ถือว่าเป็นหนังบอลลิวูดอีกเรื่องที่น่าจับตาและเฝ้ารอคอยในรอบปีทีเดียว นับตั้งแต่ได้ยินข่าวว่าจะหยิบนำมาสร้างใหม่ ก็รู้สึกได้ว่าฝั่งอินเดียก็น่าจะดัดแปลงเรื่องราวออกมาได้ประทับใจในอีกรูปแบบไม่แพ้กัน และก็กลายออกมาเป็น “Laal Singh Chaddha ลาล ซิงห์ จั๊ดด้า” หนังดราม่าที่เป็นการรีเมคจากหนังสุดคลาสสิกของฮอลลิวูด อย่าง “Forrest Gump” ที่ใคร ๆ ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่า…หยิบเอาของบนหิ้งมาเล่นแบบนี้ จะเป็นการเล่นของสูงหรือไม่
Laal Singh Chaddha เป็นเรื่องราวระหว่างการเดินทางโดยรถไฟของ ลาล ซิงห์ จั๊ดดา ผู้คิดบวกเสมอได้เริ่มพูดคุยสนทนากับผู้โดยสารฝั่งตรงข้าม โดยเล่าเรื่องราวชีวิตในวัยเด็กของเขากับแม่อันเป็นที่รักและการพบกันครั้งแรกระหว่างเขากับ รูปา เด็กสาวที่เป็นผู้หล่อหลอมชีวิตของเขา ขณะที่ลาลเล่าเรื่องราวของเขาต่อเนื่อง ผู้โดยสารก็มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อฟังเรื่องราวยิ่งใหญ่อลังการที่เผยให้เห็นว่าลาลได้เป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์ที่เขย่าโลกที่สุดในประวัติศาสตร์อินเดียสมัยใหม่ได้อย่างไร และทั้งชีวิตของเขาได้อุทิศให้กับความรักที่เขามีให้อย่างไร
ก็คงจะต้องบอกกันตรง ๆ กันเลยว่า ถ้าจะมาหาความแปลกใหม่อะไรกับ Laal Singh Chaddha คงจะไม่มีให้เท่าไหร่ เพราะก็อย่างที่ทราบว่านี่คือการรีเมคจากหนังฮอลลิวูด ที่ถือว่าฝั่งบอลลิวูดก็ให้ความเคารพต้นฉบับอยู่ไม่น้อย เพราะหนังแทบจะหยิบเอาโครงสร้างและโครงเรื่องแบบเหมือนเป๊ะ ๆ มาร้อยเรียงเลยด้วยซ้ำ จะต่างก็แค่เพียงสถานที่และวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นเท่านั้น และแน่นอนว่าโครงสร้างอะไรแบบนี้มักจะเข้าถึงหัวใจของคนดูฝั่งเอเชียมากกว่า จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่คนฝั่งตะวันตกจะมีความคิดเห็นผ่านรีวิวที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่
แต่สำหรับในความคิดของเรานั้น Laal Singh Chaddha ก็ถือว่าเป็นการคารวะต้นฉบับได้เป็นอย่างดีและถือว่าให้ความเคารพอย่างยิ่ง แม้จะมองได้ว่าเป็นแค่การจับแปะจากหนังฮอลลิวูดมาเป็นบอลลิวูดก็คิดเป็นเช่นนั้นได้ แต่ในส่วนของรายละเอียดต่าง ๆ ระหว่างทางนั้น ต้องยอมรับเลยว่าหนังยังคงเสน่ห์การเล่าเรื่องที่สนุกและเพลิดเพลินดีไม่ต่างกับหนังต้นฉบับเลย และเมื่อนำมาชงใหม่โดยมีฉากหลังเป็นสังคมและประวัติศาตร์ต่าง ๆ ของชาติอินเดีย ก็เป็นการร้อยเรียงที่ดูได้เพลินเรื่อย ๆ
ซึ่งหากจะเจาะรายละเอียดเชิงลึกแบบจริง ๆ แล้ว Laal Singh Chaddha ก็ยังถือว่าจุดบกพร่องรายทางอยู่ตลอดทั้งเรื่อง โดยเฉพาะความไม่กระชับที่เป็นเสน่ห์ของหนังอินเดียเป็นทุนเดิม ที่เอาจริง ๆ ถ้าหากว่ารวบรัดและทำให้สั้นกระชับได้มากกว่านี้ ลดทอนออกไปได้สัก 20 นาที ก็คาดว่าจะให้อารมณ์กลมกล่อมและไม่รู้สึกยืดเยื้อสักเท่าไหร่ แต่กระนั้นการเล่าเรื่องที่สนุกของหนังเรื่องนี้ ก็เป็นข้อดีที่ช่วยทำให้หนังยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่งเรื่องนี้ ดูได้เรื่อย ๆ แบบไม่ต้องเป็นพะวงเรื่องเวลา
องค์ประกอบงานสร้างต่าง ๆ ของ Laal Singh Chaddha ถือว่าดี แต่อาจจะยังไม่ได้สมบูรณ์ที่สุด งานเทคนิคพิเศษหรือซีจีต่าง ๆ บางจุดยังไม่เนียน แต่ก็มีหลายจุดที่แนบเนียนชวนทึ่งเหมือนกัน โดยเฉพาะการตัดต่อใส่ตัวละครลงไปในฟุตเทจภาพเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่หยิบเอาภาพจริง ๆ มาประกอบ ถือว่าเป็นจุดเด่นที่หนังเลือกมาใส่ จุดนี้มีทั้งเนียนบ้างและยังไม่เนียนบ้างปะปนกันไป แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ขัดอรรถรสต่อตัวหนังแม้แต่น้อย
พูดถึงการหยิบเอาประวัติศาสตร์สำคัญ ๆ ต่างมาประกอบในหนังเรื่องนี้ นี่คือเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้โดยแท้ ถึงแม้ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว มันคือไอเดียที่บรรเจิดมาก ๆ ทีเดียว แต่ปัจจุบันก็เป็นเพียงอีกลูกเล่นที่ทั้งหนังและละครบางเรื่องในยุคนี้ก็มักจะนำสูตรนี้ไปใช้เช่นเดียวกัน ทำให้ Laal Singh Chaddha อาจจะไม่ได้สะท้อนถึงความสดใหม่ในมุมนี้ แต่เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่หยิบเข้ามาแทรกนั้น ถือว่าเป็นไฮไลต์ที่ทำให้คนดูตื่นตาตื่นใจไม่น้อย ถึงอาจจะไม่มีพื้นฐานประวัติศาสตร์อินเดียสักเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่า เมื่อคุณออกมาจากโรงหนังแล้ว มันจะจุดประกายให้คุณอยากกลับไปรีเสิร์ชอ่านเพิ่มเติม
และแน่นอนว่า “อาเมียร์ ข่าน” ก็ถือที่สุด แบกหนังทั้งเรื่องนี้เอาไว้ได้สบาย ๆ สมกับซุปตาร์บอลลิวูดตัวจริง เขายังคงมอบการแสดงที่ผ่านการตีความในคาแรกเตอร์นั้น ๆ แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมที่จะแสดงออกมาด้วยอินเนอร์ที่คงความเป็นตัวเองอยู่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของนักแสดงท่านนี้ เขาเป็นจุดเด่นที่ทำให้หนังยาวกว่า 2 ชั่วโมงเรื่องนี้ไม่น่าเบื่อ ซีนตลกหน้าตายก็ดีเด่น ซีนอารมณ์ก็ถึงบทบาท แม้ว่าบทนี้อาจจะไม่ใช่สิ่งที่ท้าทายหรือแปลกใหม่สำหรับเขาเท่าไหร่ แต่ก็คุ้มค่าที่เขาได้หยิบจับทำมันออกมาได้เต็มที่
เอาเป็นว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น Laal Singh Chaddha ก็ถือว่าเป็นการรีเมคจากหนังคลาสสิกที่ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน เพราะโครงสร้างที่ดีเป็นทุนเดิมจากต้นฉบับอยู่แล้ว เมื่อนำมาปรุงแต่งใหม่ในรูปแบบวัฒนธรรมฝั่งเอเชีย ยิ่งสามารถนำไปขยี้ให้ลึกซึ้งมากยิ่งได้อีก และน่าจะเป็นอีกหนึ่งเวอร์ชั่นที่ผู้ชมจะสามารถประทับใจไปตาม ๆ แบบไม่แพ้กับ Forrest Gump ต้นฉบับเลย แม้ว่าหนังไม่มีความแปลกใหม่ใด ๆ เลยก็ตาม แต่นั่นก็ถือว่าเป็นเคารพต้นฉบับเป็นที่สุด
และที่สำคัญ Laal Singh Chaddha ก็ยังคงสอดแทรกไปด้วยเกร็ดทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งคำสอนและข้อคิดคติประจำใจที่สะท้อนเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตอยู่หลาย ๆ ประโยค พร้อมทั้งคละเคล้าไปด้วยบทเพลงประกอบอันเป็นธรรมเนียมของหนังอินเดีย ที่ไม่ได้มีการลุกขึ้นมาร้องเต้น แต่ใส่เข้ามาเพิ่มฟีลลิ่งได้อย่างจับใจ ก็นับว่าเป็นอีกเวอร์ชั่นที่จะทำให้รู้สึกอินตามไปได้ไม่ยาก แม้ไม่อาจจะเทียบกับเวอร์ชั่นต้นฉบับสักนิด แต่ก็เต็มไปด้วยกิมมิกดี ๆ ที่ดีงามไปอีกแบบเช่นกัน
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Laal Singh Chaddha ลาล ซิงห์ จั๊ดด้า
- ประเภท: ดราม่า / ผจญภัย
- ผู้กำกับ: แอดแวต จันดาน
- นำแสดงโดย: อาเมียร์ ข่าน, กรีณา กปูร, โมนา ซิงห์
- ความยาว: 159 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 1 กันยายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: Laal Singh Chaddha ลาล ซิงห์ จั๊ดด้า
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)