รีวิวหนัง “Blue Beetle บลู บีเทิล” ฮีโร่ดีซีคนใหม่

ซูเปอร์ฮีโร่ผู้เพิ่มพลังของตนเองผ่านความรักความห่วงใยที่มีให้ครับครัว เผยตัวตนและคาแรคเตอร์ของ ไฮเม่ เรเยส ออกมาตั้งแต่เริ่มต้น เมื่อเขานั้นรัก และอยากแบ่งเบาภาระของครอบครัวที่กำลังตกอยู่ในที่นั่งลำบาก ซึ่งครอบครัวเขามีคติว่าต้องสู้ปัญหาที่อยู่ตรงหน้าเพราะเราคือนักสู้ เขาบังเอิญมาทำงานให้กับ Victoria Chord ก่อนที่จะได้รู้จักกับ Jenny Chord ละครของครอบครัว Reyes ดำเนินไปได้ด้วยดี โดยมี Milagro น้องสาวของเขาเป็นตัวละครที่มักจะต่อยตีเสมอ

แต่โชคชะตากลับพาให้เขาได้ก้าวเข้ามาในจุดที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยการช่วยเหลือ เจนนี่ คอร์ด เธอมีเจตนารมณ์เดียวกับพ่อของเธอ ทำให้มีมุมมองในการดูแลบริษัทต่างกับ วิคตอเรีย และเป็นชนวนต้นเหตุของการเผชิญหน้ากันในครั้งนี้ ซึ่ง ไฮเม่ ได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกและรับพลัง พร้อมชุดเกราะจาก สคารับ เศษซากโบราณของเทคโนโลยีชีวภาพจากต่างดาว ทำให้เขาถูกไล่ล่าจากฝั่งวายร้ายในทันทีทันใด

Blue Beetle
สำหรับเนื้อหา บท มีความรู้สึกว่าเดาทางค่อนข้างยาก ด้วยชั้นเชิงการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างจับต้องได้ในภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่ที่ผ่านมาพอสมควร เช่น การได้รับพลังโดยบังเอิญ การถูกเลือก การไม่เข้าใจพลังของตัวเองตั้งแต่แรก การไม่ยอมแพ้ การฆ่าคนเลว การปรับตัวให้เข้ากับพลัง เป็นเนื้อหาที่มองเห็นได้และพบได้บ่อย
นอกจากนี้การเล่าเรื่องยังเพิ่มแต่ละจุดเป็นส่วนขยายของฉากซึ่งเพิ่มขึ้นพอสมควร จึงทำให้รู้สึกขาดความกระชับในการดำเนินเรื่องแต่สิ่งหนึ่งที่ขอชื่นชมคือการนำแกนของครอบครัวมาเป็นระยะทำให้เห็นพัฒนาการทางความคิด ใช้ชีวิตให้ดีและเพิ่มข้อคิดเพื่อต่อสู้กับปัญหาที่เข้ามาไม่ว่าจะผ่านไปแค่ไหนเพราะเราคือนักสู้

แต่ไม่ใช่เพียงว่าจะเน้นไปที่การชูเรื่องครอบครัวไปเสียทีเดียว หนังยังมีการสลับไปกับความเข้มข้น ที่มาที่ไปในพลังของ สคารับ และการรับมือกับตัวร้ายอย่าง วิคตอเรีย ร่วมกับ ราคาแพ็กซ์ ซึ่งมีฉากการต่อสู้ออกมาให้เราได้สัมผัสความดุเดือดในพลังอยู่เป็นช่วง ๆ ช่วงแรกอาจจะไม่มากนัก แต่ช่วงท้ายมีให้เราสัมผัสความแอ็คชัน ไซไฟที่ชูได้โดดเด่นไม่แพ้กัน ซึ่งการเล่าเนื้อหาสลับไประหว่างครอบครัว และบีเทิล นั้นทำได้ค่อนข้างดี อาจจะไม่ได้กระชับมากนัก แต่ก็เรียงร้อยอารมณ์ให้เราได้มีความรู้สึกตามไปได้ดี

Blue Beetle

ด้วยการเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนแรกที่มีเชื้อสายลาติน ทำให้มูดแอนด์โทนของทั้งเรื่องมันมีความสอดคล้องกันทั้งหมด ทั้งที่อยู่อาศัย การคัดเลือกนักแสดง ดนตรีประกอบ ครบเครื่องมาเลยทีเดียว ฝั่งของการแสดงต้องขอชื่นชมครอบครัวเรเยส ด้วยการกลับมาของไฮเม่ ทำให้ครอบครัวมีสีสัน และคาแรคเตอร์ของแต่ละคนในครอบครัวเรียกได้ว่าต้องมีฮากันรัว ๆ อาทิ ไฮเม่ หนุ่มคมเข้มผู้รักครอบครัวยิ่งกว่าชีวิต และพร้อมปกป้องเสมอ มิลาโกร น้องสาวแสนซน เธอเป็นผู้ตบมุก และยังเป็นคนขี้สงสัยจนทำให้พี่ชายเป็นเช่นนี้

ซึ่งคาแร็กเตอร์ของแต่ละตัวละครเป็นจุดที่ชูให้เรื่องมีความเบา เศร้า รัก อย่างมีรสชาติ หากไม่มีครอบครัวเรเยส เธอคงไม่สามารถเป็นซูเปอร์ฮีโร่ได้ Jenny Cord เองก็มีพื้นฐานครอบครัวเช่นกัน แต่ปฏิกิริยาของ Scarab คือให้ Haime ตอบสนองทันที ฉากต่อสู้จึงถูกเปิดเผย ซึ่งตอนแรกสู้ไม่ได้มาก ทำให้เราแอบขัดใจนิดหน่อยแต่ก็ต้องเรียนรู้กันไปและพัฒนาตัวละครควบคู่กับสไตล์การแสดงของฮิเมะ
BlueBeetle
เรื่องงานสร้างเรายกนิ้วให้ทีมงานเรื่องการถ่ายทำ การตัดต่อ เอฟเฟกต์ ซึ่งได้คะแนนเกือบเต็ม เพราะช่วยให้อารมณ์เข้าฉากได้ดีมาก มีการสร้างสถานที่ การสร้าง CG ที่ค่อนข้างดี
แม้จะเป็นฮีโร่คนใหม่ แต่ชุดของ The Beatles กลับไม่ซ้ำใคร หรือสร้างภาพจำขนาดไหนเพราะเอาผิวหนังไปเปรียบกับแมลงปีกแข็งกับสัตว์ปีกในบ้านเรา จึงทำให้เสื้อผ้าเวลาแปลงร่างอาจไม่สร้างความสง่างามให้กับตัวละครมากนัก แต่เอฟเฟ็กต์ในการปะทะกันของพระเอกและตัวร้ายยังทำได้ดีไม่มีสะดุด
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การถ่ายทำทำได้ค่อนข้างดี ทั้งสถานที่ทั่วไปและการใช้ CG ของหนังทำออกมาได้ดีจริงๆ รวมถึงมุมกล้อง และทรานสิชั่นซูมเข้า-ออก ภาพรวมของงาน Production นั้นมาเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากเพลงประกอบและเสียงประกอบแล้ว และเอฟเฟกต์ให้อารมณ์ร่วมอีกด้วย
Blue Beetle
โดยรวมแล้วมันเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่รูปแบบใหม่สำหรับจักรวาลดีซี ที่ไม่ได้หลุดจากกรอบเดิมๆ มากนัก มีไม่น้อยที่ทำให้เรารู้สึกเหมือนฮีโร่คนอื่นๆ
แต่สอดแทรกเรื่องราวครอบครัวเข้าไปเป็นแกนกลางที่ดี คือการใส่ข้อคิดเป็นมุมมองในการใช้ชีวิต จัดการกับปัญหาข้างหน้า ฟันฝ่าอุปสรรคอย่างกลมกล่อม พร้อมฉากแอ็คชั่นบ้าระห่ำ พร้อมกับการแสดงที่เรียกได้ว่าครบรส ทั้งตลก ดราม่า ซึ้ง ตราตรึง รับไปเต็มๆ นอกจากนี้โปรดักชั่น การงานยังไม่มาแบบเล่น ๆ ลงตัวในทุก ๆ เรื่องของการสื่อสาร บางฉากอาจไม่หวือหวาและแหวกแนว แต่ไม่ต้องสนใจ มันดูสนุกสุด ๆ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: Blue Beetle บลู บีเทิล

  • ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย / ไซไฟ
  • ผู้กำกับ: อังเคล มานูแอล โซโต
  • นำแสดงโดย: โซโล มารีฮวนนา, ซูซาน ซาแรนดอน, เบ็กกี้ จี
  • ความยาว: 127 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 17 สิงหาคม 2023