The Eyes Diary คนเห็นผี (ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล / Thailand / 2014) นักแสดงหลักทั้ง 4 คน มารวมตัวกันในหนังแล้วน่าสนใจมากๆ พอหลอมรวมกับคาแร็กเตอร์ตัวละครแล้วยิ่งมีเสน่ห์ที่ช่วยหล่อเลี้ยงส่วนขาดส่วนเกินได้จริงๆ ปั้นจั่น เข้ากับตัวละครที่รักจริงโกรธจริงด้วยแววตามุ่งมั่นกล้าได้กล้าเสียและการเป็นอาสากู้ภัยก็ไม่ขัดกับบุคลิกลักษณะได้เหมาะเจาะ โฟกัส มีเสน่ห์มากๆ กับตัวละครผีในเรือนร่างคนที่ยังน่ารัก น่าทะนุถนอม น่าสงสาร น่าเอาใจช่วย ทำให้พอเปลี่ยนไปเป็นหน้าผีหน้าเละแล้วมันน่ากลัวมากๆ เพราะความน่ารักสดใสตั้งแต่ต้นมันช่วยขับความคิดถึงแทบใจจะขาดได้จนเราชะงักขนลุกขนชันไปเลย เมโกะ ที่ดูซื่อๆและบอบบางแต่ในขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะเปรี้ยวซ่ากล้าหาญได้ตลอดเวลา ทุกครั้งที่ตัวละครของเมโกะอยู่สองต่อสองกับตัวละครของปั้นจั่นเราจะรู้สึกถึงประกายออร่าความจิตและบิทช์ที่แผ่ซ่านออกมาซึ่งไม่แปลกใจเลยที่ผีโฟกัสจะดูหึง และแจ๊ค ที่ตอนแรกรู้สึกว่ายังเด็กไปกับบทที่ทั้งต้องเล่นเป็นอาสาสมัครและเพื่อนของปั้นจั่น แต่พอได้เห็นกลับอยู่กับตัวละครแล้วมีมิติดี มันเท่ทุกครั้งที่ปรากฏตัวกับทรงผมหวีเป๊ะ ในความเฉยชาทำเป็นไม่ร็ไม่เห็นมันรู้สึกได้ทั้งความแข็งแกร่งความอ่อนโยนและความกวนตีน และขณะเดียวกันลึกๆ ก็ยังมีความหวาดกลัว แต่ทั้งหมดนี้มันน่าเสียดายที่ยังรู้สึกว่าการกำกับมันไม่เนี้ยบเฉียบขาดเหมือนหนังเรื่องอื่นๆ ที่ผ่านมาของผู้กำกับ มันยังเห็นท่าทางที่ยังกั๊กๆ เก๊กๆ จังหวะรับส่งที่ยังประดักประเดิดอยู่บ้าง โดยเฉพาะในฉากอารมณ์สำคัญๆ ทั้งๆ ที่นักแสดงหลักทั้ง 4 คนมีของกันทั้งนั้น แต่ดันเขวคนละทีสองทีไป คลิปพิสูจน์ผีก็ดูคลิเช่มากๆ แล้วพอตัวละครปั้นจั่นเห็นตัวละครแจ็คในคลิปนั้นแล้วทำไมไม่ตกใจหรือสงสัยไต่ถามเพื่อนเลยวะ แต่รวมๆ แล้วก็ยังสมดุลเรื่องราวได้ดีสนุกและน่าติดตามเหมือนเดิม ถึงเรื่องราวและความเป็นเหตุเป็นผลในหนังมันจะมีช่องโหว่และไม่เคลียร์อยู่พอสมควร แต่ในความแฟนตาซีของมันมันเข้าทางกับความเชื่อและจินตนาการของเรามากๆ ชอบโลกในหนังมากๆ ความสัมพันธ์ของคู่รักคนกับผีที่อยากจะเชื่อมโยงเข้าหากัน คนที่พยายามจะมองเห็นผีเพื่อสื่อสารกับวิญญาณของคนรัก และส่วนใหญ่มักจะเห็นแต่หนังผีที่คนวิ่งหนีผีแต่ในเรื่องนี้มันมีทั้งคนกลัวผี ผีกลัวคน อีกอย่างที่ชอบมากๆ คือผีกลัวผี คือมันไม่ได้กลัวในมุมที่ว่ากลัวเพราะเป็นผีแต่ในมิติโลกของผีมันก็มีผีอาฆาตแค้น ผีเลว ผีดุร้าย ที่มันน่ากลัวได้หลากหลายเหมือนคนในโลกมนุษย์เราเนี่ยแหละ มันกลัวเพราะถูกคุกคามด้วยความรุนแรงไม่ใช่แค่ว่ากลัวผี ในฉากที่ผีโฟกัสต้องวิ่งหนีผีอีกสองตัวนั้นมันลุ้นระทึกไปพร้อมๆ กับความน่ารักของผีทั้งสามมากๆ แล้วตอนที่ตัวละครของ แจ็ค มาช่วยแสงไฟฉายของมันที่ทำให้ผีกลัวได้มันเหมือนมีพลังวิเศษซึ่งมันดูเป็นการ์ตูนมากๆ จังหวะหนึ่งความรู้สึกเหมือนกำลังดูโดราเอม่อน แล้วมันก็ดุผีให้กลัวได้นี่เท่โคตรๆ ท่าทีหงอยๆ หลังจากอาละวาดเป็นผีเฮี้ยนอยู่ดีๆ กลับกลายเป็นเหมือนเด็กเกเรที่สำนึกผิดหลังจากโดนอบรมนิสัย..มันตลกน่ารักดี ช็อตนั่งรถที่ผีไอ้น้อยนั่งตรงกลางระหว่างแจ็คกับผีโฟกัสนี่น่ารักมากๆ จากผีสยองน่าเกลียดน่ากลัวนี่กลายเป็นหมีพูห์น่าเอ็นดูไปเลย แล้วที่สำคัญมันเป็นฉากผีหลอกผีในตอนกลางวันที่น่าสนใจดี ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าผีไม่น่ากลัวเท่าไหร่นะ เพราะเมคอัพและการจัดแสงที่ให้เห็นรายละเอียดตรงๆ ไปหน่อยทำให้เราเห็นผีมันชัดมากเกินไป เป็นตัวเป็นคนจริงๆ เกินไป ทั้งที่บรรยากาศความน่ากลัวมันดีอยู่แล้วแต่พอเห็นผีแทนที่จะกลัวแต่เรากลับโล่งอกที่มันโผล่มาสักทีเพราะเรากลัวบรรยากาศมากกว่า แล้วหลังจากนั้นก็สามารถจ้องหน้าผีในหนังสำรวจเมคอัพได้สบายๆ ไม่กลัวอะไรมันอีกแล้ว มันเหมือนซอมบี้ที่จับต้องได้มากกว่าผีน่ากลัวๆ ที่แว้บหน้าแว้บหลังหลอกเราได้น่ะ แต่ส่วนของผีที่ชอบมากๆ คือความหลากหลายของผี ผีที่ชอบมากๆ คือผีไอ้น้อย ผีลุงตัวเหลืองนี่เวียร์ดมากๆ หน้าตากวนตีนอีก แล้วผีไอ้แบงค์แฟนมันนี่สวยจัง เหมือนตัวละครต้องทำภารกิจผจญภัยบุกป่าอะเมซอนน่ะ ยิ่งเวลาเห็นผีหลากหลายมันยิ่งสนุกเหมือนได้เจอมอนสเตอร์แล้วต้องต่อสู้กับมันน่ะซึ่งทำให้มันน่าติดตามและเพลิดเพลินได้มากๆ นอกจากเส้นเรื่อง ส่วนเนื้อเรื่องนี่ชอบมากๆ เป็นหนังผีภารกิจที่สนุกมากๆ แต่ส่วนตัวแล้วเสียดายช็อตสุดท้ายที่น่าจะดีกว่านี้ได้มากๆ ถ้ามันไม่ตุ้งแช่แล้วค่อยๆ ปล่อยใบหน้านั้นล่องลอยในห้วงความคิดถึงไปตามดนตรีและเสียงเพลงประกอบก่อนเชื่อมเข้าเครดิต…อาจจะรุนแรงถึงขั้นตายได้เลยครับตาย…