เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า ออกโรงแถลงไม่เห็นด้วยกับการขายหุ้นส่วนของทาง ลาลีก้า จำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ให้กับทาง CVC Capital Partners โดยมองว่าจะทำให้พวกเขาสูญเสียรายได้จากลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไปตลอด 50 ปี
เพิ่งมีการยืนยันเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่าทาง ลาลีก้า ได้ขายหุ้นจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ให้กับทาง CVC Capital Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านเงินทุนของเอกชนเป็นมูลค่าถึง 2,700 ล้านยูโร โดยจะนำเงิน 90% ของจำนวนดังกล่าวไปกระจายให้กับแต่ละสโมสรในประเทศในรูปแบบสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อลดค่าใช้จ่ายและปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วงวิกฤตไวรัสโควิด
อย่างไรก็ตามล่าสุดสองสโมสรยักษ์ใหญ่ของลีกอย่าง “ราชันชุดขาว” และ “ต่างดาว” กลับออกมาแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว แม้พวกเขาจะได้รับเงินสินเชื่อที่ประมาณทีมละ 270 ล้านยูโร ก็ตาม
ทาง เรอัล มาดริด ยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้รับรู้ถึงข้อตกลงในการขายหุ้นดังกล่าวจึงเป็นการดำเนินการที่ฝ่าฝืนต่อข้อกำหนดเป็นความผิดทางกฎหมาย โดยอ้างว่าข้อตกลงดังกล่าวจะทำให้ทีมในลีกสูญเสียลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดเป็นจำนวน 10.95 เปอร์เซ็นต์ ไปตลอดระยะเวลา 50 ปี ซึ่งเป็นมูลค่าที่สูงกว่าจำนวนเงินสินเชื่อที่พวกเขาจะได้รับจากดีลนี้หลายเท่า และจะมีการประชุมหารือร่วมกับสโมสรที่เกี่ยวข้องต่อไป
ส่วนฝั่ง บาร์เซโลน่า ก็แถลงไปในทิศทางเดียวกันที่มองว่าการทำข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้รับความยินยอมจากสโมสรเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด โดยพวกเขาไม่ได้รับรู้ถึงทางเลือกหรือข้อมูลใดๆในดีลดังกล่าว และมีความกังวลในลักษณะเดียวกันที่ว่าจะสูญเสียลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดส่วนหนึ่งไปตลอดระยะเวลา 50 ปี ซึ่งเป็นความเสียหายจำนวนมาก
ทั้งสองทีมกำลังเผชิญปัญหากับกฎเกณฑ์เรื่องเพดานค่าเหนื่อยที่กำหนดขึ้นใหม่ของทาง ลาลีก้า โดยเฉพาะยอดทีมจากคาตาลัน ที่เพิ่งมีการยืนยันว่าพวกเขาไม่สามารถเซ็นสัญญากับนักเตะคนสำคัญของทีมอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ ได้