ในเที่ยวบินพาณิชย์กลางน่านฟ้า ที่ถูกภัยร้ายชีวภาพจู่โจมโดยไม่คาดคิด
กำลังจะคร่าชีวิตคนทั้งลำในเวลาอันสั้น การดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด
ท่ามกลางสถานการณ์ที่เหมือนไร้ทางออก เพราะไร้สนามบินให้ลงจอด!
Emergency Declaration เป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์แห่งปี ผลงานผู้กำกับ ฮันแจริม มือรางวัลและผลงานสร้างรายได้ อาทิเช่น The King (2017), The Face Reader (2013), The Show Must Go On (2007) และ Rules of Dating (2005) ผลงานครั้งนี้ถูกเตรียมการมาอย่างดีเป็นเวลายาวนาน ทุ่มเทเต็มที่ด้วยทุนสร้างถึง 28,000 ล้านวอน ขนทัพนักแสดงแถวหน้าของวงการ สู่ผลลัพธ์ความสำเร็จที่ได้รับเลือกให้เข้าฉายโชว์นอกสายประกวด (Out of Competition) ในงานเทศกาลหนัง Cannes Film Festival ครั้งที่ 74 (2021) ซึ่งได้รับคำชมและเสียงปรบมือเกรียวหลังชมนานถึง 10 นาที นอกจากนี้ ยังได้กระแสการต้อนรับอย่างดีจากผู้ชมในวันแรกที่ออกฉาย (วันเดียวกับที่เขียนรีวิวฉบับนี้) มียอดผู้ชมมียอดผู้ชมหลายแสน ยืนอันดับหนึ่ง Box office ประจำวันอย่างสวยงาม
อันดับแรก มาทำความรู้จักคำว่า Emergency Declaration กันก่อน คำ ๆ นี้ หมายถึง ‘ในกรณีที่เครื่องบินที่อยู่ในเที่ยวบินไม่สามารถดำเนินการบินได้อีกต่อไป นักบินจะต้องทำการประกาศสถานการณ์เร่งด่วน แจ้งเตือนต่อหน่วยปฏิบัติการด้านสื่อสารอากาศยาน เครื่องบินที่ได้ทำการประกาศนี้จะได้รับลำดับความสำคัญในการลงจอดก่อนเครื่องบินลำอื่น ๆ ทั้งหมด การประกาศนี้จึงเปรียบเหมือนกับการประกาศกฎอัยการศึก’
เที่ยวบิน KI 501 เส้นทางกรุงโซล-เกาะฮาวายในเรื่อง ก็ได้ทำการประกาศเหตุฉุกเฉินเช่นนี้ เมื่อพบว่ามีผู้โดยสารคนหนึ่งเสียชีวิตลงอย่างปัจจุบันทันด่วน เป็นปริศนาหลังเริ่มออกเดินทางไป ความโกลาหลก่อตัวมากขึ้น เมื่อผู้โดยสารและลูกเรือทยอยออกอาการป่วย ซึ่งพบว่าเป็นการแพร่เชื้อไวรัสจากผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งที่แฝงตัวเดินทางมาด้วย การเร่งนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินทันที (ณ ที่ใดก็ได้ที่ใกล้ที่สุด เท่าที่เชื้อเพลิงจะอำนวย) เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงการรักษาเพื่อให้รอดชีวิต (ตราบที่มียารองรับไวรัสร้ายประหลาดตัวนี้)
แต่การประกาศเหตุฉุกเฉินนั้นกลับไม่ได้รับการตอบรับไม่ว่าจะจากประเทศใด หรือแม้แต่ประเทศของตัวเอง! เพราะอะไร ชวนไปติดตามดูกัน
วิกฤติภายใต้เวลาจำกัด พื้นที่จำกัด รวมถึงสภาวะร่างกายที่จำกัดของกัปตันและลูกเรือที่ต้องรับผิดชอบไฟลต์บิน กลายเป็นปัญหาที่ไร้ทางออก เครื่องที่ไร้ที่ทางให้ลงจอด รวมถึงความอลหม่านยื้อยุดการตอบรับความช่วยเหลือของภาคพื้นดิน ที่มีรัฐมนตรีและตำรวจนายหนึ่งยืนหยัดต่อสู้กับพลังต้านที่ใหญ่กว่า นำมาซึ่งความระทึกลุ้นและดราม่าสะเทือนใจไปทั่ว
ด้วยว่าเรื่องนี้จะเป็นงานหายนะแอ็คชั่นบนเครื่องบินครั้งแรกของเกาหลี ในขณะที่ฟากฮอลลีวู้ดมีนำเสนออยู่บ่อย ๆ จึงทำให้มีการลงทุนกับโปรดัคชั่นอย่างจริงจังเต็มที่ เช่น การสั่งซื้อโครงเครื่องโบอิ้ง 777 ลำจริงจากอเมริกามาติดตั้งกลไกหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อให้ได้ภาพจากการถ่ายทำที่ตื่นเต้นสมจริง เป็นการหมุนเครื่องบินลำใหญ่กว่าที่หนังฮอลลีวู้ดเคยทำมาก่อน ก็จะเป็นด้านเทคนิคโปรดัคชั่นที่มาเบนความสนใจ แก้โจทย์พล็อตจำเจของการก่อการร้ายบนเครื่องบินได้ระดับหนึ่ง รวมถึงการใช้เสน่ห์เฉพาะตัวของหนังเกาหลีที่สามารถผูกปมดราม่าห่อรวบความระทึกลุ้นของเรื่องราวแอ็คชั่น ซึ่งเรื่องนี้จัดหนักมาให้แบบทั้งปมเดี่ยวรายบุคคลของหลายคน ปมใหญ่มัดรวมหมู่มวลชนหรือสังคม เพิ่มมิติของเนื้อหาได้มากขึ้น
มวลอินเนอร์มหาศาลที่ส่งออกมาโดยเหล่านักแสดงเบอร์ใหญ่ ได้ช่วยยกระดับความน่าดูไปอีก ได้แก่ ซงคังโฮ อีบยองฮอน จอนโดยอน คิมนัมกิล อิมชีวาน คิมโซจิน พัคแฮจุน รวมไปถึงเหล่านักแสดงสมทบอื่นๆอีกมากมาย ที่แม้จะออกฉากแค่แว้บๆ แต่ทุกคนล้วนเป็นนักแสดงที่มีชั่วโมงบินวางใจได้ทั้งนั้น ไม่ใช่ตัวประกอบโนเนมเลย เรียกได้ว่าเป็นกองทัพนักแสดงคุณภาพที่สร้างอารมณ์คล้อยตามได้ดีจริงๆ ที่ประทับใจผู้เขียนมาก คือหน้าสุดจิตของอิมชีวาน เห็นแว้บเดียวก็ขนลุกซู่ได้เลย
ความน่าสนใจของการวางบทฮีโร่เกลี่ยกระจายหลายรูปแบบ เช่น ฮยอนซู (รับบทโดย คิมนัมกิล) นักบินร่วม (co-pilot) และ ฮีจิน (รับบทโดย คิมโซจิน) เพอร์เซอร์ของไฟลต์ ที่ทุ่มเทเพื่อความรอดปลอดภัยของผู้โดยสารเป็นที่ตั้ง อินโฮ (รับบทโดย ซงคังโฮ) ผู้วิ่งเต้นสุดชีวิตในการอนุมัติลงจอดของ KI 501 ไม่เพียงเพราะเขาเป็นตำรวจที่ทำหน้าที่แข็งขัน แต่ภรรยาเขาก็เป็นผู้โดยสารบนเครื่องด้วย ความฮีโร่ด้วยเดิมพันสู้ตายของเขามีบทบาทตลอดทางต่อเหตุการณ์นี้อย่างมาก
แจฮยอก (รับบทโดย อีบยองฮอน) ผู้โดยสารที่มากับลูกสาวโรคเรื้อนกวาง (หรือโรคสะเก็ดเงิน – อากาศที่ไม่เย็นไม่แห้งเกินไป ช่วยให้โรคไม่กำเริบ) เขามีปมอดีตที่เป็นเซอร์ไพรซ์ ความเป็นฮีโร่ที่เขาต้องเอาชนะความกลัวของตัวเอง และช่วยกู้วิกฤติของ KI 501 อย่างน่าจับตาติดตาม หรือแม้กระทั่ง รมต.ซุกฮี (รับบทโดย จอนโดยอน) ผู้ชัดเจนบนหลักการปกป้องชีวิตคนเกาหลีทุกคนไม่ว่าจะเป็นอย่างไร
ในอีกด้านของบทตัวร้าย ก็มีหลายเลเวลหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ผู้ก่อการร้าย ไวรัส บริษัทวิจัย สังคม การเมือง หรือแม้แต่จิตใจมนุษย์เอง ที่จะออกสัญชาตญาณร้าย ขับมาปกป้องความอ่อนแอ ความหวาดกลัวในใจ ช่างเป็นสัจธรรมที่น่าคิด
โดยรวมก็เป็นหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์ที่สนุกมันส์ ปลุกความเร้าใจถี่ ๆ ตลอดเรื่อง ด้วยหลาย ๆ ปมหลาย ๆ อุปสรรคทยอยส่งออกมาเป็นระลอก บางช่วงกระชับ บางช่วงก็ยื้ออารมณ์ไปหน่อย งานภาพเสียงจัดหนัก ถ้าได้ชมในระบบ 4DX คงเร้าใจขึ้นไปอีก แต่ส่วนตัวก็รู้สึกในบางเวลาว่าซาวน์เยอะ โหมฟุมเฟือยจนชาชินไปซะงั้น
ความตื่นตาเร้าใจของฉากวิกฤติภายในเครื่องบินทำได้อารมณ์ดี จนอาจเผลอลืมมองความสมจริงที่ถูกละเลยไปบ้าง เช่นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐานบนเครื่องไม่ได้ร่วมฉากเลย หรือในมุม ‘ไวรัส’ การรู้จักเชื้อใหม่และการรักษาที่ต้องใช้เวลา ถูกรวบรัดตัดตอนไปในความเป็นหนัง ชาวเราในยุคนี้ที่ผ่านประสบการณ์จริงมาแล้วก็อาจตะขิดตะขวงใจได้บ้าง รวมถึงการสามารถเข้าถึงแล็ปแบบง่ายดายเกินจริง ซึ่งอันที่จริงแล้ว พล็อตของไวรัสเป็นสิ่งที่ผู้กำกับได้เตรียมบทไว้เมื่อนานมาแล้วก่อนจะเกิดการระบาดของโควิดเสียอีก
ความยาวร่วมสองชั่วโมงครึ่งสำหรับงานทริลเลอร์แอ็คชั่นที่โหมระทึกถี่ ๆ แบบนี้ ดูกันหอบเหนื่อยเลย 🙂 นอกจากความยืดเยื้อในบางช่วงแล้ว ความพยายามจบในวิถีที่ต่างไปจากหนังแนวนี้โดยทั่วไป ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กินเวลาเพิ่ม คือการแสดงผลลัพธ์ของตัวละครหลักหลังจากเหตุการณ์สำคัญ มองในมุมดีคือสมจริงทะลุปล้องไม่คาใจดีค่ะ
โบนัสอ่านเล่น ๆ ด้วยเรื่องเล่าเล็ก ๆ จาก อีบยองฮอน ในงานแถลงข่าว เขากล่าวว่า เขาได้อาศัยประสบการณ์จริงของตัวเองที่เผชิญอาการตระหนกกลัวเครื่องบินในอดีตมาใช้ในเรื่องนี้ คือเมื่อสมัยอายุสัก 25-26 เขาเคยเกิดอาการจิตตระหนก ช็อคในเครื่องบินที่เขากำลังโดยสารไปสหรัฐอเมริกา เป็นความรู้สึกหายใจไม่ออก เหมือนตัวเองกำลังจะตาย ถึงขั้นที่ว่ามีการประกาศหาแพทย์บนเครื่องเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน ในที่สุดทริปนั้น เขาก็ถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย ณ ตอนนั้น มันคือความทรงจำที่เลวร้ายทีเดียว (แต่ตอนนี้หายแล้วนะ) นอกจากนี้เขาเล่าแนะนำนักแสดงที่รับบทเป็นลูกสาวในเรื่อง คือน้อง คิมโบมิน นั้น เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของ คิมชีอา นักแสดงเด็กที่รับบทลูกสาวให้อีบยองฮอนในภาพยนตร์เรื่อง Ashfall (2019) เมื่อสามปีก่อนด้วย น่ารักทั้งคู่เลย จากตัวจริงของอีบยองฮอนที่มีแต่ลูกชาย งานนี้เลยได้ฟิลคุณพ่อของลูกสาวสองเรื่องต่อกัน
Trailer :
ติดตามบทความรีวิวอื่นๆ ข่าวสารบันเทิงเกาหลี หรือพูดคุยกับ WARUMANU ได้ที่