เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทีมชาติ สหรัฐอเมริกา เปิดสนาม โลเวอร์ ดอท คอม ฟิลด์ ต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติ คอสตาริกา ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนคอนคาเคฟ นัดที่ 9 เมื่อเช้าวันพฤหัสบดีที่ 27 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้ เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เกร็กก์ เบอร์ฮัลเตอร์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย แซร์จินโญ่ เดสต์ แบ็คขวาจอมบุก เวสตัน แม็คเคนนี่ มิดฟิลด์ตัวทำเกม และ คริสเตียน พูลิซิช กองหน้าตัวความหวังของทีม
ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เอล ซัลวาดอร์ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ฮูโก้ เปเรซ มาเล่นในระบบ 4-3-3 เช่นกัน นำทีมโดย ไบรอัน ลานดาแวร์เด้ กองกลางห้องเครื่อง ดาร์วิน เกเรน เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ คริสเตียน กิล กองหน้าตัวจบสกอร์ของทีม
นาที 13
เปิดฉากมา เกมของทั้งคู่ยังสูสี ชิงเหลี่ยมแย่งบอลกันไปมาที่บริเวณกลางสนาม จังหวะนี้เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพแยงกี้ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่ได้ทักทายเบา ๆ ก่อน เมื่อ เชซุส เฟอร์ไรร่า ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้าย เจ้าตัวดังจังหวะไหลย้อนมาที่หัวกระโหลกให้ คริสเตียน พูลิซิช ที่วิ่งสอดตามขึ้นมา ได้แต่งบอลเข้าเขตโทษ ก่อนจะซัดด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกเต็ม ๆ กระเด้งออกข้างไป ไม่มีอะไรมาก
นาที 16
เจ้าถิ่น ทัพแยงกี้ ทีมชาติสหรัฐอเมริกา ที่ได้ลุ้นแบบจะแจ้งก่อน แถมหวิดจะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ เวสตัน แม็คเคนนี่ เปิดบอลเปลี่ยนแกน ข้ามฟากออกไปทางริมกรอบฝั่งซ้ายให้ แอนโทนี่ โรบินสัน สบโอกาสจ่ายเลียดยัดเข้าไปที่หน้าเสาแรกซ้ายมือให้ เชซุส เฟอร์ไรร่า ได้กระดกบอลหนีตัวประกบอย่างสวย ก่อนจะซัดหักข้อด้วยซ้ายเน้น ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลลอยโด่ง เหินข้ามคาน ผิดเหลี่ยมหลุดออกหลังไปไกลอย่างน่าเสียดาย
นาที 19
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ แซร์จินโญ่ เดสต์ รับบอลแล้วกระชากขึ้นมาเองทางริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงครอสบอลไปที่หน้าเสาแรกให้ ทิโมธี เวอาห์ ได้สอดมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ ไปที่เสาไกล แล้วเป็น เชซุส เฟอร์ไรร่า โฉบมาพุ่งชาร์จ กระโดดไปด้วยซ้ายจ่อ ๆ โล่ง ๆ ระยะแค่ไม่กี่หลา ส่งบอลผิดเหลี่ยม เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างไม่น่าเชื่อ น่าเสียดายสุด ๆ ช็อตนี้
นาที 24
ทีมเยือน เอล ซัลวาดอร์ ได้ลูกฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษตรงกลางประมาณ 30 หลา จังหวะนี้ คริสเตียน กิล รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงอัดด้วยขวาเน้น ๆ ทะลุกำแพง ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ แม็ตต์ เทอร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เขยิบมาทิ้งตัวคว้าเอาไว้ได้สบาย
นาที 28
ทีมเยือน เอล ซัลวาดอร์ นาน ๆ จะได้ตอบโต้ขึ้นมาที จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว ไจโร เฮนริเกซ ฉกได้แล้วรีบจ่ายให้กับ คริสเตียน กิล แทงเร็วเปลี่ยนแกนมาที่หน้าเขตโทษด้านขวาให้ อเล็กซ์ โรดาล ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะขอลองสับไกด้วยขวานอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดหนีมือ แม็ตต์ เทอร์เนอร์ ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ผ่านหน้าปากประตู ถากเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย
นาที 37
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ แซร์จินโญ่ เดสต์ ดันสูงขึ้นมารับบอล หลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา เจ้าตัวล็อคหนีตัวประกบตัดเข้าใน ก่อนจะก้มหน้าซัดด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปถูก ไบรอัน ลานดาแวร์เด้ กระโดดมาบล็อกเอาไว้ได้ทัน ไม่ได้ลุ้นอะไร ต้องตั้งเกมกันใหม่
นาที 42
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา หวิดจะได้ประตูขึ้นนำอีกแล้ว จังหวะนี้ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว คริสเตียน พูลิซิช กระชากขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษได้สวย เจ้าตัวถ่ายออกไปทางริมกรอบฝั่งซ้ายให้กับแบ็คซ้ายจอมบุกที่ดันสูงตามขึ้นมาอย่าง แอนโทนี่ โรบินสัน ได้ครอสกระดอนพื้นเลยไปที่หน้าเสาไกลขวามือให้ ทิโมธี เวอาห์ ได้แต่งเข้าเหลี่ยมเท้าซ้ายหนึ่งที ก่อนจะเอี้ยวตัวปั่นเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปแฉลบบล็อกของ โรแบร์โต้ คาร์ลอส โดมิงเกซ สุดท้ายเปลี่ยนทางเฉี่ยวสามเหลี่ยมเสาซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังนิดเดียว ได้เป็นลูกเตะมุม
หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพแยงกี้ ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายขึงเกมรุก พับสนามบุกใส่ทีมเยือนอยู่แทบจะฝั่งเดียว จวนเจียนจะได้ประตูขึ้นนำอยู่หลายครั้ง แต่จังหวะจบในพื้นที่อันตรายยังไม่เฉียบคมพอ สกอร์ตอนนี้เสมอกันอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา 0 เอล ซัลวาดอร์ 0 !!!
นาที 48
เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ แอนโทนี่ โรบินสัน ได้บอลหลุดมาถึงสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนจะบรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เชซุส เฟอร์ไรร่า โฉบมาโขกเช็ดเน้น ๆ แต่โดนไม่ดีเท่าไหร่ สุดท้ายบอลกระดอนถากเสาไกลขวามือ หลุดออกหลังไปไกล
นาที 52 GOAL!!!
เจ้าถิ่น ทัพแยงกี้ สหรัฐอเมริกา มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเป็น 1-0 !!! จากจังหวะเริ่มที่ แซร์จินโญ่ เดสต์ วางบอลขนาดเส้นมายังริมกรอบฝั่งขวาให้ ทิโมธี เวอาห์ ได้โชว์ควาแข็งแกร่ง พักอกแล้วเบียดชิงเหลี่ยมเอาชนะตัวประกบ หลุดทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะได้ซัดเน้น ๆ ไปที่เสาแรกติดเซฟของ มาริโอ กอนซาเลซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ลอยออกมาที่กลางประตูเข้าทาง เชซุส เฟอร์ไรร่า กระโดดเทคตัวขึ้นโหม่งสะบัดเน้น ๆ ชงไปที่หน้าเสาซ้ายมือให้ แอนโทนี่ โรบินสัน ที่เติมสูงหุบเข้ามา ได้ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นสวนตัวของ มาริโอ กอนซาเลซ นายทวารเอล ซัลวาดอร์ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม
นาที 55
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา เกือบได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ เวสตัน แม็คเคนนี่ รับบอลมาบริเวณหน้าเขตโทษด้านขวา เจ้าตัวเงยหน้ามอง ก่อนจะบรรจงตักโด่งไปที่หน้าเสาไกลให้ ทิโมธี เวอาห์ มาชงกลับมาที่กลางประตูตั้งให้ ยูนุส มูซาห์ ได้สอดมาจับหนึ่งที ตามด้วยการดีดเร็วด้วยขวาเน้น ๆ ระยะไม่กี่หลา ส่งบอลพุ่งไปถูก มาริโอ กอนซาเลซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ผวาปัดทิ้งออกไปได้ทันเวลาหวุดหวิด
นาที 57
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา ยูนุส มูซาห์ บรรจงเปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น เวสตัน แม็คเคนนี่ โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกสะบัดเน้น ๆ แบบไร้ตัวประกบ แต่ดันกดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย
นาที 65
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา เกือบได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะ บอลขลุกขลิกสุดท้ายมาเข้าทาง แอนโทนี่ โรบินสัน ได้ลากทะลุเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย เจ้าตัวล็อคหลบ เอดูอาร์โด้ วีจิล ตัดเข้าในมาที่หน้าเสาแรก ก่อนจะบรรจงซัดหักข้อมุมแคบด้วยขวาเน้น ๆ ยัดไปที่เสาซ้ายมือ ทว่าเป็น มาริโอ กอนซาเลซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาปัดออกมาได้ทันอีกครั้งหนึ่ง
นาที 75
เจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา ได้ลูกฟรีคิกทางริมเส้นฝั่งขวา จังหวะนี้ แซร์จินโญ่ เดสต์ บรรจงเปิดบอลโด่ง ลอยลึกไปที่เสาไกลให้ คริส ริชาร์ด กำลังจะได้โขกเหน่ง ๆ อยู่แล้ว ทว่าเป็น มาริโอ กอนซาเลซ ผู้รักษาประตูทีมเยือน ยังอ่านเกมได้ดี พุ่งออกมาตัดบอล ปัดทิ้งก่อนจะตามมาทิ้งตัวตะครุบเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น สหรัฐอเมริกา เปิดบ้านเฉือนเอาชนะทีมเยือน เอล ซัลวาดอร์ ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! รั้งรองจ่าฝูงของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนจ่าฝูงอย่างแคนาดา ในเช้าวันจันทร์ที่ 31 มกราคม 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านเอล ซัลวาดอร์ รั้งอันดับที่ 7 รองบ๊วยของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนฮอนดูรัส ในวันเดียวกันแต่คนละเวลา