของ เฮนริค มคิทาร์ยาน ได้วิ่งมาบรรจงปั่นเร็วด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยแต่ดันไปตรงตัวของ กูเญลเม่ วิคาริโอ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น รับเอาไว้ได้สบาย
นาที 55 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เอ็มโปลี มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 4-1 !!! จากจังหวะที่เหมือนจะไม่มีอะไร ฟิลิปโป้ บานดิเนลลี่ เก็บตกได้ทางริมกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวพลิกหนี ริค คาร์สดอร์ป หลุดขึ้นมาถึงสุดเส้นหลังได้สวย ก่อนจะตวัดเลียดไปที่หน้าเสาแรกให้ อันเดรีย ปินามอนติ จับหนึ่งที ก่อนจะซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ โล่ง ๆ ส่งบอลพุ่งแรงหนีมือ รุย ปาตริซิโอ้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม
นาที 56
เจ้าถิ่น เอ็มโปลี เกือบได้ประตูไล่ขึ้นมาอีก เป็นจังหวะ ริคคาร์โด้ ฟิอามอซซี่ แทงบอลยัดเข้าไปที่หน้าเสาแรกขวามือให้กับ ซีมอน ซูร์คอฟสกี้ ดีดจังหวะเดียวย้อนหลังมาที่หัวกระโหลกโล่ง ๆ ตั้งให้ เลียม เฮนเดอร์สัน ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะวางเท้ากดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับกระฉอกก่อนจะคว้าเอาไว้ได้ทันอย่างน่าเสียดายสุด ๆ
นาที 69
เข้าช่วง 20 นาทีสุดท้าย เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น เอ็มโปลี ที่กดดันทางโรม่าได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด จังหวะนี้ ทำชิ่งกันขึ้นมาได้สวยถึง เนดิม บาจ์รามี่ วิ่งสอดมารับบอลมาที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวแต่งหนึ่งที ก่อนจะขอลองซัดไกลด้วยขวาเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งเลียดน้ำหนักเบา แถมทิศทางยังไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ย่อตัวรับเอาไว้ได้สบาย
นาที 72 GOAL!!!
เจ้าถิ่น เอ็มโปลี มาได้ประตูตีตื้นไล่ขึ้นมาเป็น 4-2 !!! จากจังหวะ ทำชิ่งต่อบอลกันอยู่ที่บริเวณริมกรอบฝั่งซ้าย แล้วก็เป็น เลียม เฮนเดอร์สัน เหลือบเห็นเพื่อนเบิ้ลนิ่ม ๆ ย้อนหลังมาที่หน้าเขตโทษด้านซ้ายให้ เนดิม บาจ์รามี่ ได้ลากจี้แล้วซัดไกลด้วยขวาดื้อ ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบบล็อกของ จานลูก้า มันชินี่ เปลี่ยนทางกระดอนหนีมือ รุย ปาตริซิโอ้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน เสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย แบบงง ๆ
นาที 73
ทีมเยือน โรม่า พลาดโอกาสบวกสกอร์เพิ่ม เป็นจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา แซร์โจ้ โอลิเวียร่า บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยไปที่หน้าเสาไกล แล้วเป็น โรเจอร์ อิบาเญซ สอดมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ แบบไร้ตัวประกบ ทว่าดันกดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 80
เจ้าถิ่น เอ็มโปลี ได้ลูกฟรีคิกบริเวณริมเส้นฝั่งซ้าย จังหวะนี้ เนดิม บาจ์รามี่ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยด้วยขวา ส่งบอลลอยเลี้ยวไปที่กลางประตู แล้วเป็น ลอเรนโซ่ โตเนลลี่ โฉบมาโขกสะบัดกดลงพื้นเน้น ๆ ทว่าบอลดันพุ่งไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้ทันไม่มีปัญหา
นาที 87
เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เจ้าถิ่น เอ็มโปลี พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูตีตื้นอีกครั้ง จากจังหวะ ริคคาร์โด้ ฟิอามอซซี่ สอดขึ้นมารับบอลทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวครอสเร็วไปที่เสาไกล แล้วก็เป็น อันเดรีย ปินามอนติ โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ เต็มกบาล ส่งบอลพุ่งแรงแต่ดันไปตรงตัวของ รุย ปาตริซิโอ้ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้อย่างน่าเสียดายของสุด ๆ
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน โรม่า บุกมาไล่ทุบเอาชนะเจ้าถิ่น เอ็มโปลี ไปได้ด้วยสกอร์ 4-2 !!! รั้งอันดับที่ 6 ของตาราง โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเจนัว ในคืนวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเอ็มโปลี รั้งอันดับที่ 12 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนโบโลญญ่า ในวันเวลาเดียวกัน