นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง โรม่า กับ เอซี มิลาน ที่สนาม สตาดิโอ โอลิมปิโก ในศึก กัลโช่ เซเรียอา (อิตาลี) เมื่อวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา
เกมนี้ โรม่า จะมาเล่นด้วยระบบ 3-4-1-2 นำโดยเสาหลักของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น รุย ปาทริซิโอ,เลโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า,ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่,แทมมี่ อับราฮัม และ อันเดรีย เบลอตติ
ขณะที่ เอซี มิลาน จะมาสู้ด้วยระบบ 4-2-3-1 ที่คุ้นเคย นำโดยแกนของทีมหลักอย่าง ไมค์ เมญอง,เตโอ เอร์นานเดซ,อิสมาเอล เบนนาเซอร์,ราฟาเอล เลเอา และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นต้น
นาทีที่ 20
โอกาสแรกในเกมตกเป็นของ มิลาน จากจังหวะที่ ดิอาซ เปิดบอลยาวเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ ครูนิช ชิงโหม่งได้ แต่เจ้าตัวดันสบัดไม่ตรงกรอบ บอลเหินข้ามคานออกหลังไป
นาทีที่ 30
มิลาน ทำเกมขึ้นมาได้ลุ้นประตูอีกแล้ว จากจังหวะที่ เลเอา เลี้ยงบอลหลุดไปทางซ้าย ก่อนจะกระชากตัดเข้าใน แล้วจบด้วยการปั่นโค้งนอกกรอบตามสูตร แต่น่าเสียดายบอลสุดท้ายยังพุ่งไม่เข้าเป้า
นาทีที่ 33
ช่วงท้ายครึ่งแรก โรม่า มีจังหวะได้ตอบโต้บ้าง จากจังหวะที่ สปินนาซโซล่า กระชากบอลหลุดไปถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะเลือกปาดเรียดเข้ากลางให้ เปลลิกรินี่ วางเท้าแปเน้นๆ แต่โชคไม่ดีบอลสุดท้ายพุ่งไปติดบล็อคพวกเดียวกันเอง โรม่า จึงไม่ได้อะไรเลยในจังหวะนี้
หมดครึ่งเวลาแรก (HT)
โรม่า – 0
เอซี มิลาน – 0
นาทีที่ 81
รูปเกมในครึ่งหลังค่อนข้างอึดอัด ทั้งสองทีมไม่ค่อยมีโอกาสได้ลุ้นประตูกันมากนัก อย่างลูกนี้ มิลาน ก็มีลุ้นแต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังไม่ได้จบอยู่ดี เป็นจังหวะที่ ชิรูด์ เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษ แล้วมี มันชินี่ คอยมาพัวพัน เขาจึงวัดใจกรรมการทิ้งตัวเพื่อเอาจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินยังใจแข็ง ทำสัญญาณให้ ชิรูด์ ลุกขึ้นมาเล่นต่อ
นาทีที่ 90+4 โรม่า ขึ้นนำ 1-0
ช่วงทดเจ็บ มิลาน เล่นพลาดนิดเดียวเสียหายถึงประตูทันที จากจังหวะที่ เดอ เคตลาร์ เสียบอลตรงกลางสนาม แล้วโดนฝั่ง โรม่า สวนกลับเร็ว เซลิค ลากตะลุยขึ้นมา จนเข้าระยะทำการเปิดเรียดให้ แทมมี่ จับบอลแรกดี ก่อนจะโชว์ความนิ่งเเตะหลบ คาลูลู ยิงจ่อๆ ใส่สกอร์ให้ทีมขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 90+6 เอซี มิลาน ตีเสมอ 1-1
แต่นาทีสุดท้ายของการทดเจ็บ เอซี มิลาน โกงตาย บุกขึ้นมายิงตีเสมอได้เฉยเลย จากจังหวะที่ เมญอง วางบอลยาวให้ เลเอา หลุดไปทางซ้าย ก่อนเจ้าตัวจะเลือกบรรจงครอสไปเสาสองให้ ซาเลอมาเคอร์ส เติมขึ้นมาชาร์จจ่อๆ ตีเสมอสุดดราม่า
หมดเวลาการแข่งขัน (FT)
โรม่า เสมอ เอซี มิลาน 1 – 1