บุกแทบตายเจอสวนทีเดียวจอด!! “โคลอมเบีย” เปิดบ้านพลิกล็อค พลาดท่าพ่าย “เปรู” 1-0 !!!

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพโคเคน ทีมชาติ โคลอมเบีย เปิดสนาม เอสตาดิโอ เมโทรโปลิตาโน่ โรแบร์โต้ เมเลนเดซ ต้อนรับการมาเยือนของทัพหมอผีแห่งอเมริกาใต้ ทีมชาติ เปรู ในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อค่ำคืนวันศุกร์ที่ 28 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น โคลอมเบีย ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เรยนัลโด้ รูเอด้า มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย ฮาเมส โรดริเกวซ เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม หลุยส์ ดิอาซ ปีกจอมพลิ้ว และ ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน เปรู ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ริคาร์โด้ กาเรก้า มาเล่นในระบบ 4-1-4-1 นำทีมโดย เรนาโต้ ตาเปีย กองกลางห้องเครื่อง คริสเตียน กูเอว่า เพลย์เมกเกอร์ตัวสร้างสรรค์เกม และ จานลูก้า ลาปาดูล่า ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีม

นาที 2

เปิดฉากมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น ทัพโคเคน โคลอมเบีย ที่ได้ทักทายก่อน แถมเกือบได้ประตูขึ้นนำไว จากจังหวะ วิลมาร์ บาร์ริออส ฉกบอลได้ทางริมเส้นฝั่งขวาแล้วจิ้มเร็วมาให้ ฮาเมส โรดริเกวซ ที่ริมกรอบด้านขวา ได้โยกหาช่องแล้วจ่ายยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ ราดาเมล ฟัลเกา ล็อคหนีตัวประกบเข้าเหลี่ยมเท้าขวา ก่อนจะซัดเน้น ๆ เหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปเองอย่างน่าเสียดาย

นาที 8

เจ้าถิ่น โคลอมเบีย บุกขึ้นมาได้ลุ้นติด ๆ กัน เป็นจังหวะ ฮาเมส โรดริเกวซ รับบอลมาที่บริเวณกึ่งกลางสนาม ก่อนจะบรรจงหยอดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราดาเมล ฟัลเกา ดูดบอลลงแล้วโยกเร็วหนีตัวประกบตัดเข้าใน ตามมาด้วยซัดหักข้อด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งไปติดบล็อกเต็ม ๆ สุดท้ายลอยเข้ามือของ เปโดร กัลเลส ผู้รักษาประตูทีมเยือน รับเอาไว้ได้สบาย

นาที 11

เกมยังตกเป็นของเจ้าถิ่น โคลอมเบีย จังหวะนี้ ฮวน กวาดราโด้ ดันสูงขึ้นมารับบอลทางริมกรอบฝั่งขวา เจ้าตัวตบเข้ากลางต่อให้ ราดาเมล ฟัลเกา โดนขวางจึงดึงจังหวะไหลนิ่ม ๆ มาที่หน้าหัวกระโหลกต่อให้กับ ฮาเมส โรดริเกวซ ได้แต่งเข้าเหลี่ยมเท้าซ้ายหนึ่งที ก่อนจะซัดเลียดหน้าเขตโทษเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นไปแฉลบบล็อกของคู่แข่ง สุดท้ายกลิ้งเฉี่ยวเสาไกลซ้ายมือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวชนิดเสียววาบ ได้เป็นเตะมุมแทน

นาที 13

จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม เจ้าถิ่น โคลอมเบีย ยังเก็บบอลแถวสองได้บริเวณกราบขวาที่ หลุยส์ ดิอาซ เจ้าตัวแตะสั้น ๆ เข้ากลางให้ ราฟาเอล ซานโตส บอร์เร่ พลิกตัวสับไกด้วยซ้ายนอกกรอบเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งแรงไปแฉลบบล็อก เปลี่ยนทางลอยโด่งไปที่หน้าเสาขวามือเข้าทาง มาเตอุส อูริเบ กำลังจะได้โขกเหน่ง ๆ อยู่แล้ว ทว่าเป็น อังเดร การ์ริโย่ โฉบมากระโดดโหม่งเคลียร์ออกหลังเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 25

เจ้าถิ่น โคลอมเบีย บุกขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งซ้าย จังหวะนี้ หลุยส์ ดิอาซ กระชากหลุดมาถึงสุดเส้นหลัง ก่อนจะครอสไปแฉลบบล็อก บอลลอยโด่งไปที่กลางประตู แล้วเป็น ฮาเมส โรดริเกวซ โฉบมาเทคตัวขึ้นโขกเหน่ง ๆ คนเดียวแบบไร้ตัวประกบ ทว่าดันกดไม่ลง ส่งบอลเหินข้ามคาน หลุดออกหลังไปไกลอย่างน่าผิดหวังสุด ๆ

นาที 27

เจ้าถิ่น โคลอมเบีย เกือบได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ มาเตอุส อูริเบ แทงทะลุช่องยัดทื่อ ๆ เข้าไปที่กลางประตูให้ ราดาเมล ฟัลเกา วิ่งสอดหลุดเดี่ยวพยายามจิ้มเร็วตามน้ำจังหวะเดียวไปติดเซฟของ เปโดร กัลเลส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ที่ออกมาปิดมุมได้ไว ทิ้งตัวบล็อกเอาไว้ได้ทัน ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง ราฟาเอล ซานโตส บอร์เร่ ได้ซ้ำโล่ง ๆ เข้าประตูไป ทว่าช็อตซ้ำเจ้าตัวล้ำหน้าชัดเจน เฮเก้อกันไปสำหรับแฟน ๆ

นาที 36

เจ้าถิ่น โคลอมเบีย พลาดโอกาสทองที่จะได้ประตูขึ้นนำ เป็นจังหวะ ราฟาเอล ซานโตส บอร์เร่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางริมกรอบฝั่งขวา ก่อนจะบรรจงครอสบอลพุ่งกระเด้งพื้นเข้าไปที่กลางประตูให้ ราดาเมล ฟัลเกา ได้ตั้งป้อมเอี้ยวตัวฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งเฉียดเสาแรกขวามือ ลอยหลุดออกหลังไปเองแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย เปโดร กัลเลส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ทำได้แค่หันมองแล้วด้วย 

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นเจ้าถิ่น ทัพโคเคน ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด เป็นฝ่ายปูพรมขึงเกมรุก พับสนามบุกอยู่ฝั่งเดียว ทว่าจังหวะจบวันนี้ยังทำได้ไม่เฉียบคมพอ สุดท้ายยังทำอะไรกันไม่ได้ สกอร์ตอนนี้ โคลอมเบีย 0 เปรู 0 !!!

นาที 50

เปิดฉากครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งเจ้าถิ่น โคลอมเบีย ที่เดินเครื่องลุยใส่คู่แข่งทันที จังหวะนี้ เยอรรี่ มิน่า ดันสูงขึ้นมาเก็บตกบอลแถวสองได้ที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวลากจี้แต่งเข้าขวา ก่อนจะขอลองส่องไกลนอกกรอบเน้น ๆ เกือบ 25 หลา ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัวแถมติดไซด์ ลอยเหินเฉียดคาน หลุดออกหลังไปชนิดได้เสียว

นาที 72

ต่อเนื่องจากเตะมุม เจ้าถิ่น โคลอมเบีย ยังขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของทีมเยือน จังหวะนี้ วิลมาร์ บาร์ริออส เปิดบอลจากบริเวณกึ่งกลาง ส่งบอลลอยโด่งไปที่หน้าเสาขวามือให้ เยอรรี่ มิน่า โฉบมาพุ่งโหม่งเหน่ง ๆ ไปตรงตัวของ เปโดร กัลเลส ผู้รักษาประตูทีมเยือน ช็อตนี้ผู้เล่นทัพโคเคนฟ้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่ ทว่าผู้ตัดสินยังใจแข็งให้เล่นต่อไป ซึ่งภาพช้าจะเห็นว่า มิน่า โดนดึงในจังหวะออกตัว มีสิทธิ์โดนฟาล์วแน่นอน อยู่ที่ดุลยพินิจของกรรมการ

นาที 79 

เจ้าถิ่น โคลอมเบีย พับสนามบุกอยู่ฝั่งเดียว แต่ยังเจาะแนวรับคู่แข่งไม่เข้า จังหวะนี้ สตีเว่น อัลซาเต้ บอมบ์โด่งเข้าไปในเขตโทษเพื่อกดดันแนวรับทีมเยือน แล้วเป็น อเล็กซานเดอร์ คาเยนส์ โหม่งสกัดผิดเหลี่ยม เปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูตัวเองอยู่แล้ว ยังดีที่ เปโดร กัลเลส นายทวารเพื่อนร่วมชาติ ปฏิกริยายังไว พุ่งปัดทิ้งออกหลังเอาไว้ได้ทัน

นาที 81

เจ้าถิ่น โคลอมเบีย ดูเหมือนจะเริ่มหมดมุขในการเข้าทำ จังหวะนีั โยฮัน โมฮิก้า แบ็คซ้ายจอมบุก ดันสูงขึ้นมารับบอลที่หน้าเขตโทษ ก่อนจะของลองส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงกระดอนพื้นน้ำหนักใช้ได้ ทว่าทิศทางยังไม่หนีมือเท่าไหร่ เปโดร กัลเลส ผู้รักษาประตูทีมเยือน พุ่งไปคว้าเอาไว้ได้อย่างไม่ยากเย็น

นาที 85 GOAL!!!

ทำไปทำมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ทัพหมอผี เปรู ที่มีโอกาสบุกครั้งแรกของเกมก็มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนเฉยเลยเป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้ตรงกลางสนามแล้วสวนกลับเร็ว คริสเตียน กูเอว่า แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ เอดินสัน ฟลอเรส ได้วิ่งสอดทำลายกับดักล้ำหน้าไปถึงบอล เจ้าตัวกระชากหลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะก้มหน้าวางเท้าซัดมุมแคบด้วยซ้ายเน้น ๆ ยัดไปที่เสาแรก ส่งบอลพุ่งเลียดเบียดเสาผ่านมือของ ดาบิด ออสปิน่า ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ปิดมุมไม่ดีเอง เข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 90+4

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่น โคลอมเบีย ได้ลุ้นตีเสมอ จากจังหวะ ฮวน กวาดราโด้ เลี้ยงตัดจากซ้ายเข้ากลางมาที่หน้าเขตโทษ เจ้าตัวจ่ายสั้น ๆ ต่อให้ ฮาเมส โรดริเกวซ ได้แต่งหนึ่งที ก่อนจะส่องไกลด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลน้ำหนักแรงน่ากลัว พุ่งเฉียดเสาไกลซ้ายมือ ลอยหลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดาย

นาที 90+6

ก่อนหมดเวลา เจ้าถิ่น โคลอมเบีย ได้ลุ้นเฮือกสุดท้าย จากจังหวะ ฮวน กวาดราโด้ พลิ้วหนีตัวประกบลากตัดจากริมเส้นมาถึงหน้าหัวกระโหลก ก่อนจะตั้งป้อมวางเท้าตะบันด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงเป็นจรวดไปแฉลบบล็อก บอลเปลี่ยนทางกระดอนเฉี่ยวเสาขวามือ หลุดออกหลังไปแค่นิดเดียวอย่างน่าเสียดายอีกหน

หมดเวลาการแข่งขัน ทีมเยือน เปรู สร้างเซอร์ไพรส์ บุกมาเชือด เฉือนเอาชนะเจ้าถิ่น โคลอมเบีย ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 !!! เขยิบแซงขึ้นมารั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับเอกวาดอร์ ในเช้าวันพุธที่ 2 กุมภาพันธ์ 2565 ที่จะถึงนี้ ส่วนทางด้านโคลอมเบีย ร่วงมาอยู่อันดับที่ 6 ของตาราง นัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนอาร์เจนติน่า ในเช้าวันเดียวกันแต่คนละเวลา

สนับสนุนบทความโดย ufabet