เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นายใหญ่ เลสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่าตอนนี้ทีมของเขาเปลี่ยนแปลงเป้าหมาย เป็นการเก็บให้ได้ 40 คะแนนใน พรีเมียร์ ลีก
“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ออกสตาร์ทพรีเมียร์ ลีก อย่างย่ำแย่ แพ้ 4 เสมอ 1 มีแค่แต้มเดียว แถมยังจมอยู่อันดับสุดท้ายของตาราง
ซัมเมอร์นี้ เลสเตอร์ ซิตี้ ปล่อยแข้งคนสำคัญอย่าง แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล และ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า ออกจากทีม แล้วนำเข้า อเล็กซ์ สมิธีส์ กับ วูต เฟสส์ มาเป็นตัวแทน
ขณะที่ อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา เจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ออกแถลงหนังสือโปรแกรมนัดเจอกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้แจงถึงแฟนบอลว่า กฏการเงิน และสภาวะโควิด เป็น 2 ปัจจัยหลักที่ทำให้ทีมอยู่ในสถานการณ์ปัจจุบัน
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เข้ารับงานที่ เลสเตอร์ ซิตี้ ตั้งแต่ฤดูกาล 2018-19 และเคยเกือบได้ไป แชมป์เปี้ยนส์ ลีก ด้วยการจบอันดับ 5 สองซีซั่นติดต่อกัน ก่อนที่ซีซั่นล่าสุดจะจบที่อันดับ 8 ด้วยคะแนน 52 แต้ม
อย่างไรก็ตามสำหรับฤดูกาลนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือชาวไอร์แลนด์เหนือ ยอมรับว่าเป้าหมายของทีมมีการเปลี่ยนแปลง โดยกล่าวก่อนเกมออกไปเยือน ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ว่า
“เป้าหมายของเราคือการเก็บให้ได้ 40 แต้ม, ซึ่งแตกต่างโดยสิ้นเชิงจากในอดีต”
“ผมวางแผนเพื่อทำให้ทุกคนไปในทิศทางเดียวกัน, เราจะไม่ยอมแพ้แล้วก้มหน้ารับชะตากรรม, ตอนนี้เราจำเป็นต้องหาวิธีทำตามเป้าหมายให้ได้”
“เมื่อ 6 เดือนที่แล้วผมรู้สึกว่าเราต้องพัฒนาขึ้นในช่วงซัมเมอร์, ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนคุณต้องพัฒนาอยู่ตลอด”
“ผู้เล่นบางคนอยู่ที่นี่มา 3 ปีครึ่งแล้ว, บางรายเข้ามาตอนอายุ 32 หรือ 33 ปี และผู้คนมองข้ามตั้งแต่ตอนนั้น”
“ผมรับงานที่นี่มา 3 ปีครึ่ง และ 11 ผู้เล่นตัวจริงของเราก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก, ผมรู้ว่าเรื่องนี้จะสร้างปัญหาให้เรา และเราก็ไม่สามารถแก้ไขได้”