ทีมวิวเวอร์ (TeamViewer) เจอผลกระทบเชิงลบทันทีหลังเซ็นสัญญาเป็นสปอนเซอร์ใหม่ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มูลค่าหุ้นลดลง 16 เปอร์เซนต์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลใจเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการตกลงเป็นผู้สนับสนุนทีมปิศาจแดง
ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาครั้งใหญ่ของบริษัทด้านเทคโนโยลีชื่อดัง หลังได้เห็นการประเมินมูลค่าของบริษัทสูงขึ้นมากในช่วงเกิดสถานการณ์โควิด-19
แต่ รายงานจากบลูมเบิร์ก เปิดเผยว่า มูลค่าหุ้นของทีมวิวเวอร์ลดลงถึง 16 เปอร์เซนต์เมื่อวันศุกร์ และพวกเขาไม่ใช่บริษัทแรกที่เจอผลกระทบเชิงลบหลังร่วมมือกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โจเอล เอวานิค หัวหน้าฝ่ายการตลาดของเจเนรัด มอเตอร์ส (จีเอ็ม) บริษัทแม่ของเชฟโรเลต ถูกไล่ออก 48 ชั่วโมงหลังตกลงทำสัญญาเป็นสปอนเซอร์หน้าอกเสื้อกับทีมปิศาจแดงเมื่อปี 2012 ภายหลังบอร์ดบริหารไม่พอใจเป็นอย่างมาก ที่รู้ว่า มีการจ่ายเงินแพงกว่า เอ-ออน สปอนเซอร์เจ้าก่อนหน้านั้นมหาศาล ถึงปีละประมาณ 52 ล้านปอนด์ (เอ-ออน จ่ายปีละประมาณ 19.6 ล้านปอนด์)
ตอนนี้ค่าใช้จ่ายทางการตลาดของทีมวิวเวอร์เพิ่มสูงมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากการเป็นสปอนเซอร์ในครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม รายงานจากฝั่งสหรัฐฯ เปิดเผยว่า จริงๆแล้ว ตัวเลขที่สโมสรจะได้รับอาจน้อยกว่า 47 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาลตามที่เป็นข่าว
ข้อตกลงที่ทำกันไว้ 5 ปี สโมสรจะได้รับเงินน้อยกว่าที่เคยได้รับจากเชฟโรเลตอยู่เล็กน้อย (เชฟโรเลต จ่าย 52 ล้านปอนด์ต่อปี)
ขณะที่ตัวเลขยังไม่แน่นอน ผู้เชี่ยวชาญทางการตลาดแนะนำว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นผลดีกับทีมปิศาจแดง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันเกิดขึ้นหลังปีที่การเงินโดนผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19
“ตอนนี้มีบริษัทในตลาดน้อยมาก เนื่องจากในมุมมองขององค์กร, บริษัท ต่างๆ เล็งเห็นความตกต่ำและไม่เหมาะสมที่จะใช้เงินจำนวนมากหมดไปกับการเป็นสปอนเซอร์ชุดแข่งขัน และจุดขายของแบรนด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนในอดีต” ด็อกเตอร์ ร็อบ วิลสัน กล่าว