เดอะ ซัน แท็บลอยด์จอมสาระแน เอาสถิติการคว้าแชมป์และการใช้จ่ายเงินเสริมทัพระหว่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาเปรียบเทียบกัน เผยให้เห็นว่ามีความแตกต่างกันอย่างยิ่ง นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ
“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านสอนบอล “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สบายเท้า 4-1 ระหว่างเกมดาร์บี้ ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์หนสุดท้ายเมื่อปี 2013 ซึ่งเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันวางมือ ทั้งสองทีมก็เดินหน้าในทิศทางที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 หนในช่วงที่ผ่านมา และกำลังเดินหน้าคว้าแชมป์สมัยที่ 5 ในฤดูกาลนี้
มานูเอล เปเญกรินี่ พาทีมคว้าแชมป์เมื่อปี 2016 ก่อนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะครองอังกฤษ คว้าแชมป์เพิ่มอีก 3 หนในปี 2018 2019 และ 2021
ในช่วงเวลาดังกล่าว ทีมจากโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ใกล้เคียงการคว้าแชมป์เพียงหนเดียว คือการจบรองแชมป์ แต่โดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทิ้งห่างถึง 12 คะแนน
นับตั้งแต่ฤดูกาล 2013-2014 คะแนนเฉลี่ยระหว่างทั้งสองสโมสรก็แตกต่างกันมาก โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บไปฤดูกาลละ 84 แต้ม ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเฉลี่ยที่ 69 คะแนน
สำหรับจำนวนถ้วยรางวัลรายการใหญ่นั้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้มา 11 ถ้วย ส่วนยูไนเต็ด ได้มา 3 หน เพียงเท่านั้น
ขณะที่ตัวผู้จัดการทีมนั้น ฝั่งสีฟ้า มีกุนซือเพียง 2 ราย คือ เปเญกรินี่ และกวาร์ดิโอล่า ขณะที่ฝั่งสีแดง ใช้โค้ชไปถึง 5 คน คือ เดวิด มอยส์, หลุยส์ ฟาน ฮาล, โจเซ่ มูรินโญ่, โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ และตอนนี้เป็น ราล์ฟ รังนิค
ทั้งหมดทั้งมวล สองทีมมีการใช้เงินเสริมทัพแบบไม่แตกต่างกันมากมาย โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทุ่มเงินไป 1.25 พันล้านปอนด์ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสริมทัพมากมายกว่า 1.2 พันล้านปอนด์ในช่วงเวลาเพียง 9 ปี