เอนริเก้ ริเกลเม่ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ประกาศชิงตำแหน่งประธานสโมสรของ เรอัล มาดริด กับประธานคนปัจจุบันอย่าง ฟลอเรนติโน่ เปเรซ พร้อมตั้งเป้าพาทีมสู่ระดับโลก
เปเรซ ชนะการเลือกตั้ง 3 ครั้งรวดตั้งแต่ปี 2009, 2013 และ 2017 แบบไร้คู่แข่ง โดยถูกมองว่าเป็นเพราะกฎสโมสร ที่ถูกเขียนขึ้นในสมัยของเขา เพื่อสร้างอุปสรรคให้คู่แข่ง
กฎดังกล่าวกำหนดให้ผู้ท้าชิงต้องมีประสบการณ์อย่างน้อย 20 ปี และมีเงินมัดจำเป็นจำนวน 15 เปอร์เซ็นต์ของงบสโมสร หรือราวๆ 92.5 ล้านยูโร
ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธาน “ราชันชุดขาว”, เปเรซก็ควบตำแหน่งซีอีโอของกลุ่มธุรกิจ ACS ซึ่งเป็นบริษัทด้านวิศวกรรมโยธาและการก่อสร้างที่ใหญ่ที่สุดในสเปนด้วย โดย Forbes เผยว่า ท่านประธานมีทรัพย์สินราวๆ 1.8 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ดี ริเกลเม่ ได้ประการตัวท้าชิงตำแหน่งของ เปเรซ และตั้งเป้ายกระดับสโมสรขึ้นไปอีกขั้น
นักธุรกิจวัย 32 ได้กล่าวถึงความก้าวหน้าของสโมสรในยุคของ เปเรซ แต่มองว่าถึงเวลาแล้วที่ มาดริด ต้องเปลี่ยนเป็นองค์กรที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และพร้อมโอบรับไอเดียใหม่ๆ
เขากล่าวผ่าน El Confidencial ว่า “ตอนนี้ ถึงเวลาต้องเลือก ว่าสโมสรจะมุ่งไปในทิศทางใหม่และบริหารด้วยความเป็นมืออาชีพอย่างที่สุด เพื่อพัฒนาเป็นสโมสรระดับโลกอย่างแท้จริง หรือจะพบกับปัญหา และเป็นระดับโลกแบบที่ไม่ได้ไปทัวร์ (ปรีซีซั่น) ที่อเมริกา”
“ซานติอาโก้ เบร์นาเบว เป็นผู้วางรากฐานให้กับ เรอัล มาดริด เขาคือประธานอันดับหนึ่งในประวัติศาสตร์โดยไม่ต้องสงสัย แต่หลังจากนั้นเราก็มีประธานเก่งๆอีกหลายราย และในจำนวนนั้น ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ก็เป็นคนที่โดดเด่น เขาทำอะไรดีๆให้สโมสรไว้มากมาย”
“เปเรซ เป็นผู้สร้าง เรอัล มาดริด 2.0 แต่สโมสรนี้จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลง”
“เรอัล มาดริด ต้องเป็นของสมาชิกสโมสร”
ริเกลเม่ เป็นผู้ก่อตั้งและผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท Cox Energy ที่ทำธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะด้านพลังงานแสงอาทิตย์ และมีโปรเจคต์อยู่ในยุโรปและลาตินอเมริกา แม้จะยังไม่เป็นที่รู้จักสักเท่าไหร่
แม้ยังไม่แน่ชัดว่าผู้ท้าชิงรายนี้จะสามารถต่อกรกับประธานคนปัจจุบันได้แค่ไหน แต่นี้คือพัฒนาการของสโมสรที่ควรจับตามอง