ซาล่าห์เหมาสอง!! นำ “ลิเวอร์พูล” บุกมาไล่ถล่มเอาชนะ “เอฟเวอร์ตัน” ไปได้แบบไม่ไว้หน้า 4-1

เกมการแข่งขัน ระหว่าง เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน เปิดสนาม กูดิสัน พาร์ค, เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ ต้อนรับการมาเยือนของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 14 เมื่อค่ำคืนวันพุธที่ 1 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา

เกมนี้ เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ มาเล่นในระบบ 4-4-2 นำทีมโดย อัลลัน กองกลางห้องเครื่อง แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ปีกตัวจี๊ด และ ริชาร์ลิซอน กองหน้าตัวความหวังของทีม

ขณะที่ทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ มาเล่นในระบบ 4-3-3 นำทีมโดย ติอาโก้ อัลคันทาร่า มิดฟิลด์ตัวสร้างสรรค์เกม โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกกึ่งกองหน้าตัวจี๊ด และ ดีโอโก้ โชต้า ศูนย์หน้าตัวโป้งปิดบัญชี

นาที 2

เปิดฉากมา เป็นทรงฝั่งทีมเยือน หงส์แดง ลิเวอร์พูล ที่ได้ทักทายก่อน จากจังหวะ ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลโด่ง โค้งสวยเข้าไปที่กลางประตู แล้วเป็น โฌแอล มาติป ได้เทคตัวขึ้นโหม่งเหน่ง ๆ แต่โดนไม่ดีเท่าไหร่ บอลหลุดเสาไกลซ้ายมือ ลอยออกหลังไป ได้แค่เสียวเท่านั้น

นาที 8

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ยังได้บุกอย่างต่อเนื่อง จังหวะนี้ ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลไปถึง โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้ลากจี้ไปซัดเองเน้น ๆ ที่หน้าเขตโทษ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว ทว่าไม่หนีตัวเท่าไหร่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เซฟเอาไว้ได้ทัน ไม่ยอมให้ทีมเสียประตู

นาที 9 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูขึ้นนำไปก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่ไก่โห่เป็น 1-0 !!! จากจังหวะ ซาดิโอ มาเน่ จิ้มตามช่องตัดหลังแนวรับให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน วิ่งสอดเติมขึ้นมาถึงบอลที่สุดเส้นหลังในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะตวัดเลียด หักย้อนมาที่หัวกระโหลกตั้งให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ แบบไม่จับ ส่งบอลพุ่งแรงโค้งสวยหนีมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาแรกซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่ายอย่างสวยงาม 

นาที 15

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกขึ้นมาอีกระลอก จังหวะนี้ ดีโอโก้ โชต้า ลากบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวา ก่อนจะดึงจังหวะรอเพื่อนแล้วไหลย้อนมาที่หน้าเขตโทษให้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ วิ่งมาตะบันด้วยซ้ายเน้น ๆ นอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงน่ากลัว แต่ยังไม่ดีพอที่จะเป็นประตู จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ปัดทิ้งออกหลังเอาไว้ได้ทัน

นาที 19 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประมาณหนีห่างเป็น 2-0 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็ว จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แทงบอลทะลุช่องคิลเลอร์พาสเข้าไปในเขตโทษฝั่งขวาให้ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ได้สปีดหลุดเดี่ยวไปแต่งบอลหนึ่งที ก่อนจะเอี้ยวตัวปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ พุ่งแรงโค้งสวยผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เสียบเสาไกลซ้ายมือ เข้าประตูไป ตุงตาข่าย อย่างสวยงาม

นาที 25

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล ขึงเกมรุกอยู่ที่หน้าเขตโทษของเจ้าถิ่น จังหวะนี้ ซาดิโอ มาเน่ ลากบอลจี้เร็วจี๋ขึ้นมาเองถึงหน้าเขตโทษ ก่อนจะตัดสินใจ วางเท้าส่องไกลด้วยขวาเน้น ๆ เต็มข้อนอกกรอบ ส่งบอลพุ่งแรงแต่ไม่หนีมือเท่าไหร่ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ทุบทิ้งออกมาได้ทัน

นาที 33

เกมต้องหยุดชะงักไปชั่วขณะ เมื่อ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน มีอาการบาดเจ็บเลือดกำเดาไหล จากจังหวะที่ไปโดนแขนของ แอนดรอส ทาวน์เซนด์ ฟาดเข้าใส่ตอนเบียดกัน แพทย์ลงมาเช็คอาการอยู่พักนึง สุดท้ายยังเล่นต่อไปได้ ไม่มีปัญหาอะไร

นาที 38 GOAL!!!

เจ้าถิ่น ทัพท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เอฟเวอร์ตัน มาได้ประตูตีไข่แตกไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 !!! จากจังหวะ ตัดบอลได้แล้วสวนกลับเร็วเป็น ริชาร์ลิซอน ดีดบอลเลียดไซด์ก้อยทะลุช่องคิลเลอร์พาสให้ เดมาราย เกรย์ วิ่งสอดหลุดเดี่ยวเข้าไปที่กลางประตู ก่อนจะได้ล่อเป้า ซัดด้วยซ้ายลอดหว่างขาของ อลีสซง เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูทีมเยือน กระดอนเข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างสวยงาม 

นาที 45+1

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ลุ้นส่งท้าย จากจังหวะ ต่อบอลทำเกมกันขึ้นมาได้สวย แล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ แทงทะลุช่องให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ได้หลุดไปถึงสุดเส้นหลังฝั่งขวา ก่อนจะตักโด่งข้ามแนวรับไปที่เสาไกลให้ ซาดิโอ มาเน่ สอดมาเทคตัวขึ้นโขกคนเดียวเน้น ๆ ส่งบอลไปตรงตัวของ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ที่ยังยืนตำแหน่งได้ดี ผวาปัดทิ้งออกมาได้ทันหวุดหวิด

หมดเวลาครึ่งแรก เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดถึง 67 เปอร์เซ็นต์ ทัพหงส์แดงเป็นฝ่ายพับสนาม ขึงเกมรุกบุกใส่เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน อยู่แทบจะฝั่งเดียว ยิงประตูขึ้นนำไปก่อนแล้ว สกอร์ตอนนี้ เอฟเวอร์ตัน 1 ลิเวอร์พูล 2 !!!

นาที 48

เปิดเกมครึ่งหลังมา เป็นทางฝั่งทีมเยือน ลิเวอร์พูล ที่บุกเข้าใส่เจ้าถิ่นทันที จังหวะนี้ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลากบอลสวนกลับเร็วขึ้นมาทางกราบขวา เจ้าตัวแทงทะลุช่องให้ ซาดิโอ มาเน่ ทำลายกับดักล้ำหน้าหลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะจบช้าไปหน่อย พลิกยิงด้วยขวาโดน เบน ก็อดฟรีย์ ตามมาบล็อกออกหลังเอาไว้ได้ทันเฉียดฉิว

นาที 55

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ลูกฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ รับอาสา วิ่งมาส่องเน้น ๆ ติดกำแพง ก่อนที่จังหวะต่อมา ติอาโก้ อัลคันทาร่า ได้ยิงสวนตูมเดียวกลับเข้าไปอีกครั้ง ทว่าก็ยังไม่ตรงกรอบ หลุดออกหลังไปอยู่ดี

นาที 59

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน นอกจากจะสู้ไม่ได้แล้ว ยังต้องมาเสียศูนย์หน้าตัวชูโรงอย่าง ซาโลมอน รอนดอน ที่มีอาการบาดเจ็บ จนสุดท้ายเล่นต่อไม่ไหว ราฟาเอล เบนิเตซ อดีตกุนซือหงส์แดง จัดการเปลี่ยนเอา แอนโธนี่ย์ กอร์ดอน นักเตะดาวรุ่งลงสนามมาเล่นแทน ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย

นาที 63

เจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน มาได้ฟรีคิกระยะอันตราย ประมาณ 25 หลา หน้ากรอบเขตโทษตรงกลาง แล้วเป็น แอนดรอส ทาวน์เซนด์ รับหน้าที่ วิ่งมาบรรจงปั่นด้วยซ้ายเน้น ๆ ส่งบอลไปแฉลบกำแพง สุดท้ายกระดอนออกหลังไป ได้เป็นลูกเตะมุม

นาที 64 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูหนีห่างออกไปอีกครั้งเป็น 3-1 !!! จากจังหวะ ความผิดพลาดของ เชมัส โคลแมน ที่จับบอลจ่ายคืนหลังตรงกลางสนามลั่น แล้วเป็น โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ฉกไปดื้อ ๆ ศูนย์หน้าทีมชาติอียิปต์กระชากหนีกองหลัง หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะได้ล่อเป้า บรรจงแปเลียดด้วยซ้ายเล่นทางเน้น ๆ ส่งบอลพุ่งผ่านมือ จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น ค่อย ๆ กลิ้งเสียบเสาไกลขวามือ เข้าประตูไป ซุกก้นตาข่าย อย่างเฉียบคม

นาที 79 GOAL!!!

ทีมเยือน ลิเวอร์พูล มาได้ประตูปิดกล่องเป็น 4-1 !!! จากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เติมสูงขึ้นมารับบอลทางกราบซ้าย เจ้าตัวดึงจังหวะเงยหน้ามองแล้วจ่ายเลียดยัดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ดีโอโก้ โชต้า ที่ยืนหันหลังให้ประตูอยู่ ได้โชว์ทักษะไขว้บอลพลิกหลบ อัลลัน มาที่หน้าแรกได้สวย ก่อนจะก้มหน้าตะบันมุมแคบด้วยซ้ายเต็มข้อ ส่งบอลสวนตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด ผู้รักษาประตูเจ้าถิ่น เบียดเสาซ้ายมือ เสยคานเข้าประตูไป ตุงตาข่าย ไม่เหลือซาก

นาที 81

ช่วงท้ายเกม ทีมเยือน ลิเวอร์พูล น่าจะได้จุดโทษแบบสุด ๆ เป็นจังหวะ ดีโอโก้ โชต้า พยายามจะลุยเข้าเขตโทษ ทว่ามือของ เชมัส โคลแมน ไปปัดโดนบอล ทำให้เสียจังหวะไปอย่างน่าเสียดาย ผู้เล่นหงส์แดง โวยวายฟ้องจะเอาจุดโทษกันใหญ่ แต่เป็น พอล เทียร์นี่ย์ ผู้ตัดสินในเกมนี้ ไม่ได้ว่าอะไร ให้เล่นกันต่อไป แถมไม่ย้อนดู VAR อีกตะหาก

หมดเวลาการแข่งขัน เป็นทีมเยือน ลิเวอร์พูล บุกมาไล่ถล่มเอาชนะเจ้าถิ่น เอฟเวอร์ตัน ไปได้ด้วยสกอร์ 4-1 !!! รั้งอันดับที่ 3 ของตารางคะแนน โดยนัดต่อไปจะต้องออกไปเยือนวูล์ฟแฮมป์ตัน ในคืนวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม 2564 ส่วนทางด้านเอฟเวอร์ตัน ร่วงมาอยู่ที่ 14 ของตาราง นัดต่อไปจะเปิดบ้านพบกับอาร์เซน่อล ในคืนวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน 2564 ที่จะถึงนี้