นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง คริสตัล พาเลซ ที่เปิดสนาม เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ อาร์เซน่อล ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 4 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา
เกมนี้เจ้าบ้านได้แนวรุกตัวจี๊ดของทีมอย่าง วีลฟรีด ซาอา หายเจ็บกลับมาลงสนามได้ตามปกติแล้วทำให้ พาทริค วิเอร่า สามรถใช้ระบบ 4-3-3 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง
ขณะที่ อาร์เซน่อล เกมนี้ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน พวกเขาจะมาสู้ในระบบ 4-2-3-1 โดยมี มาร์ติน เออเดอโกร์ คอยทำเกมร่วมกับ เอมิล สมิธ โรว์ และมี อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต เป็นคนทำประตู
นาทีที่ 10
เวลาผ่านไปยังไม่ทันได้จับบอลกันครบทุกคนเลย ก็มีลุ้นประตูจากแล้วจากจังหวะที่ อาแล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ต ได้ตวัดยิงเร็วสอกกรอบเขตโทษ
นาทีที่ 16 คริสตัล พาเลซ ใส่สกอร์ก่อน 1-0
ยังเป็นจังหวะบุกต่อเนื่องของ คริสตัล พาเลซ และพวกเขาก็ออกนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะที่ กาเบรียล กองหลังบราซิเลียนของ อาร์เซน่อล ดันเข้าพรวด เคลียร์บอลไม่ขาด มาเตต้า ที่ยืนอยู่ถูกที่ถูกเวลาเลยได้ชาร์จจ่อๆ เข้าไปไม่มีเหลือ
นาทีที่ 24 แฟนปืนช็อก พาเลซ ออกนำ 2-0
อาร์เซน่อล ที่ยังต่อบอลทำเกมไม่ได้ ก็มาพลาดเสียประตูที่2จนได้ จากจังหวะที่ กาเบรียล พยยามจะสไลด์ตัดบอล แต่เจ้าตัวดันกะจังหวะพลาด อายิว เลยได้ดวลเดี่ยวกับ แรมส์เดล ก่อนจะซัดผ่านมือผู้รักษาประตูทีมชาติ อังกฤษ เข้าไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 38
อาร์เซน่อล พอโดนนำ 2-0 ยิ่งเล่นก็ยิ่งลน แถมเกือบโดนลูกที่3ด้วย จากจังหวะที่ ซาฮา ลากจี้เข้าหา ซัวเรซ ก่อนจะสบโอกาส จ่ายต่อให้ มาเตต้า ยืนซัดโล่งๆ แต่ยังดีที่ แรมส์เดล เซฟเอาไว้ได้ อาร์เซ่น่อล เลยไม่เสียประตูเพิ่ม แต่อย่างใด
หมดครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล ถือว่าเจียนไปเจียนอยู่พอสมควร เกือบโดนลูกที่สามอยู่หลายที ถ้าครึ่งหลัง อาร์เตต้า ไม่แก้เกม อาร์เซน่อล น่าจะไม่รอดโดนเม็ด 3 จริงๆแน่
นาทีที่ 63
เริ่มครึ่งหลังมา อาร์เซน่อล ต่อบอลกันไหลลื่นมากกว่าครึ่งแรก และเกือบได้ประตูตีไข่แตก จากจังหวะที่ ลากาแซตต์ ยิงไปติดบล็อก ผู้เล่นของ พาเลซ ก่อนที่บอลจะกระเด้งไปเข้าทาง สมิธ โรว์ ได้วางเท้ายิงแบบไม่จับ แต่บอลสุดท้ายน่าจะโดนไม่เต็ม กวยต้า รับเข้าซองสบายๆ
นาทีที่ 73 ปิดกล่อง พาเลซ ออกนำ 3-0
ทีมเยือนกดดัน พาเลซ อยู่พักใหญ่แต่ก็ยังทวงประตูคืนไม่ได้ แถมพอโดนสวนกลับก็ดันพลาดเสียประตูอีก จากจังหวะที่ โอเดการ์ด โดน ซาฮา โยกหลบจนเสียเหลี่ยมล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการไม่รอช้าชี้ให้ พาเลซ ได้ลูกจุดโทษทันที และก็เป็น ซาฮา ที่เดินมาสังหารไม่พลาด ส่งบอลเข้าประตูไปอย่างสวยงาม
นาทีที่ 84
ช่วงท้ายเกม อาร์เซน่อล เกือบตีไข่แตกได้ จากจังหวะที่ เอ็นเคเทียห์ กองหน้าตัวสำรอง ได้ลองซัดไกลนอกกรอบเขตโทษ แต่บอลสุดท้ายดันชนคาน กระเด้งออกหลัง ไปอย่างน่าเสียดาย
หมดเวลาการแข่งขัน เป็นเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ ที่ใช้โอกาสไม่เปลือง ไล่ถล่ม อาร์เซน่อล เละเทะ 3-0 ซึ่งผลลัพธ์เกมนี้ ทำให้ อาร์เซน่อล ไม่สามารถแซง สเปอร์ส กลับขึ้นไปอยู่ที่4ได้เหมือนเดิม