คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ เรอัล มาดริด ยอมรับ เชลซี เป็นฝ่ายเหนือกว่าในครึ่งแรกเพราะการยืนตำแหน่งของ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ครึ่งหลังจึงแก้เกมโดยการปรับแท็คติกให้ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ คอยตามประกบ
คืนวันอังคารที่ผ่านมา “ราชันชุดขาว” ลงเล่น แชมป์เปี้ยนส์ ลีก บุกชนะ เชลซี อดีตต้นสังกัด 2-0 อยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์พร้อมเพิ่มสถิติเป็นสมัยที่ 15 ต่อไป
การแข่งขันที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ครึ่งแรกไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จนกระทั่งครึ่งหลัง ทีมของ อันเชล็อตติ รัวยิงจากการเบิ้ลของ โรดรีโก้ ตัวรุกบราซิลเลี่ยน
“เชลซี เล่นได้ดีมาก พวกเตรียมตัวสำหรับเกมนี้ และเราต้องเจอความยากลำบากในการรักษาสกอร์ 0-0 ก่อนพักครึ่งแรก” กุนซืออิตาเลียน กล่าวหลังจบเกม
“ครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นมาก และยิงได้สองประตู เราพอใจที่ได้ผ่านเข้ารอบ”
“ความจริงแล้ววันนี้ฟอร์มของ โรดรีโก้ ไม่ดีเท่าบางเกม และผมต้องมีการพูดคุยเรื่องการยืนตำแหน่งในเกมรับกับเขาบ้าง”
“มีบางเกม โรดรีโก้ โชว์ฟอร์มเยี่ยมโดยที่ไม่มีชื่อทำประตู วันนี้เขายิง 2 ลูกในรอบก่อนรองชนะเลิศ ซึ่งนั่นน่าประทับใจ”
ถึงแม้ โรดรีโก้ เหมายิงแต่รางวัล แมน ออฟ เดอะ แมทช์ อย่างเป็นทางการจาก ยูฟ่า นั้นตกเป็นของ บัลเบร์เด้ ผู้ทำแอสซิสต์ประตูปิดกล่อง
“ครึ่งแรกเราประสบปัญหาเพราะการยืนตำแหน่งตรงกลางเยื้องไปทางขวาของ กองเต้” อดีตนายใหญ่ เอฟเวอร์ตัน เปิดเผยเพิ่มเติม
“เราใช้ คามาวิงก้า เพรสซิ่งใส่ รีส เจมส์ และนั่นทำให้การคุม กองเต้ เป็นเรื่องยาก”
“โมดริช ต้องคอยประกบ เอ็นโซ ทำให้เราไม่สามารถป้องกันตำแหน่งนั้นได้ดีพอ และทำให้ คามาวิงก้า ต้องเจอสถานการณ์ 2 รุม 1”
“ครึ่งหลังผมจึงเปลี่ยนให้ บัลเบร์เด้ ยืนเยื้องมาทางซ้ายเพื่อควบคุมตำแหน่งของ กองเต้”
“ครึ่งแรก เราปล่อยให้ เชลซี ครอสจากพื้นที่ตรงนั้น 6 ครั้ง ครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้นเยอะ”