นัดนี้จะเป็นการพบกันระหว่าง ฝรั่งเศส กับ เนเธอร์แลนด์ ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟรองซ์ ในศึก ยูโร 2024 *รอบคัดเลือก (ทีมชาติ) เมื่อวันเสาร์ที่ 25 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
เกมนี้ ฝรั่งเศส จะมาเล่นด้วยระบบ 4-2-3-1 นำโดยแกนหลักของทีมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ไมค์ เมญอง,อองตวน กรีซมันน์,ออเรลิยอง ชูอาเมนี่,คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ และ คิงสลี่ย์ โคมัน
ขณะที่ เนเธอร์แลนด์ จะมาสู้ด้วยระบบ 4-3-3 นำโดยเสาหลักของทีมอย่าง ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น,เยอร์เรี่ยน ทิมเบอร์,จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม,ซาบี้ ซิมงส์ และ สเตเฟ่น เบิร์กเฮาส์ เป็นต้น
นาทีที่ 2 ฝรั่งเศส ขึ้นนำ 1-0
เริ่มเกมได้2นาที ฝรั่งเศส ก็มาได้ประตูขึ้นนำอย่างไว จากจังหวะที่ เอ็มบัปเป้ ได้บอลทางซ้าย ก่อนจะเลี้ยงจี้เข้ากรอบเขตโทษ แล้วจ่ายตามช่องต่อให้ กรีซมันน์ ตวัดยิงตามน้ำโล่งๆคนเดียวบริเวณแถวๆหัวกะโหลก ส่งบอลพุ่งหนีมือ ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ตุงตาข่ายอย่างสวย
นาทีที่ 8 ฝรั่งเศส 2-0
สกอร์ชักไหล ฝรั่งเศส ทำเกมขึ้นมาบวกประตูเพิ่มได้อีกครั้ง จากจังหวะที่ ราบิโอต์ เปิดลูกเตะมุมเข้ากลาง บอลมาตกหน้าปากประตู แต่แล้วไม่รู้ว่าแนวรับของทีมเยือนเคลียร์บอลกันยังไง เพราะบอลสุดท้ายดันไปแฉลบโดน อูปาเมกาโน่ เปลี่ยนทางเข้าประตูไปเฉยเลย
นาทีที่ 21 ฝรั่งเศส 3-0
ยังไม่ครึ่งชั่วโมงแรกของเกม เนเธอร์แลนด์ ก็พลาดท่าเสียประตูที่3ให้ฝรั่งเศสเพิ่มอีกแล้ว จากจังหวะที่ ชูอาเมนี่ จ่ายทะลุช่องส่งให้ เอ็มบัปเป้ ใช้ความเร็วกระชากบอลหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงสวนตัว ยาสเปอร์ ซิลเลสเซ่น ตุงตาข่าย 3-0
หมดครึ่งเวลาแรก
ฝรั่งเศส – 3
เนเธอร์แลนด์ – 0
นาทีที่ 57
ต้นครึ่งหลัง เนเธอร์แลนด์ พยายามแก้ตัวเต็มที่ และพวกเขาก็มาได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกระยะอันตรายของ เมมฟิส เดปาย แต่ทว่าด่านสุดท้ายอย่าง ไมค์ เมญอง ก็ยังไม่พลาดพุ่งปัดเอาไว้ได้เยี่ยม
นาทีที่ 86
ท้ายเกม ฝรั่งเศส เกือบได้ประตูเพิ่มอีกแล้ว จากจังหวะที่ ดิยาบี้ พาบอลหลุดเข้าไปจบสกอร์ในกรอบได้แล้ว แต่ไม่ได้ประตู เพราะจังหวะที่ ดิยาบี้ รับบอลมีธงล้ำหน้าสะบัดขึ้นมาก่อนแล้ว
นาทีที่ 88 ฝรั่งเศส ปิดเกม 4-0
ก่อนหมดเวลาประตูที่4ของ ฝรั่งเศส ก็มาตามนัดจนได้ จากจังหวะที่ผู้เล่นของ เนเธอร์แลนด์ จ่ายเสีย โดน เอ็มบัปเป้ ดักได้ก่อนจะโดนซุปตาร์ปารีส โชว์เหนือโลโซ่เดี่ยวจากกลางสนาม ลากบอลเข้าไปจบสกอร์นิ่มๆในกรอบเขตโทษ เป็นประตู 4-0
หมเเวลาการแข่งขัน เป็น ฝรั่งเศส ที่เล่นได้เหนือกว่าตลอดทั้งเกม ส่งผลให้พวกเขาเปิดบ้านถล่ม เนเธอร์แลนด์ ไปได้ ด้วยผลสกอร์รวม 4-0