นี่ก็คือโปรแกรมหนังฟอร์มดีประจำซัมเมอร์ปีนี้จากทางฝั่งไพร์ม วิดีโอ ที่หยิบเอานิยายโรแมนซ์ LGBTQ+ เล่มดังก้องโลกมาขึ้นจอเป็นครั้งแรก และนี่คือ “Red, White & Royal Blue รักของผมกับเจ้าชาย” จากนิยายรักมาสู่รักรอมคอมที่สร้างชีวิตชีวาให้กับตัวละครจากแผ่นกระดาษ ให้เป็นคาแรกเตอร์ที่เต็มไปด้วยอารมณ์กับความรู้สึก ท่ามกลางโลกที่เต็มไปด้วยความหลากหลายในความรักแบบยุคนี้
Red, White & Royal Blue รักของผมกับเจ้าชาย บอกเล่าเรื่องราวของอเล็กซ์ บุตรชายของประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา และเจ้าชายเฮนรีแห่งราชวงศ์อังกฤษ พวกเขาล้วนเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์แห่งยุค กลับมีปากเสียงกันจนกลายเป็นเรื่องบาดหมางกันกลางงานวิวาห์ ทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติ
และนั่นคือเหตุผลที่พวกเขาต้องจับคู่เพื่อผสานรอยร้าวระหว่างพวกเขา โดยการเดินเป็นคู่หูต่อหน้ากล้อง แต่ระหว่างพักรบครั้งนี้ อเล็กซ์และเฮนรี่เริ่มปรับตัวและเปิดใจต่อกัน มันกลายเป็นมิตรภาพชั่วคราวโดยไม่คาดคิด ก่อนที่มันจะจมดิ่งลงสู่ห้วงลึกมากกว่าที่คิด
เนื่องจากมีผู้สร้างภาพยนตร์ที่ถูกต้องรับผิดชอบในการสร้างองค์ประกอบที่พอดีกับมือของพวกเขา มันจึงเหมาะสมกับพลังนี้ นี่คือผลงานการกำกับเรื่องแรกของ Matthew Lopez นักเขียนบทละครเจ้าของรางวัล Tony Award เขายังมีส่วนร่วมในการดัดแปลงบทภาพยนตร์เรื่องนี้ที่นำมาจากนวนิยายต้นฉบับของ Casey McCoaston
Matthew Lopez รู้ดีว่าเขาจะจัดการและวาดเรื่องราวนี้อย่างไร มันเลี่ยนและซ้ำซากมาก แต่มันก็แค่ทำลายความสัมพันธ์รักร่วมเพศที่แสดงออกถึงเรื่องเพศของเขา ซึ่งเป็นหัวข้อที่น่าสนใจที่สุดในยุคนี้
อาจเต็มไปด้วยเนื้อหาและข้อความที่ล้าสมัย ทั้งบรรยากาศและจังหวะต่างๆก็ไม่ต่างอะไรกับการผลิตละครน้ำเน่าทางทีวีทางช่อง Hallmark หรืออะไรทำนองนั้น ทั้งฉากและภาพ แต่รายละเอียดที่ใส่ลงไปในหนังเรื่องนี้ มีรายละเอียดมากกว่าหนังรักทั่วไปเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายความสัมพันธ์เชิงพัฒนาการที่น่าสนใจระหว่างตัวละครทั้งสอง
ต้นฉบับมันเน่าแต่บทดัดแปลงนี่ออกมาฉลาดทีเดียว ช่วยยกระดับหนังด้วยการสัมผัสประเด็นสังคมและความเข้าใจสังคมได้ค่อนข้างสมเหตุสมผลและเปี่ยมไปด้วยความหมายมากกว่าหนังแนวรอมคอมเรื่องอื่นๆ เนื่องจากนี่อาจเป็นภาพยนตร์โรแมนติกเรต R จึงเป็นช่องว่างที่ใหญ่พอที่จะเติมเต็มส่วนต่างๆ ให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
เสน่ห์ของนักแสดงเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ Red, White & Royal Blue ยกระดับเรื่องราวนี้ไปอีกขั้น เรียกได้ว่าเป็นการคัดเลือกนักแสดงที่เข้ากับตัวละครได้เป็นอย่างดี เลยกลายเป็นการสร้างภาพช่วยโปรโมทหนังได้เป็นอย่างดี โดยสวมวิญญาณเป็นบทของตน
แม้ว่าการแสดงของพวกเขาอาจจะไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากมาย แต่ก็ดีตามมาตรฐานของพวกเขา อยู่ในระดับที่เราดูแลได้ดีมาก แถมหนังยังมีนักแสดงสมทบตัวฉกาจ ไม่ว่าจะเป็น "อูมา เธอร์แมน", "คลิฟตัน คอลลินส์ จูเนียร์" หรือ "ซาราห์ ชาฮี" ที่เข้ามาช่วย การเพิ่มความสมดุลให้กับหนังเรื่องนี้คือลงตัวกลมกล่อมดี
สิ่งหนึ่งที่รู้สึกว่า Red, White & Royal Blue ทำได้ดีและค่อนข้างชัดเจน คือการถ่ายทอดบทความรักๆ ใคร่ๆ ในแบบธรรมชาติ ถึงจะเพ้อฝันไปหน่อย แต่ก็เป็นมุมมองความรักที่อาจจะนิยายเกินไปหน่อย แต่พวกเขาพยายามนำมันกลับสู่โลกแห่งความเป็นจริงอยู่ตลอดเวลา ยิ่งส่งเสริมให้หนังดูมีมิติจัดจ้านมากขึ้น
Red, White & Royal Blue มันอาจจะไม่ใช่หนังโรแมนติกที่สมบูรณ์แบบ แต่อย่างใด แต่ก็ยังเป็นละคร แต่ดูเหมือนว่าองค์ประกอบต่าง ๆ จะเข้ามาอยู่ในทีมผู้สร้างและรู้จังหวะว่าจะทำอย่างไรกับมัน ทำให้งานออกมาดีล็อคช่องว่างแทบทุกจุดของหนังเรื่องนี้ แม้พล็อตจะซ้ำซากจำเจแต่ก็ยังตอบโจทย์คนดูต้องการได้เป็นอย่างดี และสูตรสำเร็จแบบนี้ก็ยังใช้ได้กับหนังเรื่องนี้เช่นเดิม
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Red, White & Royal Blue รักของผมกับเจ้าชาย
- ประเภท: โรแมนติก / ตลก
- ผู้กำกับ: แมทธิว โลเปซ
- นำแสดงโดย: เทย์เลอร์ ซาคาร์ เปเรซ, นิโคลัส กาลิตซีน, อูมา เธอร์แมน
- ความยาว: 112 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 11 สิงหาคม 2023 (ที่ Prime Video)