เกมการแข่งขันระหว่างเจ้าถิ่นทีมเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) เปิดสนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมเสือเหลือง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (เยอรมัน) ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก
เกมนี้ เป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ออกนำไปก่อน และครองเกมเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ยิงเพิ่มให้ตัวเองไม่ได้ กลายเป็นมาโดนทีมเยือน ดอร์ทมุนด์ มาตามตีเสมอได้ในช่วงท้ายเกม นึกว่าจะเสมอกันอยู่แล้วแต่ ฟิล โฟเด้น รับบทฮีโร่ ยิงขึ้นมานำในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย ก่อนเจ้าถิ่นจะชนะไปได้ 2-1 !!!
เกมนี้ เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ มาเล่นในระบบ 4-2-3-1 นำทีมโดย เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ตัวเทพทีมชาติเบลเยี่ยม และ ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวจี๊ดของทีม ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย มาร์โค รอยส์ กองหน้าตัวทำเกม และ เออร์ลิง เบราส์ ฮาแลนด ดาวซัลโวคนเก่งของทีม
นาที 7
ทีมเยือน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้มีโอกาสทักทายก่อน เป็นจังหวะ ทำชิ่งประสานงานกันสวย มาร์โค รอยส์ พาบอลมาถึงหน้าเขตโทษ จ่ายต่อให้ เออร์ลิง เบราส์ ฮาแลนด์ ดีดต่อสั้นๆให้ จู๊ด เบลลิงแฮม สอดมารับบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย เลี้ยงหนี ไคล์ วอล์คเกอร์ แล้วยิงยัดมุมแคบที่เสาแรกทันที แต่โดน เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ยืนปิดมุมปัดออกมาได้ทัน
นาที 19 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 !!! เป็นจังหวะเริ่มจากความผิดพลาดของทีมเยือน เอ็มเร่ ชาน จ่ายบอลพลาดโดนดักได้ เควิน เดอ บรอยน์ พาบอลขึ้นมา ก่อนจะแทงให้ ฟิล โฟเด้น ทะลุเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย แล้วปาดไปที่เสาไกลให้ ริยาด มาห์เรซ ตบย้อนกลับมาตรงกลางเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งมายิงเน้นๆหน้าประตู เข้าไปตุงตาข่ายอย่างง่ายดาย
นาที 24
ทีมเยือน ได้ลุ้นบ้าง เป็นจังหวะ โรดรี้ เสียบอลหน้ากรอบเขตโทษของตัวเอง โดน เออร์ลิง เบราส์ ฮาแลนด์ ดักได้ บอลไหลมาเข้าทาง ราฟาแอล เกร์เรยโร่ งัดบอลข้ามแนวรับให้ มาร์โก รอยส์ ได้ตั้งป้อมรอเกือบจะได้ยิงอยู่แล้ว แต่โดน เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ตัดบอลได้ซะก่อน
นาที 32
เจ้าถิ่น เกือบได้จุดโทษ เป็นจังหวะ ได้ฟรีคิกทางขวา เควิน เดอ บรอยน์ ปั่นโค้งเข้าเขตโทษ บอลพุ่งกระดอนพื้นไปที่เสาไกลซ้ายมือ เอ็มเร่ ชาน ยกเท้าสูงไปสกัดโดนตัวของ โรดรี้ ล้มลงไปนอนโอดโอย ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะขอตัวไปเช็ค VAR แล้วกลับคำตัดสิน เป็นไม่ให้จุดโทษ และให้เล่นต่อไป
นาที 36
เจ้าถิ่น ได้ฟรีคิกทางฝั่งซ้าย เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเข้าไปในเขตโทษ บอลแฉลบโดน จู๊ด เบลลิงแฮม เปลี่ยนทางเข้าหากรอบประตู แต่ยังดีที่ไปตรงตัวของ มาร์วิน ฮิตซ์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้ทัน
นาที 37
ทีมเยือน น่าจะได้ประตูตีเสมอสุดๆ เป็นจังหวะ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ สาดบอลยาวขึ้นหน้าไปที่ประตูของเจ้าถิ่น เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น วิ่งออกมาหวดเคลียร์บอล แต่ จู๊ด เบลลิงแฮม วิ่งเข้ามาแหย่ได้ก่อน แล้วจบด้วยการยิงโล่งๆ เข้าประตูไป แต่ผู้ตัดสินดันเป่าว่า จู๊ด เบลลิงแฮม ปั๊มบอลช้าทำฟาล์วผู้รักษาประตูก่อน ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า ไม่ได้มีการฟาล์วอย่างที่เห็น อดได้ประตูไปสำหรับทีมเยือน
นาที 43
เจ้าถิ่น โหมบุกหนัก รูเบน ดิอาส วางบอลยาวข้ามแนวรับให้ ฟิล โฟเด้น ได้หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะซัดเร็วด้วยซ้าย ยัดไปที่มุมแคบเสาแรก แต่ถูก มาร์วิน ฮิตซ์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ยืนปิดมุม ตบทิ้งไปได้ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะเป่าย้อนมาให้เป็นลูกล้ำหน้าเสียก่อน
นาที 45+1
เจ้าถิ่น บุกขึ้นมาตรงกลาง เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายยัดเข้าไปในเขตโทษให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ครองบอลหาช่อง แล้วไหลย้อนไปหน้าเขตโทษด้านขวาให้ ริยาด มาห์เรซ ได้วิ่งมายิงด้วยซ้ายเน้นๆ แต่บอลแฉลบแนวรับทีมเยือน ก่อนจะไหลเข้ามือ มาร์วิน ฮิตซ์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับไว้ได้
หมดเวลาครึ่งแรก เกมยังคงสูสี สู้กันตรงที่แดนกลาง เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูเหนือกว่านิดๆ แต่จังหวะพื้นที่สุดท้าย ยังเจาะทีมเยือน ดอร์ทมุนด์ ไม่เข้าเป้าเท่าไหร่ แต่ยังดีที่สกอร์นำอยู่ที่ 1-0 !!!
นาที 48
ทีมเยือน ดอร์ทมุน เกือบได้ประตูตีเสมอ เป็นจังหวะ มาห์มูด ดาอูด แทงบอลจากกลางสนามขึ้นหน้าให้ เออร์ลิง เบราส์ ฮาแลนด์ ได้สปีดเบียดวิ่งแซง รูเบน ดิอาส หลุดเข้าไปได้ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษ แต่ติด เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ใช้ขาเซฟไว้ได้ทัน
นาที 52
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้บอลสวนกลับขึ้นมาทางขวา ฟิล โฟเด้น ไปเองไม่ได้โดนขวาง ก่อนจะทำชิ่ง 1-2 กับ ริยาด มาห์เรซ แล้วเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะทะลุไปได้ซัดมุมแคบที่เสาแรกทันที แต่ก็ยังติดเซฟของ มาร์วิน ฮิตซ์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน
นาที 62
ทีมเยือน ได้ฟรีคิกระยะอันตราย หน้ากรอบเขตโทษ มาร์โก รอยส์ วิ่งมาปั่นติดกำแพง บอลกระดอนออกมาแถวสอง จ่ายกลับมาที่ รอยส์ อีกที แต่คราวนี้ได้ใส่นอกกรอบ หลุดออกไปไกล
นาที 65
เจ้าถิ่น น่าจะได้ประตูขึ้นนำแบบสุดๆ เป็นจังหวะ การขึ้นบอลทางฝั่งขวาของ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดขึ้นมาได้ปาดไปที่กลางประตูให้ ฟิล โฟเด้น ได้ยิงเน้นๆ หน้ากรอบ 6 หลา แต่บอลไปตรงตัวของ มาร์วิน ฮิตซ์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน พลาดโอกาสทองไปแบบน่าเสียดายสุดๆ
นาที 76
เจ้าถิ่น ค่อยๆเคาะต่อบอลกันขึ้นมาตรงกลาง บอลมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ หน้ากรอบเขตโทษ แตะบอลหนีแนวรับทีมเยือนมาเข้าเท้าขวา แล้วยิงเต็มข้อเน้นๆ บอลพุ่งเฉี่ยวเสาออกหลังไปนิดเดียว
นาที 80
เจ้าถิ่น บุกหนัก แต่ก็ยังยิงประตูไม่ได้สักที ฟิล โฟเด้น พลิกสวย หลุดเข้าเขตโทษฝั่งซ้าย แต่ยิงบอลไปเสาไกลขวามือ ออกไปเองแบบไม่มีลุ้นเลย
นาที 84 GOAL!!!
ทีมเยือน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ประตูตามตีเสมอ 1-1 !!! เป็นจังหวะจากกลางสนาม จู๊ด เบลลิงแฮม ฝากบอลมาให้ เออร์ลิง เบราส์ ฮาแลนด์ ได้เบิ้ลบอลเร็วจังหวะเดียวให้ มาร์โก รอยส์ สอดทะลเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะยิงผ่านตัว เอแดร์ซอน โมราเอส ผู้รักษาประตู เข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม
นาที 90 GOAL!!!
เจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาได้ประตูออกนำอีกครั้ง เป็น 2-1 !!! จากจังหวะลูกเปิดของ เควิน เดอ บรอยน์ ทางขวาลึกไปถึงเสาไกลซ้ายมือ อิลคาย กุนโดกัน สอดขึ้นมาเอาบอลลงได้ ก่อนจะจ่ายสั้นๆให้ ฟิล โฟเด้น ได้ยิงเล่นทางไปที่เสาขวามือเข้าประตูไป เป็นประตูชัยของเจ้าถิ่น
หมดเวลาการแข่งขันเป็นเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะทีมเยือน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปได้ 2-1 !!! คว้าชัยในนัดแรกไปได้สำเร็จ โดยนัดต่อไปต้องเป็นฝ่ายออกไปเป็นทีมเยือนบ้าง