ทีเซอร์ แอน – Faces of Anne

แอน – FACES OF ANNE
— 8.6/10 —
หนังจิตวิทยาระทึกขวัญ ที่เล่าอย่างมีชั้นเชิง
ขบคิดตลอดทั้งเรื่องตั้งแต่วินาทีแรกยันวินาทีสุดท้าย

แอน – Faces of Anne เป็นหนังที่ซื้อเราได้ตั้งแต่ปล่อยโปสเตอร์แรก ด้วยคำโปรยที่น่าสนใจว่า “ทุกคนชื่อแอน” พร้อมด้วยนักแสดงอย่าง อุ้ม-อิษยา, เจนนิษฐ์, มิวสิค, ออกแบบ-ชุติมณฑน์, วี-วิโอเลต, ปันปัน-สุทัตตา, ก้อย-อรัชพร, นาน่า-ศวรรยา, มินนี่-ภัณฑิรา และอิ้งค์-วรันธร ทำให้เพิ่มดีกรีความน่าสนใจ อยากดูแบบสุด ๆ จนกระทั่งปล่อยตัวอย่างมา รวมถึงชื่อชั้นของผู้กำกับอย่าง คงเดช จาตุรันต์รัศมี ที่ฝากผลงานชื่อดังเอาไว้มากมาย ก็ยิ่งทวีความอยากดูมากขึ้น และแล้วก็มีโอกาสได้ไปดูรอบสื่อ ต้องขอขอบคุณทาง M Pictures มา ณ ที่นี้ด้วย

เป็นเรื่องที่เขียนรีวิวยากเหมือนกัน เพราะมีความเสี่ยงจะสปอยล์สูงมาก เอาเป็นว่า แอน – Faces of Anne บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้หญิงคนหนึ่งตื่นขึ้นมาในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย เธอไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่นี่ได้ยังไง รู้เพียงแต่ว่าเธอชื่อ “แอน” และเธอก็รับรู้ได้ว่าไม่ใช่เธอที่อยู่ที่นั่นคนเดียว ยังมีหญิงสาวคนอื่นอยู่ด้วย และพวกเธอก็ชื่อ “แอน” เช่นกัน ซึ่งในทุกคืนพวกเธอก็จะถูกล่าโดยปีศาจหัวกวางนามว่า Vertigo พวกเธอจะหนีรอดไปได้ไหม? แล้วแอนตัวจริงคือใคร? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ไปหาคำตอบกันได้ในเรื่องนี้เลย

ต้องขอบอกก่อนว่านี่ไม่ใช่หนังแนวไล่เชือด slasher จ๋า ๆ ที่บอกเล่าชั้นเดียวทื่อ ๆ แบบนั้น แต่มันเป็นหนังจิตวิทยาที่ใส่ความเป็น slasher เข้ามาเพื่อเป็นเครื่อมือหนึ่งในการบอกเล่าเรื่องราวเท่านั้น เป็นแนวจิตวิทยาระทึกขวัญที่เขียนบทได้อย่างชาญฉลาด ร้อยเรียงเรื่องราวได้ดี ที่ในระหว่างทางที่จุดให้เราได้ขบคิดตลอดทั้งเรื่อง คือแทบจะทุกจุดในเรื่องสำคัญหมด ละสายตาไม่ได้เลย นับตั้งแต่วินาทีแรกของหนังยันวินาทีสุดท้ายของหนังจนภาพดำเลย คือตลอดทั้งเรื่องหนังจะใส่ข้อมูลต่าง ๆ นานา ให้เราได้คิด สงสัย สับสน งงงวย เหมือนโยนจิ๊กซอว์มาทีละชิ้นให้เราไปต่อเอง แต่ไม่บอกว่ามันคือส่วนไหน พอหนังดำเนินไปหนังจะค่อย ๆ บอกว่าภาพใหญ่มันคืออะไร แล้วให้เราไปปะติดปะต่อเอา เพราะฉะนั้นความสนุกในการดูเรื่องนี้อย่างนึงคือการได้ให้สมองทำงานตลอดเวลาที่ได้ดู ให้เราได้คิดว่าภาพตรงนั้นมันเชื่อมกับตรงไหนในหนังส่วนไหน มีความเป็นหนังสไตล์แบบค่าย A24 อยู่เหมือนกัน แต่เข้าใจง่ายกว่ากันเยอะ 

พอบอกไปแบบนี้หลายคนอาจจะบอกว่าต้องดูยากแน่ ๆ ตีความเยอะชัวร์ แฝงนัยยะสัญญะมากมาย มันก็เยอะแหละ แต่หนังไม่ได้ดูยากขนาดนั้น ไม่ยากเกินความเข้าใจ มันเล่าตรงไปตรงมาด้วยซ้ำ เพียงแต่มันมีหลายชั้น หนังเล่าสิ่งที่จำเป็นและเฉลยเรื่องราวออกมาให้คนดูหมดเลยว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันคืออะไร เพียงแต่ว่าตัวเราเองอาจจะไม่ได้เข้าใจ 100% กับภาพที่เกิดขึ้น ยังเชื่อมโยงบางจุดไม่ได้ ยังมีบางจุดที่ไม่เคลียร์ พอจะคาดเดาบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าถูกไหม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เข้าใจว่าภาพรวมทั้งเรื่องมันคืออะไร เป็นอะไร เพราะหนังไม่ได้ใจร้ายปล่อยเคว้งให้เราคิดเองทั้งหมด มีจุดที่หนังเฉลยและบอกมาจากปากตัวละครเลยว่ามันอะไรยังไง คือถ้ามองในจุดนั้นก็เพียงพอต่อความเข้าใจ

แต่ถ้าจะมองลึกลงไปอีกชั้นนึง หนังยังสอดแทรกถึงปัญหาสังคม ทั้งแง่ปัญหาของวัยรุ่น, Social Media, โรคทางจิตเวช หรือแม้กระทั่งเรื่องของการเมือง 

ทางด้านของการแสดง ด้วยความที่นักแสดงเยอะแบบเยอะมาก จนแอร์ไทม์บางตัวละครก็น้อยไป บางตัวก็เยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัด มันก็มีทั้งข้อดีข้อเสียในตัว ข้อดีคือเราจะได้ลุ้นว่านักแสดงที่เราชื่นชอบหรืออยากเห็นการแสดงของเธอจะโผล่มาเมื่อไหร่ฉากไหน ข้อเสียคือความที่เป็นนักแสดงแต่ละคนความสามารถมันไม่เท่ากัน การที่ตัวละครเดียวกันแต่เปลี่ยนหน้าไป นั่นหมายความว่าเปลี่ยนนักแสดง คือบางคนบุคลิกมันเปลี่ยนทั้งการพูดหรือการแสดงท่าทาง มันเลยดูแบบขัด ๆ ในด้านความรู้สึก แต่บางคนก็เหมือนอย่างน่าชื่นชม 

งานด้านภาพไม่มีข้อติใด ๆ เลย น่าชื่นชมมาก ทั้งการจัดมู้ดและโทนที่คุมเอาไว้ได้อย่างดี การใช้สีต่าง ๆ ในการเล่าเรื่อง มุมกล้อง การจัดวางเฟรม โดยเฉพาะเทคนิคการตัดต่อต่าง ๆ ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ทั้งการเปลี่ยนฉากอย่างทันที การใช้เอฟเฟคเปลี่ยนหน้า เรียกว่าแพรวพราวและสร้างสรรค์ไม่ใช่เล่น 

สรุปแล้ว แอน – Faces of Anne เป็นหนังที่บทล้ำและน่าชื่นชมมาก ฉุดคนดูเอาไว้ได้ตลอดทุกวินาทีกับความสับสน งงงวย สงสัย พร้อมด้วยปริศนาตรงหน้าที่น่าติดตามว่าจริง ๆ มันเกิดอะไรขึ้น? ใครคือแอน? แอนตัวจริงคือใคร? ทำไม? อะไร? ยังไง? มีชั้นเชิงในการเล่า สร้างสรรค์และชื่นชมในจินตนาการการเขียนบทจริง ๆ รวมถึงการซ้อนทับด้วยประเด็นทางสังคมก็ยังน่าชื่นชมเข้าไปใหญ่ นับว่าเป็นหนังไทยกับแนวที่เราไม่ค่อยได้เห็นนัก มันทั้งแปลกใหม่ น่าสนใจ น่าชื่นชม เป็นรสชาติใหม่ที่คอหนังไทยอาจไม่ชิน เชื่อว่ารสชาติอาจแปลกไปบ้าง และถึงแม้บางส่วนอาจจะยังไม่เข้าใจรสชาติที่แท้จริงว่ามันคืออะไรกันแน่ แต่การได้กินอาหารจานนี้ก็นับเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยทีเดียว