นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ญี่ปุ่น กับ โครเอเชีย ที่สนาม อัล ยานูบ สเตเดี้ยม ในศึก ฟุตบอลโลก2022 (ทีมชาติ) เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ญี่ปุ่น จะมาเล่นด้วยระบบ 3-4-3 นำโดยแกนหลักจากเกมนัดก่อนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ชูอิชิ กอนดะ,ทาเคฮิโระ โทมิยาสุ,วาตารุ เอ็นโดะ,ไดชิ คามาดะ และ ไดเซน มาเอดะ
ขณะที่ โครเอเชีย จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยขาประจำอย่าง โดมินิก ลิวาโควิช,ยอสโก้ กวาร์ดิโอล,มาเตโอ โควาซิช,อีวาน เปริซิช และ บรูโน่ เพ็คโควิช
นาทีที่ 8
เริ่มเกมได้ไม่ถึง10นาที โทมิยาสุ ของญี่ปุ่น ก็เกือบทำเสียเรื่อง จ่ายคืนหลังพลาด โดน เปริซิช ฉกบอลไปครองได้ ก่อนจะลากเข้าไปซัดมุมแคบทางฝั่งซ้าย ติดเซฟ กอนดะ นิดเดียว
นาทีที่ 12
ญี่ปุ่น บุกกดดันต่อเนื่อง จนเกือบได้ประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ อิโตะ กระชากบอลหนีตัวประกบทางฝั่งขวา ก่อนจะเลือกเปิดไปหน้าประตูให้ มาเอดะ สไลด์ตัวชาร์จไม่โดน บอลเลยไปถึง นากาโตโมะ ก็เข้าไม่ถึงบอลเหมือนกัน พลาดโอกาสได้ประตูไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 43 ญี่ปุ่น ขึ้นนำ 1-0
และแล้ว ญี่ปุ่น ก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 สมใจ จากจังหวะที่ โดอัน โยนบอลเข้าไปในการอบเขตโทษ บอลตกหน้าประตูแฉลบ เพ็คโควิช ไปเข้าทาง มาเอดะ วอลเลย์จ่อๆ ในกรอบ 6 หลาไม่มีเหลือ
หมดครึ่งเวลาแรก
ญี่ปุ่น – 1
โครเอเชีย – 0
นาทีที่ 55 โครเอเชีย ตีเสมอ 1-1
เริ่มครึ่งหลังได้แปปเดียว โครเอเชีย ก็ตามตีเสมอได้ไว จากจังหวะที่ ลอฟเรน พาบอลขึ้นมากลางสนาม ก่อนจะเลือกเปิดยาวไปหน้าประตูให้ เปริซิช เทคตัวโหม่งเต็มหัว ส่งบอลพุ่งเบียดเสาสอง เป็นประตู อย่างสวย
นาทีที่ 58
หลังจากโดนตีเสมอได้ 3 นาที ญี่ปุ่น ก็เกือบได้ประตูแซงนำอีกครั้งเหมือนกัน จากจังหวะที่ เอ็นโดะ เก็บบอลแถวสองได้ ก่อนจะไม่มีช่องให้เปิด เจ้าตัวเลยเลือกก้มหน้าซัดเอง บอลพุ่งเกือบเสียบใต้คาน ร้อนถึง ลิวาโควิช ต้องออกแรงเซฟ
นาทีที่ 104
ญี่ปุ่น สวนกลับน่ากลัว มีลุ้นประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ มิโตมะ โชว์โหดโลโซ่เดี่ยวจากแดนตัวเอง ไปจนถึงหน้าประตูของ โครเอเชีย ก่อนจะได้โอกาสซัดเต็มข้อ ส่งบอลพุ่งแรงตรงกรอบด้วย แต่น่าเสียดาย บอลสุดท้ายโดน ลิวาโควิช ปัดทิ้งออกหลังไปได้หวุดหวิด
หมดเวลาการแข่งขัน ในเวลาปกติคู่นี้จบด้วยผลเสมอ 1-1 แต่สุดท้ายก็เป็น โครเอเชีย ที่แม่นโทษมากกว่า เอาชนะ ญี่ปุ่น ไปด้วยสกอร์รวม 3-1 ผ่านเบ้าไปเล่นรอบ8ทีมสุดท้ายตามระบเบียบ