ขุนแผน ฟ้าฟื้น – Khun-Phaen-Fha-Feun

ขุนแผน ฟ้าฟื้น
— 5/10 —
เป็นหนังย้อนยุคที่ผสมความเป็นปัจจุบันได้อย่างสร้างสรรค์
มีความแปลกใหม่และกล้าเล่น แต่ยังไม่ลงตัวอยู่ดี
2 อย่างที่ชอบจากเรื่องนี้คือความคิดสร้างสรรค์และความสวยของพิม

ขุนแผน ฟ้าฟื้น คือผลงานการกำกับของพี่โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ ที่ฝากผลงานสร้างชื่อไว้มากมาย ตั้งแต่ลองของ, ไชยา, เฉือน, อันธพาล, สุขสันต์วันกลับบ้าน และขุนพันธ์ทั้ง 2 ภาค ถ้าผลงานที่เราชอบของพี่เขาก็คงเป็น ลองของ, ไชยา และอันธพาลเนี่ยแหละ ส่วนขุนพันธ์มันกึ่งๆ ชอบไม่ชอบตอบไม่ได้เหมือนกัน จะสังเกตได้ว่าเจ้าตัวทำหนังหลายแนวมาก และพอมาคราวนี้ ขุนแผน ฟ้าฟื้น ถือว่าหลุดไปจากแนวอื่นๆ พอสมควร เพราะคราวนี้มาในแนวพีเรียดผสมความเป็นปัจจุบัน ที่ทั้งแอ็คชั่น และตลก 

มันไม่ใช่ขุนแผนที่เรารู้จักหรือเคยเรียนมา มีแต่โครงหลักๆ เอาไว้เท่านั้น ซึ่งมันก็ดีฉีกความจำเจเดิมๆ และบอกเล่าใหม่ให้ร่วมสมัยขึ้น โดยมันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ แก้ว (มาริโอ้ เมาเร่อ) ชายหนุ่มผู้ลืมเลือนเรื่องราวในอดีตของตนว่าเขาเป็นใคร และจำหน้าพ่อตัวเองไม่ได้ แต่เมื่อเขาเข้ามาในเมืองกรุง ยูท่า (ต้องไปดูในหนังเองว่าทำไมมันชื่อยูท่า เหตุผลแบบ…) ชะตาชีวิตเขาก็กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเขาได้พบกับจอมขมังเวทย์ที่สอนวิชาให้เขา รวมถึงพบกับอดีตเพื่อนรัก ช้าง (ฟิลลิปส์ ณัทธนพล ทินโรจน์) และ พิม (ยงวรี งามเกษม) ทำให้เขาเริ่มจำอะไรบางอย่างได้ พร้อมๆ กับเมืองแห่งนี้กำลังจะถูกรุกรานจากภัยอันตรายอันใหญ่หลวง ทำให้เขาและผองเพื่อนต้องปกป้องเมืองแห่งนี้ 

สิ่งที่น่าชื่นชมมากๆ ของหนังเรื่องนี้เลยคือไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ การที่รังสรรค์ความพีเรียต สร้างโลกในอดีตขึ้นมา แต่ผนวก และผสมผสานความเป็นปัจจุบันไว้ได้อย่างลงตัว มันเป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมมาก เราชอบมาก เช่น การตั้งด่านตรวจ, ผับ, คอนเสิร์ต, รถแท็กซี่ ฯลฯ คือคิดได้ยังไงอะที่ทำหนังพีเรียดออกมาแบบนี้ได้ มันแปลกใหม่ และต้องบ้า ต้องกล้าเล่นมากอะจริงๆ อันนี้ชื่นชมเลย แถมมีการล้อเลียนหนังเรื่องๆ อื่นๆ แบบที่เราคาดไม่ถึงอีกต่างหาก

นั่นคือหนึ่งในไม่กี่สิ่งที่เราชอบจากเรื่องนี้ ที่เหลือค่อนข้างไม่ชอบเอาซะเลย จริงๆ หนังไทยเนี่ยวนอยู่ไม่กี่แนวหรอก รัก ตลก ผี แอ็คชั่น และหนังเรื่องนี้มันเอามาทุกแนว!!! แถมมันยังมีฉากมิวสิคัลแทรกมาตั้งหนึ่งฉาก เพื่อ!? 

คือหลายๆ อย่างในหนังเรื่องนี้เรามีคำถามกับมันว่า เพื่อ!? บ่อยมาก คือไอ้การเอาหลายแนวมาผสมในหนังเรื่องเดียวมันก็ไม่ผิด ไม่ใช่ปัญหาหรอก แต่มันจะยัดมิวสิคัลมาโต้งๆ เพื่อเพราะอยากให้มีแบบนั้นไม่ได้! เพื่อ!? ด้วยความที่หนังความยาว 2 ชั่วโมงกว่า ยิ่งทำให้เรารู้สึกว่ามันนานไป (มากๆ) หลายๆ ฉากที่แบบไม่ควรใส่มาก็ใส่ อะไรที่ไม่จำเป็นกับเนื้อเรื่องก็ยังใส่มา เพื่อ!? มันเป็นการยืดเวลาของหนังโดยใช่เหตุจริงๆ อีกทั้งตัวละครอย่าง ราม ที่แสดงโดย อภิวิชท์ เรียร์ดอน คือเอาตรงๆ โคตรรู้สึกขัดกับการปรากฏตัว และการมารวมทีมกับพวกพระเอกมาก ไม่รู้สึกถึงความจำเป็นของการมีอยู่ของตัวละครนี้เลยสักนิด คือไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ หรือไม่ก็ให้อยู่ร่วมด้วยกันตั้งแต่เริ่มไปเลยจะดูดีเสียกว่า และไอ้การที่พยายามใส่มุกตลกมาทุกๆ 1 นาทีนี่มันกลายเป็นแป้กเสียมากกว่าปัง คือแทนที่มันจะฮา แต่มันเกลื่อนไปจนน่ารำคาญ คือไอ้มุกฮาก็มี แต่ก็พอทำได้แค่ยิ้มมุมปากเท่านั้น

จริงๆ ไอเดียความคิดสร้างสรรค์มาดีแล้วนะ แต่น่าเสียดายบทจริงๆ หนังมีการผูกเรื่องราวไว้เยอะมาก มันเยอะเกินไป ทั้งเรื่องการตามหาความทรงจำที่หายไป, ความรักสามเศร้า มิตรภาพ, ตำนานนักรบ มันจึงทำให้หนังดูสะเปะสะปะไปสักหน่อย พอมาโฟกัสเรื่องนี้ หนังก็พาไปโฟกัสเรื่องนี้ และเป็นแบบนี้ทั้งเรื่อง มันจึงไม่อินและไม่ไขข้อข้องใจในพาร์ทไหนเลย เข้าใจแหละว่าคงจะปูเพื่อให้ไปภาคต่อๆ ไป แต่รู้สึกมันมั่วเกินไปสักหน่อย เท่านั้นยังไม่พอ หนังยังมีจุดผิดพลาดและพล็อตโฮลที่ชวน เอ๊ะ แบบสุดๆ ทางด้านบทไม่พอ หนังยังมีการตัดต่อที่ไม่ไหลลื่น มุมกล้องฉากต่างๆ รู้สึกแปลกๆ ยังไงชอบกล

ด้วยความที่หนังขายไอเดียงานด้านภาพจึงเต็มไปด้วย CG ทั้งเรื่องแทบจะทุกฉากเลยก็ว่าได้ แต่มันก็ยังมี CG ที่ไม่น่าประทับใจอยู่ดี ไอ้ลอยมันก็ลอยแหละ แต่ก็ถือว่าอยู่ในระดับที่โอเคไม่แย่มาก ไม่ได้สมจริง แต่ก็เป็น CG ที่ไม่น่าเกลียด

ทางด้านการแสดง เรื่องนี้คงจะกะเอานักแสดงมาเรียกแขกแน่ๆ โดยเฉพาะตัวพระเอกอย่างมาริโอ้ เมาเร่อ ที่รับบทแก้ว, ฟิลลิป์ ณัทธนพล ทินโรจน์ที่รับบทช้าง, ฟ้า ยงวรี งามเกษม ที่รับบทพิม และดาราสมทบอีกมากมาย การแสดงโคตรไม่น่าจดจำ พังมากจริงๆ แต่คนที่โผล่มานิดเดียวกลายเป็นแย่งซีนเรามองว่าเป็นตัวละครที่ cameo มาตอนท้ายเรื่องเสียมากกว่า แต่ถ้ามองข้ามการแสดงไป บทพิม ของ ฟ้า ยงวรี ที่งามแท้ๆ งามมาก หลงทุกฉาก สวยทะลุจอแบบสุดๆ รวมถึงนักฆ่าสาวสวย เจด แองเจลิน่า โฟรม็องโต ที่การแสดงไม่ต้องพูดถึงแข็งแบบสุดๆ แต่ก็ได้ความสวยเซ็กซี่เข้ามาแทน

สรุปแล้ว ขุนแผน ฟ้าฟื้น เป็นงานที่ขายไอเดียความสร้างสรรค์ได้อย่างยอดเยี่ยม นอกเหนือจากนั้นใช้คำว่าพังละกัน มันค่อนข้างมั่วไปเสียหน่อย และน่าเสียดายเนื้อเรื่องแท้ๆ ที่อุตส่าสร้างสรรค์ไอเดียมาซะขนาดนั้น ถ้าถามว่ามีภาคต่อจะดูมั้ย ก็คงจะดูแหละ เพราะอยากรู้มันจะพัฒนาออกมายังไง และจะนำเสนอในรูปแบบไหนต่อ นี่คือความเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น หรือสุดท้ายแล้วทั้งหมดทั้งมวลมันก็อาจจะถูกจริตใครหลายๆ คนแต่ถูกใจเราก็เท่านั้นแหละมั้ง