ภายหลัง ปัลลาดิโน่ เข้ามาคุมทีม มอนซ่า เริ่มทำผลงานดีขึ้นเก็บชัยจนปัจจุบันไต่มาอยู่อันดับ 14 โดยมีแมทช์น่าจดจำคือการเปิดบ้านพลิกล็อคชนะยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา มอนซ่า จัดงานเลี้ยงดินเนอร์เพื่อฉลองเทศกาลคริสต์มาสล่วงหน้า ซึ่ง แบร์ลุสโคนี่ เข้าร่วมด้วยและได้จับไมค์โครโฟนกล่าวชื่นชม ปัลลาดิโน่
“เราหาโค้ชคนใหม่พบ เขามาจากทีมชุดเยาวชน เขาเป็นคนดี, มีความเมตตา, ฉลาดหลักแหลม และสามารถกระตุ้นลูกทีมได้”
นอกจากการเปลี่ยนกุนซือแล้ว แบร์ลุสโคนี่ ยังเปิดเผยถึงเคล็ดลับอย่างอื่นที่เขาใช้ด้วย
“ผมตัดสินใจที่จะการกระตุ้นนักเตะในทีมเพิ่มขึ้นอีก โดยการบอกไปว่า ตอนนี้พวกนายจะได้ลงเล่นเจอ มิลาน, ยูเวนตุส และอื่นๆ”
“ดังนั้นหากพวกนายปราบหนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ได้ ฉันจะพาเหล่าโสเภณีขึ้นมาเต็มรถบัส เพื่อให้บริการพวกนายถึงห้องแต่งตัวเลย”
คำพูดดังกล่าวทำให้ แบร์ลุสโคนี่ ได้รับเสียงวิจารณ์จาก ดานิเอล่า สโบรลลินี่ สมาชิกสภาหญิงจากพรรคการเมืองของอิตาลี
“นั่นเป็นการใช้ภาษาที่เหยียดเพศอย่างที่ แบร์ลุสโคนี่ ทำเป็นปกติ, เป็นมุขตลกที่ไร้รสนิยม ซึ่งทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก”
ภายหลังเจอกระแสวิจารณ์ ผู้บริหารวัย 86 ปี โพสต์โซเชียลมีเดียส่วนตัวเพื่อชี้แจง
“ผมพูดคุยในห้องแต่งตัวตามปกติกับลูกทีม มอนซ่า ซึ่งชัดเจนว่าคำพูดของผมเป็นแค่มุขตลกเท่านั้น”
“พูดตามตรงนะ ผมไม่เคยคิด และไม่จินตนาการเลยว่า คำพูดของผมจะทำให้เกิดกระแสในแง่ลบ คำวิจารณ์เหล่านั้นไม่มีความสร้างสรรค์ และไม่ตรงกับความเป็นจริงอีกด้วย”
“ผมรู้สึกสงสารนักวิจารณ์เหล่านั้น บางทีอาจเป็นเพราะพวกเขาขาดอารมณ์ขัน จึงทำให้รู้สึกเศร้าโศก และโจมตีคนที่พวกเขามองว่าเป็นศัตรูโดยไม่จำเป็น”
“แต่ตอนนี้ถึงช่วงเวลาคริสมาสต์แล้ว ดังนั้นผมขออวยพรให้พวกเขาได้รับสิ่งที่ดีที่สุดเช่นกัน”
เมื่อปี 2011 แบร์ลุสโคนี่ เคยโดนข้อหามีความสัมพันธ์กับหญิงขายบริการซึ่งยังเป็นผู้เยาว์ แต่ศาลตัดสินให้พ้นจากความผิด เนื่องจากมองว่า อดีตเจ้าของ เอซี มิลาน ไม่รู้มาก่อนว่าหญิงคนนั้นอายุต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด
ต้นเดือนหน้า มอนซ่า เตรียมกลับมาลงเล่นอย่างเป็นทางการ โดยพวกเขามีโปรแกรมเจอกับ ยูเวนตุส อีกครั้งวันที่ 29 มกราคม แล้วหลังจากนั้นสามสัปดาห์เตรียมพบ เอซี มิลาน