รีวิวหนัง “Run Sweetheart Run หนีสิ ที่รักจ๋า” …ไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไป!

อีกหนึ่งหนังที่อยู่นอกสายตาผู้ชมในรอบปีนี้ ที่กลายเป็นหนังเขย่าขวัญที่แอบเซอร์ไพรส์คนดูไม่เบากับคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจ และฉีกตัวเองออกจากหน้าหนังที่มีความบียอนด์มากกว่าที่คิดเอาไว้ นี่คือ “Run Sweetheart Run หนีสิ ที่รักจ๋า” ผลงานความหลอนเรื่องใหม่ ภายใต้แบรนด์ Blumhouse ที่รับประกันความโหดและความเหี้ยมของทั้งนักล่าและผู้ที่ถูกล่า เป็นหนังที่สบประมาทไม่ได้เลย

รีวิวหนัง Run Sweetheart Run

Run Sweetheart Run หนีสิ ที่รักจ๋า เป็นเรื่องราวของ เชอรี่ คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ทำงานเป็นเลขานักกฎหมายในสำนักกฎหมายชื่อดังของเมือง เธอรู้สึกตื่นเต้นที่เจ้านายได้ส่งเธอไปพบกับลูกความคนสำคัญ อย่าง อีธาน เขาเป็นนักธุรกิจผู้ทรงอิทธิพลและเป็นคนที่เธอเริ่มมีความหวังที่จะเติมเต็มชีวิตที่ขาดหายไป เริ่มต้นด้วยดินเนอร์อันแสนหวานสุดโรแมนติก

แต่ความหวานชื่นอยู่ได้เพียงไม่นาน เมื่อ อีธาน ได้เผยธาตุของเขาออกมา เขาคือชายที่เต็มไปด้วยสัญชาตญาณไม่ต่างกับสัตว์เดียรัจฉาน และบัดนี้ เชอรี่ คือเหยื่อที่เขาตามไล่ล่า ไม่ต่างกับเกมแมวไล่จับหนู จากคนแปลกหน้าที่เชื่อว่าจะเริ่มต้นใหม่ด้วยกันได้ กลายมาเป็นปีศาจร้ายที่ชั่วร้ายกว่าที่เธอจินตนาการไว้ มีเพียงกลิ่นคาวเลือดเท่านั้น…ที่จุดประกายความเหี้ยมโหดของมัน และเธอต้องหนี!

รีวิวหนัง Run Sweetheart Run

จะบอกได้ว่าหนังเรื่องนี้เป็นการนำทางคนดูไปในทิศทางที่ถลำลึกขึ้นไปเรื่อย ๆ แล้วก็ไม่คิดว่าหนังจะถลำไปได้ไกลเพียงเท่านี้ เป็นความสยองที่บียอนด์เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกสถานการณ์ที่หนังพยายามนำพาตัวละครไปถึงแต่ละด่านนั้น ๆ นี่คือผลงานของผู้กำกับหญิง “ชาน่า เฟสต์” ที่ถือว่าพลิกขั้วงานกำกับของเธอเหมือนกัน เพราะเราน่าจะรู้จักเธอในหนังโรแมนซ์ดราม่า อย่าง “Endless Love” หรือ “Country Strong”

แต่คราวนี้เธอรับโหมดมาสู่ความโหดคลั่งใน Run Sweetheart Run ที่เธอยังส่วนในการร่วมเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วย แน่นอนว่าพอได้เห็นชื่อ Blumhouse มาเป็นหนึ่งในโปรดักชั่นผู้สร้างหนังเรื่องด้วยแล้ว ก็ต้องยิ่งคาดหวังและเชื่อว่าจะไม่ได้เป็นแค่หนังไล่ฆ่าธรรมดา ๆ เท่านั้น และก็เป็นไปอย่างที่นึกหวังเอาไว้เช่นนั้น เพราะหนังแอบซ่อนเรื่องเล่าเพียงแค่คืนเดียวเอาไว้ได้ซับซ้อนกว่าที่คิดเอาไว้

รีวิวหนัง Run Sweetheart Run

อันที่จริง Run Sweetheart Run เปิดตัวฉายในเทศกาลหนังซันแดนซ์ ตั้งแต่ช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด แต่ก็ต้องถูกเลื่อนฉายไปเป็นปี ๆ และในที่สุดก็ได้ลงจอสตรีมมิ่ง นี่คือหนังที่มีทั้งเทรนด์และความอินดี้ผสมผสานเข้าด้วยกัน อาจจะยังไม่ใช่หนังที่มีองค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบอะไรเท่าไหร่นัก แต่โครงสร้างของหนังก็ชวนในดื่มด่ำไปกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้เรื่อย ๆ

“เอลล่า บาลินสก้า” ที่เรารู้จักเธอในหนัง Charlie’s Angels เวอร์ชั่นล่าสุด มายืนหนึ่งรับบทนำในหนังเรื่องนี้ แม้ว่าการแสดงของเธอจะยังไม่ได้โดดเด่นอะไรสักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัดเช่นกัน เป็นทั้งเหยื่อและเป็นทั้งนักสู้ ถือว่าหนังเรื่องนี้ได้ทำให้เธอได้โชว์ศักยภาพออกมาได้ค่อนข้างดี (ถึงบทจะยังไม่กลมกล่อมก็ตาม)

รีวิวหนัง Run Sweetheart Run

ขณะที่นักแสดงหนุ่มชาวเดนมาร์ก “พิลู แอสเบ็ค” ที่เราเห็นเขาก็แทบจะมองว่าเป็นเล่นเป็นคนดีไม่ได้แล้ว ถือว่าเขาได้บทบาทที่ค่อนข้างท้าทายอยู่ไม่น้อย เพียงแต่ว่าองค์ประกอบในบทของหนังนั้นยังไม่ค่อยมีลูกเล่นอะไรให้ได้เปล่งประกายนัก แต่เขาก็ใส่ความเป็นมอนสเตอร์เอาไว้ได้อย่างเยือกเย็นและน่ากลัว โดยเฉพาะจากการสื่อสารออกมาทางสายตาอันยะเยือกของเขานั่นเอง

เอาเป็นว่า Run Sweetheart Run เป็นหนังที่สร้างความรู้สึกที่บียอนด์ให้กับผู้ชมได้ค่อนข้างดี เพราะหากว่าคุณได้ดูหนังเรื่องนี้จบลง แล้วลองมองย้อนกลับไปดูที่ฉากแรกและจุดเริ่มต้นของหนังอีกครั้ง จะพบว่าหนังได้พาคุณมาไกลจากจุดเริ่มต้นไม่น้อย เต็มไปด้วยโครงเรื่องและเรื่องราวที่ชวนประหลาดใจ มีปริศนาและอีสเตอร์เอ้กซ่อนเอาไว้แบบไม่ทันตั้งตัว

รีวิวหนัง Run Sweetheart Run

แม้ว่าหนังจะพยายามฉีกตัวเองและสร้างความสยองขวัญในรูปแบบที่แตกต่าง แต่ก็ยังจำเป็นต้องใช้ลูกเล่นสูตรสำเร็จเดิม ๆ มาเป็นองค์ประกอบ หนังเรื่องนี้ยังสะท้อนมุมมองหลายอย่างเอาไว้ด้วย โดยเฉพาะการจิกกัดสังคมปิตุลาธิปไตย หรือ ชายเป็นใหญ่ พร้อมใส่ความเฟมินิสต์แบบเบา ๆ เข้าไปแบบไม่ยัดเยียดมาก นี่จึงกลายเป็นหนังเขย่าขวัญที่ไม่ใช่แค่วิ่งหนีเพียงอย่างเดียว แต่พร้อมที่จะสู้กลับด้วย

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Run Sweetheart Run หนีสิ ที่รักจ๋า

  • ประเภท: สยองขวัญ
  • ผู้กำกับ: ชาน่า เฟสต์
  • นำแสดงโดย: เอลล่า บาลินสก้า, พิลู แอสเบ็ค
  • ความยาว: 104 นาที
  • กำหนดฉายในไทย: 28 ตุลาคม 2022 (ที่ Prime Video)

Movie.TrueID METRIC: Run Sweetheart Run หนีสิ ที่รักจ๋า

  • ภาพรวม
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • การเล่าเรื่อง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • การแสดง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • เทคนิคงานสร้าง
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
  • บทภาพยนตร์
    ⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10)

————————————-