กาญารี่ ภายใต้ เคลาดิโอ รานิเอรี่ ได้ประตูชัยทดเจ็บเฉือน บารี่ 1-0 ชนะเพลย์ออฟเลื่อนชั้นขึ้น เซเรีย อา สวนทางกับ สเปเซีย ซึ่งแพ้ เวโรน่า 3-1 ตกชั้นไป เซเรีย บี
สเปเซีย และ เวโรน่า จบด้วยคะแนนเท่ากันในอันดับ 17-18 เซเรีย อา และตามกฎใหม่ที่เพิ่งบังคับใช้ในฤดูกาลนี้ ต้องมีการเพลย์ออฟเพื่อหาผู้ตกชั้น ณ สนามกลาง มาเปอี สเตเดี้ยม
ทีมของ มาร์โก ซาฟฟาโรนี่ ขึ้นนำไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 จาก ดาวิเด้ ฟาราโอนี่ แต่จากนั้นไม่นาน อีธาน อัมปาดู แนวรับชาว เวลส์ ตีเสมอให้ สเปเซีย
อย่างไรก็ตามนาทีที่ 26 ซีรีล เอ็นกองเก้ ยิงให้ เวโรน่า นำอีกรอบ และท้ายครึ่งแรก หัวหอกเบลเยี่ยมคนเดิมจัดเบิ้ลทิ้งห่าง
แม้ครึ่งหลัง ฟาราโอนี่ จะโดนใบแดง และ สเปเซีย เหลือคนมากกว่าได้จุดโทษ แต่ เอ็มบาล่า เอ็นโซล่า กองหน้าตัวเก่งยิงติดเซฟ สุดท้ายต้องยุติช่วงเวลา 3 ฤดูกาลใน เซเรีย อา ไว้เพียงเท่านี้ ส่วน เวโรน่า อยู่รอดต่อไป
ในวันเดียวกัน เซเรีย บี จัดแข่งเพลย์ออฟเพื่อหาทีมเลื่อนชั้นเช่นกัน บารี อันดับ 3 เจอกับ กาญารี่ อันดับ 5 โดยเลกแรกเมื่อสัปดาห์ก่อน เสมอกัน 1-1
การแข่งขันเลกสอง กลับมาเตะกันที่บ้าน บารี่ ท่ามกลางสภาพอากาศมีฝนตก โดย กาญารี่ เจอความกดดัน เพราะตามกฎหากเสมออีก เจ้าบ้านจะได้เลื่อนชั้นเพราะจบอันดับสูงกว่า
ทีมของ เคลาดิโอ รานิเอรี่ เกือบจะหมดหวัง จนกระทั่งนาทีที่ 90+4 เลโอนาร์โด้ ปาโวเล็ตติ ตัวสำรองลงมายิงเผาขนเป็นประตูชัยพา กาญารี่ กลับสู่ เซเรีย อา ได้ภายในปีเดียว
หลังจบเกม เคลาดิโอ รานิเอรี่ วัย 71 ปี เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เข้าไปโอบกอดสตาฟฟ์พร้อมทั้งน้ำตาแห่งความดีใจ
อดีตนายใหญ่ เลสเตอร์ ซิตี้ เข้ารับงานกับ กาญารี เมื่อช่วงต้นปีขณะสโมสรอยู่อันดับ 14 จากนั้นทำผลงานไต่อันดับติดเพลย์ออฟ จนกระทั่งได้เลื่อนชั้นตามเป้าหมายสำเร็จ