นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ เรอัล มาดริด ที่สนาม แอนฟิลด์ ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก *รอบ 16 ทีม นัดแรก (ยุโรป) เมื่อวันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ลิเวอร์พูล จะมาเล่นด้วยระบบ 4-3-3 นำโดย กำลังหลักจากแมตช์ล่าสุดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อลิสซอน เบ็คเกอร์,เวอร์กิล ฟาน ไดจ์,สเตฟาน บายเซติช,โคดี้ กัคโป และ ดาร์วิน นูนเญซ
ขณะที่ เรอัล มาดริด จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง ติโบต์ คูร์กตัวส์,เอแดร์ มิลิเตา,เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า,ลูก้า โมดริช และ วินิซิอุส จูเนียร์ เป็นต้น
นาทีที่ 4 ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 1-0
ลิเวอร์พูล เปิดฉากด้วยการทำประตูออกนำเร็ว 1-0 จากจังหวะที่ ซาลาห์ เลี้ยงบอลหลุดไปทางกราบขวา ก่อนจะเลือกแทงเรียดเข้ากลางให้ นูนเญซ โฉบมาไขว้ยิง ส่งบอลผ่านมือ ติโบต์ คูร์กตัวส์ ตุงตาข่ายอย่างสวย
นาทีที่ 14 ลิเวอร์พูล นำห่าง 2-0
จากนั้นอีก 10 นาที ลิเวอร์พูล ก็มาได้ประตูที่ 2 ต่อเนื่องเลย จากจังหวะที่ คูร์กตัวส์ รับลูกคืนหลังของ คาร์บาฆาล ไม่ดีบอลโดนหน้าแข้ง ทำให้กระดอน ไปเข้าทาง โม ซาลาห์ จิ้มง่ายๆ ส่งบอลข้ามเส้นประตูไม่มีเหลือ
นาทีที่ 21 เรอัล มาดริด ตีไข่แตก 2-1
แต่แล้วทีมเยือน ก็มาได้ประตูกลับสู่เกมคืนมาอย่างไว หลังจากเสียลูก2ไม่ถึง 10 นาที จากจังหวะที่ วินิซิอุส เก็บบอลได้ในกรอบเขตโทษ ก่อนจะแต่งบอลเข้าขวาแล้วเลือกปั่นโค้งๆ ส่งบอลพุ่งหนีมือ อลิสซอน เข้าประตู
นาทีที่ 36 เรอัล มาดริด ตีเสมอ 2-2
ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูล เล่นรวนจนพลาดเสียประตูที่ 2 ให้ เรอัล มาดริด จนได้ จากจังหวะที่ โกเมซ จ่ายคืนหลัง แต่ อลิซซอน ไม่ยอมเตะเคลียร์ทิ้ง เจ้าตัวพยายามจะแปะคืนออกขวา แต่ดันพลาดไปติดขา วินิซิอุส กระเด้งเข้าประตูไปแบบงงๆ
หมดครึ่งเวลาแรก
ลิเวอร์พูล – 2
เรอัล มาดริด – 2
นาทีที่ 47 เรอัล มาดริด แซงนำ 3-2
กลับมาต่อครึ่งหลัง กลายเป็นว่า ทีมเยือนเป็นฝ่ายทำประตูแซงนำ 3-2 จนได้ จากจังหวะที่ โมดริช เปิดลูกฟรีคิกเข้ากลางประตูให้ มิลิเตา วิ่งสอดมาโหม่งในกรอบ6หลา ตุงตาข่ายไม่มีเหลือ
นาทีที่ 55 เรอัล มาดริด ขึ้นนำ 4-2
ไปกันใหญ่ ลิเวอร์พูล เสียท่าโดน มาดริด ยิงเพิ่มได้อีกแล้ว เป็นจังหวะที่ โรดรีโก้ เล่นชิ่ง 1-2 กับ เบนเซม่า หน้าประตูจนศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสได้ง้างเท้ายิง ส่งบอลไปแฉลบ โกเมซ เปลี่ยนทางพุ่งหนีมือ อลิสซอน ตุงตาข่าย 4-2
นาทีที่ 67 เรอัล มาดริด ยิงปิดกล่อง 5-2
เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้าย เรอัล มาดริด ก็ยังไม่หยุดทำประตูบุกขึ้นมาบวกสกอร์เพิ่มได้อีกลูก จากจังหวะที่ โมดริช ขึ้นเกมจากกลางสนาม เลี้ยงบอลหลบ บายเซติช ก่อนจะไหลให้ วินิซิอุส เบิ้ลต่อให้ เบนเซม่า หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้า อลิสซอน ไม่มีพลาด มาดริด ขึ้นนำ 5-2
หมดเวลาการแข่งขัน เป็น เรอัล มาดริด ที่ใช้โอกาสได้ไม่เปลือง ส่งผลให้พวกเขาบุกมาชนะ ลิเวอร์พูล ในบ้าน ด้วยผลสกอร์รวม 5-2