ลี ดิ๊กสัน ตำนานอาร์เซน่อล คิดว่าปฏิกิริยาระหว่างให้สัมภาษณ์หลังเกมเสมอ เซาแธมป์ตัน ของ เบน ไวท์ ค่อนข้างจะดูเสียใจเกินเหตุไปหน่อย จนทำให้เขานึกว่าอดีตต้นสังกัดแพ้ 8-0
คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไวท์ ได้ออกสตาร์ตให้ “ปืนใหญ่” ในตำแหน่งแบ็คขวา และทำแอสซิสต์ให้ กรานิต ชาก้า ยิงประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 11 แต่ช่วงครึ่งหลังโดน สจวร์ต อาร์มสตรอง ไล่คืนมา ทำให้บุกไปทำได้แค่แบ่งแต้ม “นักบุญ” ด้วยสกอร์ 1-1
ไวท์ ถูก มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนออกในนาทีที่ 72 และหลังจบเกม แข้งเลือดผู้ดีวัย 25 ปีให้สัมภาษณ์กับ Viaplay เปิดเผยความรู้สึกว่า
“ผมคิดว่าครึ่งแรกเราเล่นได้ดี สร้างโอกาสได้หลายครั้ง และควรจะยิงประตูได้มากกว่านี้เพื่อปิดเกม แต่เราทำไม่ได้”
“มีหลายเหตุผลที่จังหวะของเกมเปลี่ยนไปในครึ่งหลัง, มีรายละเอียดหลายอย่างที่เราพลาดไป, เราเล่นด้วยฟอร์มที่ตรงข้ามกับครึ่งแรก และเรื่องนี้ก็ถูกแสดงให้เห็น”
“มันไม่เกี่ยวกับสภาพร่างกายหรือแผนการเล่น, เราแค่เหยาะแหยะกันเอง”
“เราอยู่แล้วว่าเราจะต้องรับมือกับอะไรในแต่ละเกม และหากเราโชว์ฟอร์มที่ดีที่สุดเอามาเราจะชนะได้ แต่วันนี้เราไม่ได้ทำแบบนั้น”
นักข่าวถาม ไวท์ เพิ่มเติมว่า เป็นเรื่องสำคัญหรือไม่ที่เขาจะต้องหลีกเลี่ยงการถูกคู่แข่งรังแกในเกมลักษณะนี้
“ฟุตบอลก็เป็นแบบนี้ ผมไม่แน่ใจว่าเกมนี้เราถูกรังแกหรือไม่ แต่เราไม่สมควรได้รับชัยชนะ”
ดิ๊กสัน เจ้าของสถิติลงเล่น 458 นัดกับ อาร์เซน่อล ได้ดูบทสัมภาษณ์ดังกล่าวเกิดความไม่ประทับใจอารมณ์ที่ ไวท์ แสดงออก
“ว้าว เกมนี้ อาร์เซน่อล แพ้ 8-0 เหรอ?, ปฏิกิริยาของ ไวท์ ดูค่อนข้างเกินเหตุไปหน่อย, เขาคงรู้สึกในสิ่งที่เขารู้สึก”
“แต่ผมคิดว่า สำหรับฤดูกาลนี้, เมื่อคุณเล่นด้วยฟอร์มแบบช่วงครึ่งหลังกับ เซาแธมป์ตัน, คุณต้องยื่นหน้ายอมรับอย่างกล้าหาญ แล้วบอกแค่ว่า ‘ใช่เราเล่นไม่ดี, มูฟออนไปเกมหน้า’,”
“แต่ในการสัมภาษณ์นี้ ไวท์ ดูเสียใจมากเลยใช่มั้ยล่ะ?”